“หนุ่ม กรรชัย” ขึ้นศาลเพื่อไต่สวนมูลฟ้องในคดีที่เป็นโจทก์ฟ้องหุ้นส่วน “ไอซ์ มอนสเตอร์” เผย เจรจากันมา 3 ครั้งแล้ว แต่ไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้ ยืนยัน ไม่ได้ถือหุ้นลม แต่ลงทุนจริง
วันนี้ (18 เม.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี นายวุฒิโรจน์ กำเนิดพลอย หรือ หนุ่ม กรรชัย ดาราพิธีกร พร้อม นายอนันต์ ฉัตรวชิระกุล ทนายความส่วนตัว และพยานอีกหนึ่งปากได้เดินทางมายังศาลจังหวัดนนทบุรี ในคดีดำเลขที่ อ 700/2554 ที่ นายวุฒิโรจน์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีอาญากับ นางชัญญา โชติญาณวงษ์ ในคดีความผิด พ.ร.บ.ห้างหุ้นส่วน หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้หุ้นกันเปิดบริษัท ไอ ดู ไอซ์ จำกัด ขายน้ำแข็งเกล็ดหิมะ ในชื่อ ไอซ์ มอนสเตอร์ จากประเทศฟิลิปปินส์ แล้วเกิดมีปัญหาจนต้องมีการยื่นฟ้องร้องต่อศาล ซึ่งศาลนนทบุรีได้นัดไตร่สวนมูลฟ้องในคดีดังกล่าวในวันนี้ที่ห้องพิจารณาคดี 11
นายวุฒิโรจน์ หรือ หนุ่ม กรรชัย ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นศาล ว่า หลังจากที่มีการติดต่อขอเจรจาระหว่างกันมาแล้ว 3 รอบ ก็ไม่มีอะไรคืบหน้าขึ้นมา เพราะเมื่อทางตนขอที่จะนำฝ่ายตรวจสอบบัญชีคนนอกเข้าไปตรวจสอบบัญชีของทางบริษัทเอง ทางฝ่ายนั้นเขาก็ไม่ยอม ดังนั้น ในวันนี้ จะไม่มีการไกล่เกลี่ยคดีกันอีกแล้ว ตนจึงต้องเดินทางฟ้องร้องต่อศาลเพื่อขอความเป็นธรรม และให้ศาลคุ้มครองอายัดทรัพย์สินฉุกเฉิน เนื่องจากทราบมาว่า มีทรัพย์สินบางรายการของบริษัทที่ถูกนำเงินออกไปขายเป็นชื่อของบุคคลแล้ว เช่น ที่ดินแปลงหนึ่ง นอกจากนี้ การนำเอาชื่อของตนออกจากการเป็นหุ้นส่วนของบริษัทโดยที่ตนเองไม่ได้ยินยอม หรือเซ็นเอกสารการลาออกจากการเป็นผู้ถือหุ้นนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ทั้งๆ ที่ตนร่วมลงทุนก่อตั้งบริษัทนี้ด้วยเงินและชื่อเสียงไม่ใช้หุ้นลมอย่างที่ถูกกล่าวอ้าง
“การกระทำแบบนี้เหมือนเป็นการตบหน้ากันชัดๆ ผมจึงต้องออกมาฟ้องร้องต่อศาลทั้งทางแพ่งและอาญา เพื่อขอความเป็นธรรมและปกป้องศักดิ์ศรีผมเอง ซึ่งผมเองควรต้องได้ในส่วนของทรัพย์สินที่ลงทุนไป และเงินปั้นผลจากการประกอบกิจการ แต่นี่ 5 ปี มาแล้วที่ผมไม่เคยได้รับแม้แต่เงินบาทเดียว ทั้งๆ ที่กลุ่มเด็กๆ วัยรุ่น ต่างก็รู้ว่า ไอซ์มอนเตอร์ เป็นยี่ห้อของหนุ่มกรรชัย แต่กลับถูกไปให้ข่าวว่าผมเป็นแค่พรีเซ็นเตอร์สินค้า เหมือนถูกทำนาบนหลังคน” หนุ่ม กรรชัย กล่าว
นายวุฒิโรจน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ อยากฝากไปบอกถึงแฟรนไชส์ ทุกๆ คน ว่า ในช่วงนี้อาจมีการฟ้องร้องกันอยู่ เพราะมีเรื่องไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น อาจทำให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์ไปเกิดความกระทบกระเทือนทางจิตใจในการทำธุรกิจ ก็ต้องขอเรียนไว้ให้ทราบกัน เพราะจากการตรวจสอบบัญชีทั้งหมดกับตัวเลขที่กรมสรรพากร รับแจ้ง พบว่า ตัวเลขมันมีความแตกต่างกันมาก
ส่วนเรื่องที่จะกลับมาร่วมทุนกันทำธุรกิจอีกหรือไม่ หากสามารถไกล่เกลี่ยเจรจากันในชั้นศาลได้นั้น หนุ่มกรรชัย กล่าวว่า คงเข็ด ไม่กล้าทำอะไรด้วยแล้ว มันเหมือนแก้วที่แตกไปแล้วจะผสานอย่างไรก็ยังคงมีรอยร้าวอยู่ ไม่สนิทที่ผ่านมาทำธุรกิจหลายอย่างก็ไม่เคยไปโกงหรือเอาเปรียบใครแต่กลับทางกลุ่มญาติๆ มักเกิดปัญหาตลอด ไม่เหมือนกับการทำธุรกิจกับเพื่อนอย่างมดดำ ที่ทำธุรกิจด้วยแล้วสบายใจเพราะเขาไม่คิดจะโกงหรือเอารัดเอาเปรียบเรา
ด้าน นายอนันต์ ฉัตรวชิระกุล ทนายความ กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการนัดไต่สวนมูลฟ้องในคดีอาญาที่ฝ่ายหนุ่มกรรชัยเป็นโจทก์ยื่นฟ้องในคดีความผิด พ.ร.บ.ห้างหุ้นส่วน โดยฝ่ายตนมีพยานอีกหนึ่งปากที่เดินทางมาให้การกับศาลด้วยส่วนเรื่องผลของคดีนั้น ทางเราก็มีความมั่นใจถึง 70 เปอร์เซ็นต์ จะไปบอก 100 เปอร์เซ็นต์เลย ก็คงไม่ได้ แต่เอกสารที่จะนำเสนอต่อศาลนั้น เรามีครบ 100 เปอร์เซ็นต์ แสดงความชัดเจนเอาความจริงมาให้ศาลเห็นได้ ก็ให้ทางฝ่ายจำเลยมาชี้แจ้งแก้ในชั้นศาลต่อไป ส่วนเรื่องฟ้องร้องเรียกค่าสินไหมทางแพ่งนั้น กำลังปรึกษากันอยู่ว่าจะเรียกจำนวนเท่าไร เพราะต้องนับจากวันที่ถือหุ้นมาจนปัจจุบันเป็นระยะเวลา 5 ปี นั้นก็เป็นจำนวนมากพอสมควรทีเดียว
วันนี้ (18 เม.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี นายวุฒิโรจน์ กำเนิดพลอย หรือ หนุ่ม กรรชัย ดาราพิธีกร พร้อม นายอนันต์ ฉัตรวชิระกุล ทนายความส่วนตัว และพยานอีกหนึ่งปากได้เดินทางมายังศาลจังหวัดนนทบุรี ในคดีดำเลขที่ อ 700/2554 ที่ นายวุฒิโรจน์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีอาญากับ นางชัญญา โชติญาณวงษ์ ในคดีความผิด พ.ร.บ.ห้างหุ้นส่วน หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้หุ้นกันเปิดบริษัท ไอ ดู ไอซ์ จำกัด ขายน้ำแข็งเกล็ดหิมะ ในชื่อ ไอซ์ มอนสเตอร์ จากประเทศฟิลิปปินส์ แล้วเกิดมีปัญหาจนต้องมีการยื่นฟ้องร้องต่อศาล ซึ่งศาลนนทบุรีได้นัดไตร่สวนมูลฟ้องในคดีดังกล่าวในวันนี้ที่ห้องพิจารณาคดี 11
นายวุฒิโรจน์ หรือ หนุ่ม กรรชัย ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นศาล ว่า หลังจากที่มีการติดต่อขอเจรจาระหว่างกันมาแล้ว 3 รอบ ก็ไม่มีอะไรคืบหน้าขึ้นมา เพราะเมื่อทางตนขอที่จะนำฝ่ายตรวจสอบบัญชีคนนอกเข้าไปตรวจสอบบัญชีของทางบริษัทเอง ทางฝ่ายนั้นเขาก็ไม่ยอม ดังนั้น ในวันนี้ จะไม่มีการไกล่เกลี่ยคดีกันอีกแล้ว ตนจึงต้องเดินทางฟ้องร้องต่อศาลเพื่อขอความเป็นธรรม และให้ศาลคุ้มครองอายัดทรัพย์สินฉุกเฉิน เนื่องจากทราบมาว่า มีทรัพย์สินบางรายการของบริษัทที่ถูกนำเงินออกไปขายเป็นชื่อของบุคคลแล้ว เช่น ที่ดินแปลงหนึ่ง นอกจากนี้ การนำเอาชื่อของตนออกจากการเป็นหุ้นส่วนของบริษัทโดยที่ตนเองไม่ได้ยินยอม หรือเซ็นเอกสารการลาออกจากการเป็นผู้ถือหุ้นนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ทั้งๆ ที่ตนร่วมลงทุนก่อตั้งบริษัทนี้ด้วยเงินและชื่อเสียงไม่ใช้หุ้นลมอย่างที่ถูกกล่าวอ้าง
“การกระทำแบบนี้เหมือนเป็นการตบหน้ากันชัดๆ ผมจึงต้องออกมาฟ้องร้องต่อศาลทั้งทางแพ่งและอาญา เพื่อขอความเป็นธรรมและปกป้องศักดิ์ศรีผมเอง ซึ่งผมเองควรต้องได้ในส่วนของทรัพย์สินที่ลงทุนไป และเงินปั้นผลจากการประกอบกิจการ แต่นี่ 5 ปี มาแล้วที่ผมไม่เคยได้รับแม้แต่เงินบาทเดียว ทั้งๆ ที่กลุ่มเด็กๆ วัยรุ่น ต่างก็รู้ว่า ไอซ์มอนเตอร์ เป็นยี่ห้อของหนุ่มกรรชัย แต่กลับถูกไปให้ข่าวว่าผมเป็นแค่พรีเซ็นเตอร์สินค้า เหมือนถูกทำนาบนหลังคน” หนุ่ม กรรชัย กล่าว
นายวุฒิโรจน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ อยากฝากไปบอกถึงแฟรนไชส์ ทุกๆ คน ว่า ในช่วงนี้อาจมีการฟ้องร้องกันอยู่ เพราะมีเรื่องไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น อาจทำให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์ไปเกิดความกระทบกระเทือนทางจิตใจในการทำธุรกิจ ก็ต้องขอเรียนไว้ให้ทราบกัน เพราะจากการตรวจสอบบัญชีทั้งหมดกับตัวเลขที่กรมสรรพากร รับแจ้ง พบว่า ตัวเลขมันมีความแตกต่างกันมาก
ส่วนเรื่องที่จะกลับมาร่วมทุนกันทำธุรกิจอีกหรือไม่ หากสามารถไกล่เกลี่ยเจรจากันในชั้นศาลได้นั้น หนุ่มกรรชัย กล่าวว่า คงเข็ด ไม่กล้าทำอะไรด้วยแล้ว มันเหมือนแก้วที่แตกไปแล้วจะผสานอย่างไรก็ยังคงมีรอยร้าวอยู่ ไม่สนิทที่ผ่านมาทำธุรกิจหลายอย่างก็ไม่เคยไปโกงหรือเอาเปรียบใครแต่กลับทางกลุ่มญาติๆ มักเกิดปัญหาตลอด ไม่เหมือนกับการทำธุรกิจกับเพื่อนอย่างมดดำ ที่ทำธุรกิจด้วยแล้วสบายใจเพราะเขาไม่คิดจะโกงหรือเอารัดเอาเปรียบเรา
ด้าน นายอนันต์ ฉัตรวชิระกุล ทนายความ กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการนัดไต่สวนมูลฟ้องในคดีอาญาที่ฝ่ายหนุ่มกรรชัยเป็นโจทก์ยื่นฟ้องในคดีความผิด พ.ร.บ.ห้างหุ้นส่วน โดยฝ่ายตนมีพยานอีกหนึ่งปากที่เดินทางมาให้การกับศาลด้วยส่วนเรื่องผลของคดีนั้น ทางเราก็มีความมั่นใจถึง 70 เปอร์เซ็นต์ จะไปบอก 100 เปอร์เซ็นต์เลย ก็คงไม่ได้ แต่เอกสารที่จะนำเสนอต่อศาลนั้น เรามีครบ 100 เปอร์เซ็นต์ แสดงความชัดเจนเอาความจริงมาให้ศาลเห็นได้ ก็ให้ทางฝ่ายจำเลยมาชี้แจ้งแก้ในชั้นศาลต่อไป ส่วนเรื่องฟ้องร้องเรียกค่าสินไหมทางแพ่งนั้น กำลังปรึกษากันอยู่ว่าจะเรียกจำนวนเท่าไร เพราะต้องนับจากวันที่ถือหุ้นมาจนปัจจุบันเป็นระยะเวลา 5 ปี นั้นก็เป็นจำนวนมากพอสมควรทีเดียว
