รวบมือยิงเจ้าของวินรถตู้บ่อวิน-อนุสาวรีย์ชัยฯ สารภาพรับงานฆ่า เพราะต้องการเงินรักษาพ่อป่วยอัมพฤกษ์ เจอประวัติมีหมายจับคดีพยายามฆ่าที่เพชรบุรีด้วย ตร.ยังคงมุ่งปมขัดแย้งธุรกิจวินรถตู้บริการ พบมีกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่มาดูแลผลประโยชน์ พร้อมเร่งติดตามพรรคพวกร่วมก่อเหตุที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดี เชื่อ หากได้ตัวครบทีมน่าจะเชื่อมโยงไปถึงผู้บงการใหญ่ได้
วันนี้ (25 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป.พ.ต.อ.ณัฐกร ประภายนต์ ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.วราวุธ เจริญชนม์ รองผกก.2 บก.ป. แถลงการจับกุม นายดุษดี หรือ แดง ปองทรัพย์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 764/2 ถนนต้นมะสังข์ ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ที่ จ 212/2554 ลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2554 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร โดยจับกุมได้ที่ถนนข้างทางรถไฟบ้านบ่อแขม ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้ร่วมกับพวกก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม.และขนาด .38 ซุปเปอร์ ยิง นายถาวร เพียรดี อายุ 46 ปี เจ้าของวินรถตู้สายบ่อวิน-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เสียชีวิตที่บริเวณหน้าคิวรถตู้สี่แยกปากร่วม ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า สาเหตุมาจากเรื่องผลประโยชน์วินรถตู้ดังกล่าว จึงขอหมายจับคนร้ายกลุ่มนี้ จนกระทั่ง นายสุนทร หรือ ทม แจ่มกระจ่าง อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา หนึ่งในคนร้ายคดีนี้ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.บ่อวิน เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวต่อว่า หลังจากพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดที่ปรากฏภาพของ นายดุษดี อยู่ในที่เกิดเหตุ จึงขออนุมัติศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับ กระทั่งชุดสืบสวน กก.2 บก.ป.ซึ่งเฝ้าติดตามคดีนี้มาโดยตลอดสามารถจับกุมตัว นายดุษดี ไว้ได้ จึงควบคุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดีที่ บก.ป.
จากการสอบสวน นายดุษดี รับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างให้ก่อเหตุยิงนายถาวร เนื่องจากมีความขัดแย้งกับคนจ้างวานเรื่องวินรถตู้ดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้ กลุ่มผู้ตายได้ก่อเหตุยิงผู้จ้างวานก่อน โดยตนใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม.ลงมือก่อเหตุร่วมกับนายสุนทร ซึ่งทำหน้าที่ขับรถยนต์รับส่ง และมี นายสมบัติ หรือ เจิด น่วมอ่อน ผู้ต้องหาอีกรายที่อยู่ระหว่างการหลบหนีเป็นผู้ใช้อาวุธปืนขนาด .38 มม.ซุปเปอร์ ในการก่อเหตุ ซึ่งยังอยู่ระหว่างหลบหนี
นายดุษดี กล่าวด้วยว่า สาเหตุที่ต้องรับงานฆ่าครั้งนี้เป็นเพราะต้องการหาเงินมารักษาบิดาที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ จึงมีความจำเป็นและเพิ่งทำเป็นครั้งแรก ส่วนเงินค่าจ้างทั้งหมดกว่า 40,000 บาทนั้น จะได้รับเป็นงวดๆ โดยนำมาแบ่งกัน ซึ่งมี นายวินัย หรือ จุก ฮุ่ยเวง เป็นผู้ติดต่อรับงานและนำเงินมาให้ ซึ่งชุดจับกุมได้นำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ่อวิน จ.ชลบุรี รับไว้ดำเนินคดีต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า นายดุษดี มีหมายจับคดีพยายามฆ่า อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ติดตัวอยู่ด้วย ส่วนประเด็นการสังหาร นายถาวร ยังคงมุ่งไปในประเด็นความขัดแย้งเรื่องธุรกิจวินรถตู้บริการ ซึ่งพบว่า มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่มาดูแลผลประโยชน์ และหากสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือได้ก็น่าจะสามารถเชื่อมโยงไปถึงตัวผู้บงการและอยู่เบื้องหลังในคดีนี้ได้ ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวน กก.2 บก.ป.ได้ร่วมกับตำรวจ สภ.บ่อวิน เร่งคลี่คลายคดีนี้แล้ว
วันนี้ (25 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป.พ.ต.อ.ณัฐกร ประภายนต์ ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.วราวุธ เจริญชนม์ รองผกก.2 บก.ป. แถลงการจับกุม นายดุษดี หรือ แดง ปองทรัพย์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 764/2 ถนนต้นมะสังข์ ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ที่ จ 212/2554 ลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2554 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร โดยจับกุมได้ที่ถนนข้างทางรถไฟบ้านบ่อแขม ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้ร่วมกับพวกก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม.และขนาด .38 ซุปเปอร์ ยิง นายถาวร เพียรดี อายุ 46 ปี เจ้าของวินรถตู้สายบ่อวิน-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เสียชีวิตที่บริเวณหน้าคิวรถตู้สี่แยกปากร่วม ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า สาเหตุมาจากเรื่องผลประโยชน์วินรถตู้ดังกล่าว จึงขอหมายจับคนร้ายกลุ่มนี้ จนกระทั่ง นายสุนทร หรือ ทม แจ่มกระจ่าง อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา หนึ่งในคนร้ายคดีนี้ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.บ่อวิน เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวต่อว่า หลังจากพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดที่ปรากฏภาพของ นายดุษดี อยู่ในที่เกิดเหตุ จึงขออนุมัติศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับ กระทั่งชุดสืบสวน กก.2 บก.ป.ซึ่งเฝ้าติดตามคดีนี้มาโดยตลอดสามารถจับกุมตัว นายดุษดี ไว้ได้ จึงควบคุมตัวมาสอบสวนดำเนินคดีที่ บก.ป.
จากการสอบสวน นายดุษดี รับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างให้ก่อเหตุยิงนายถาวร เนื่องจากมีความขัดแย้งกับคนจ้างวานเรื่องวินรถตู้ดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้ กลุ่มผู้ตายได้ก่อเหตุยิงผู้จ้างวานก่อน โดยตนใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม.ลงมือก่อเหตุร่วมกับนายสุนทร ซึ่งทำหน้าที่ขับรถยนต์รับส่ง และมี นายสมบัติ หรือ เจิด น่วมอ่อน ผู้ต้องหาอีกรายที่อยู่ระหว่างการหลบหนีเป็นผู้ใช้อาวุธปืนขนาด .38 มม.ซุปเปอร์ ในการก่อเหตุ ซึ่งยังอยู่ระหว่างหลบหนี
นายดุษดี กล่าวด้วยว่า สาเหตุที่ต้องรับงานฆ่าครั้งนี้เป็นเพราะต้องการหาเงินมารักษาบิดาที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ จึงมีความจำเป็นและเพิ่งทำเป็นครั้งแรก ส่วนเงินค่าจ้างทั้งหมดกว่า 40,000 บาทนั้น จะได้รับเป็นงวดๆ โดยนำมาแบ่งกัน ซึ่งมี นายวินัย หรือ จุก ฮุ่ยเวง เป็นผู้ติดต่อรับงานและนำเงินมาให้ ซึ่งชุดจับกุมได้นำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ่อวิน จ.ชลบุรี รับไว้ดำเนินคดีต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติ พบว่า นายดุษดี มีหมายจับคดีพยายามฆ่า อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ติดตัวอยู่ด้วย ส่วนประเด็นการสังหาร นายถาวร ยังคงมุ่งไปในประเด็นความขัดแย้งเรื่องธุรกิจวินรถตู้บริการ ซึ่งพบว่า มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่มาดูแลผลประโยชน์ และหากสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือได้ก็น่าจะสามารถเชื่อมโยงไปถึงตัวผู้บงการและอยู่เบื้องหลังในคดีนี้ได้ ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวน กก.2 บก.ป.ได้ร่วมกับตำรวจ สภ.บ่อวิน เร่งคลี่คลายคดีนี้แล้ว