ตำรวจสืบสวนนครบาล 8 โชว์ผลงานจับกุม 3 ผู้ต้องหาเครือข่ายค้ายาในเรือนจำ ใช้รถ BMW ขนยาบ้า 1 แสนเม็ด ส่งลูกค้า โดนจับคาหนังคาเขายังปากแข็งอ้างแค่รับฝากยาจากเพื่อน
วันนี้ (24 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รองผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง รองผบก.น.8 พ.ต.อ.พรชัย ชลอเดช ผกก.สส.บก.น.8 และชุดสืบสวน กก.บก.น.8 ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายวิสุทธิ์ หรือ ต๋อง เจริญพงษ์ อายุ 34 ปี นายธนภพ หรือ โอ สุวรรณเพชร์ อายุ 37 ปี และ น.ส.วุ้นเส้น (นามสมมติ) อายุ 16ปี พร้อมของกลางยาบ้า 100,000 เม็ด รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ญฌ 6616 กรุงเทพมหานคร โดยจับกุมได้ที่ปั้มน้ำมัน ปตท.ถนนศรีนครินทร์ เยื้องห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม.
พล.ต.ต.สุเมธ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.8 ได้รับแจ้งจากสายลับในเรือนจำ ว่า จะมีเครือข่ายค้ายาบ้ารายใหญ่ที่สั่งการจากในเรือนจำ สั่งให้ลูกน้องนำยาบ้ามาส่งให้กับลูกค้าที่บริเวณดังกล่าว จึงนำกำลังซุ่มรอ กระทั่งพบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูขับเข้ามามีผู้ต้องหาทั้ง 3 อยู่ในรถ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นก็พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในกล่องกระดาษวางไว้ที่เบาะข้างคนขับ จึงทำการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมยึดยาบ้าของกลางดังกล่าวมาทำการตรวจสอบ
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 3 ให้การปฏิเสธ โดย นายวิสุทธิ์ อ้างว่า ยาบ้าดังกล่าวเป็นของ นายอาทิตย์ หรือ เจต ไม่ทราบนามสกุล อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท นำมาฝากไว้ก่อนจะถูกจับกุม และขณะถูกจับกุมก็กำลังจะนำยาบ้ามาคืนให้กับนายอาทิตย์ที่บริเวณดังกล่าว ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 ราย อ้างว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการค้ายาบ้าแค่นั่งมาในรถด้วยเท่านั้น อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากแนวทางการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหามีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าว และจากการสอบประวัติอาชญากร ยังพบว่า นายวิสุทธิ์ เคยถูกจับข้อหาเสพยาเสพติด ส่วน นายธนภพ เคยถูกจับกุมในข้อหาจำหน่ายยาเสพติดมาแล้ว นอกจากนี้ ยาบ้าที่พบก็มีจำนวนมาก หากผู้บงการไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ หรือเป็นนักค้ามือใหม่คงไม่ให้ยามาจำนวนมากขนาดนี้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวผู้ต้องหาให้พนักงานสอบสวน บช.ปส.เพื่อดำเนินคดีในข้อหามียาเสพติดประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจะเร่งสอบสวนขยายผลเพื่อติดตามตัวผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป