คุมทีมฆ่า “เฮียกุ่ย” เซียนพระชื่อดังทำแผนฯ

ตร.ศาลาแดงคุมทีมสังหาร “เฮียกุ่ย ท่าพระจันทร์” เซียนพระชื่อดัง ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ณ จุดลอบสังหาร ก่อนนำตัวฝากขังศาลตลิ่งชันวันพรุ่งนี้ ขณะที่มือยิง ตร.ออกหมายจับแล้ว คาดไม่นานได้ตัวมาดำเนินคดี

วันนี้ (29 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.สุรสิทธิ์ สุทธิพันธุ์ ผกก.สน.ศาลาแดง พ.ต.ท.ปารมี สืบสังข์ รอง ผกก.สส.สน.ศาลาแดง และ พ.ต.ท.วีระศักดิ์ คุณอุดม พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ศาลาแดง นำตัว นายปอนด์ หรือมอญ อนุสรณ์ อายุ 29 ปี น.ส.อำพร หรือนก ทองประดิษฐ์ อายุ 33 ปี นายศุภมิตร หรือต้อง ไทรนิ่มนวล อายุ 25 ปี นายนวพล หรือโอ๋ลาย บันไดทอง อายุ 25 ปี นายพรเทพ หรือโอ๋บ้า ดั่นเจริญ อายุ 39ปี และ นายวิโรจน์ หรือต่อ ยิ้มพวงสิน อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาแก๊งปล้นฆ่านายเลิศชัย เลิศวัฒนารมย์ หรือ “กุ่ย ท่าพระจันทร์” อายุ 55 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่วัดวัดวิศิษฐบุญญาวาส ถนนทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก แขวงและเขตทวีวัฒนา

โดยจุดแรกเป็นบริเวณด้านหลังโบสถ์ ซึ่งนายปอนด์ และ น.ส.อำพร สองสามีภรรยา ขับรถฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ สีเหลือง ทะเบียน สร 9562 กรุงเทพมหานคร สะกดรอยตามรถผู้ตายจากท่าพระจันทร์ มาจอดรอชี้เป้าให้ทีมสังหารโดยเมื่อก่อเหตุเสร็จแล้วยังนำพระเครื่องบางส่วนของผู้ตายมาเก็บซ่อนไว้ตามช่องเก็บของของตัวรถก่อนหลบหนีไปกบดานที่ร้านอาหารป่าซึ่งเปิดเป็นแผงพระย่านพุทธมณฑลสาย 2

จุดที่ 2 เป็นจุดที่นายวิโรจน์ ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นนูโว สีแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน พา นายทะนงค์ หรือนง นุขุนทด อายุ 42 ปี มือปืนซึ่งยังหลบหนีมาวนดูผู้ตายบริเวณหน้าลานไถ่ชีวิตโคกระบือ โดยมีชุดคุ้มกันคือ นายนวพล กับนายพรเทพ ขับขี่และซ้อนท้ายจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ไอ สีแดงดำ ทะเบียน สฮส 513 กรุงเทพมหานคร มาจอดห่างจากลานไถ่ชีวิตโคกระบือออกไปทางหน้าวัดเพียงแค่ 30 เมตร เมื่อนายทะนงค์ ลงจากรถใช้อาวุธปืนรีวอลเวอร์ ขนาด .22 แม็กนัม ลั่นไกใส่ผู้ตายจนหมดโม่ 6 นัด ผู้ตายยังไม่สิ้นใจในทันทีได้พยายามตะเกียกตะกายหนีไปที่รถของตัวเอง แต่นายพรเทพซึ่งรอจังหวะอยู่แล้วได้ลงจากรถเดินเข้าขวางทำให้ผู้ตายล้มลงโดย นายพรเทพยังได้ฉวยเอากระเป๋าสะพายของผู้ตาย ภายในมีอาวุธปืนขนาด .380 ยี่ห้อซิกซาวเออร์ พระเครื่อง และเงินสดจำนวนหนึ่งติดมือขึ้นจักรยานยนต์เร่งเครื่องหลบหนีไปด้วย แต่ในภายหลังปรากฏว่านายทะนงค์ มือปืนได้ขอกระเป๋าสะพายใบดังกล่าวมาเก็บเอาไว้เอง ก่อนที่ผู้ต้องหาทั้งหมดจะนำทรัพย์สินไปแบ่งกัน ซึ่งอาวุธปืนและเงินก้อนใหญ่นั้นนายทะนงค์ ได้ยึดเอาไว้ ก่อนแบ่งเงินเป็นก้อนเล็กๆ และพระเครื่องหลายรายการให้พวกที่เหลือรวมถึงนายปอนด์ และ น.ส.อำพร ด้วย

จากการสอบถาม พ.ต.ท.ปารมีกล่าวว่า การทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันนี้ นายศุภมิตร หรือต้อง ไทรนิ่มนวล อายุ 25 ปี ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องจากรับหน้าที่เป็นผู้วางแผนจึงไม่ได้อยู่ด้วยกันกับผู้ต้องหารายอื่นๆ ซึ่งหลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้วจะคุมตัวทั้งหมดไปสอบสวนอีกครั้งเพื่อนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดตลิ่งชันในวันพรุ่งนี้ส่วน นายทะนงค์ หรือนง นุขุนทด อายุ 42 ปี มือปืนที่ยังหลบหนีขณะนี้ตำรวจได้ขอออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานจะสามารถเอาตัวมาดำเนินคดีได้เป็นรายต่อไป