อธิบดีอัยการคดีพิเศษ ชี้ คำปราศรัย 9 นปช.ก่อการร้าย บางคนเข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูงชัด อาจถอนประกันเพียงบางคน ด้าน ดาราเสื้อแดง “เมธี อมรวุฒิกุล” รายงานตัวคดีปล้นปืนทหาร ยันจองเวร “จตุพร” ไม่เลิก
วันนี้ (21 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก นายเมธี อมรวุฒิกุล แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เข้ารายงานตัวกับ นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ เพื่อฟังคำสั่งคดีที่ตกเป็นผู้ต้องหาในความผิดฐานครอบครองอาวุธปืนที่นายทะเบียน ไม่สามารถออกให้ได้ และพกพาอาวุธปืนไปในที่ชุมชนโดยไม่มีเหตุอันควร ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ กรณีถูกจับกุมพร้อมอาวุธปืนสงครามของทางการที่ยึดไปจากเจ้าหน้าที่ทหารในเหตุการณ์ปะทะกันของทหารกับกลุ่ม นปช.ที่สี่แยกคอกวัว เมื่อคืนวันที่ 10 เม.ย.53 ที่ผ่านมา
โดยการรายงานตัวของ นายเมธี ในวันนี้ ยังคงมีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดูแลอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ดี เนื่องจากพนักงานอัยการยังพิจารณาสำนวนคดีไม่แล้วเสร็จ จึงต้องเลื่อนนัดสั่งคดีออกไปก่อน โดยนัดผู้ต้องหามาฟังคำสั่งคดีอีกครั้งในวันที่ 21 มิ.ย.นี้ เวลา 10.00 น.
ภายหลังเข้ารายงานตัว นายเมธี กล่าวว่า ตอนนี้ตนยังคงอยู่ในความดูแลของดีเอสไอตามโครงการคุ้มครองพยานในคดีก่อการร้าย โดยยังต้องรอเบิกความในชั้นศาล ส่วนคดีอาวุธปืนก็ต้องนำพยานเข้าต่อสู้กันไป อย่างไรก็ดี ตนคงไม่หวนกลับเข้าวงการบันเทิงอีกแล้ว ส่วนจะเล่นการเมืองเต็มตัวหรือไม่ เป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้คงต้องสู้กับวิบากกรรมต่อไป โดยเฉพาะกรรมระหว่างตน กับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.และ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย คงต้องต่อสู้กันไปอีกนาน
ด้าน นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ยื่นเรื่องขอให้อัยการยื่นคำร้องให้ศาลอาญาเพิกถอนการประกันตัว นายจตุพร พรหมพันธุ์ และจำเลยอื่นอีก 8 คน ในคดีก่อการร้าย ว่า ได้มอบหมายให้ นายรุจ เขื่อนสุวรรณ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 ตรวจดูเอกสารบันทึกถ้อยคำจากการถอดเทปคำปราศรัยของจำเลยเกือบครบทุกคนแล้ว เบื้องต้นพบว่าบางคนไม่เข้าองค์ประกอบความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จ ราชการแทนพระองค์ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 แต่บางคนก็ฟังแล้วค่อนข้างชัดเจน ซึ่งอาจต้องพิจารณาขอถอนประกันจำเลยบางคน และเชื่อว่า หากถอนประกันจำเลยก็จะไม่ส่งผลกระทบกับคดีหลักเพราะเป็นคนละส่วน
ขณะที่ พ.ต.ท.ถวัล พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ซึ่งรับผิดชอบการยื่นเรื่องถอนประกัน 9 แกนนำ นปช.กล่าวด้วยว่า เมื่อวาน (20 เม.ย.) ที่ผ่านมา ได้นำรายงานความคืบหน้าการทำสำนวนของดีเอสไอคดีหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พร้อมทั้งบันทึกการแจ้งความของนายทหารพระธรรมนูญ ที่ร้องทุกข์ สน.สำราญราษฎร์ ให้อัยการฝ่ายคดีพิเศษเพิ่มเติม เพื่อประกอบการพิจารณาว่าจะถอนประกันหรือไม่ ด้วย