รวบแก๊งเปิดบัญชีคอลเซ็นเตอร์

จับ 3 ผู้ต้องหารับจ้างเปิดบัญชีของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตำรวจ ปอศ.ฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงประชาชนที่รับจ้างเปิดบัญชีเพื่อใช้ในการกระทำความผิดจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

วันนี้ (31 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.กิตติ สะเภาทอง รอง ผบก.ปอศ.พ.ต.ทรัฐพล น้อยช่างคิด รอง ผกก.5 บก.ปอศ.ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหารับจ้างเปิดบัญชีของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 3 ราย คือ นายChuang, Yun - Chieh ชาวไต้หวัน อายุ 23 ปี นายโยธิน จันทะดี อายุ 32 ปี และ น.ส.กันตยา อนุอินทร์ อายุ 50 ปี พร้อมด้วยของกลางบัตรเอทีเอ็มจำนวน 13 ใบ บัตรเดบิต 1 ใบ สมุดบัญชีธนาคารต่างๆ จำนวน 12 เล่ม และโทรศัพท์มือถืออีก 6 เครื่อง โดยจับกุมตัวได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

พล.ต.ต.โกวิทย์กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เจ้าหน้าที่ ปอศ.ได้มีการสืบสวนและติดตามจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ก่อเหตุหลอกลวงให้ประชาชนโอนเงินมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ของธนาคารอย่างใกล้ชิด กระทั่งทราบว่ามีกลุ่มคนร้ายที่อยู่ในประเทศไทยเป็นผู้รับจ้างเปิดบัญชี พร้อมกับทำบัตรเอทีเอ็ม และส่งบัตรให้กับนายหน้าชาวใต้หวัน เพื่อนำออกไปกดเงินประเทศจีน ชุดจับกุมจึงได้ทำการวางแผนโดยติดต่อกับ น.ส.กันตนา เพื่อขอรับจ้างเปิดบัญชี

พล.ต.ต.โกวิทย์กล่าวอีกว่า จากนั้น น.ส.กันตนาได้สั่งการให้ชุดจับกุมนำสมุดบัญชีพร้อมบัตรเอทีเอ็มไปมอบให้นายโยธิน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อนายโยธินได้ของกลางแล้วก็นำไปมอบให้กับ นาย Chuang ที่มารออยู่บริเวณอาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 6 ซึ่งนายChuang กำลังจะเดินทางไปประเทศจีน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ให้นายโยธินนัดส่งมอบสมุดบัญชีให้ น.ส.กันตนา ที่ป้ายรถประจำทางฝั่งตรงข้าม รพ.จุฬารัตน์ 5 ต.บางพลี อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ เมื่อ น.ส.กันตนาเดินทางมาถึงเจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมตัวทันที ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาสอบสวน พร้อมกับยึดของกลางไว้ตรวจสอบอย่างละเอียด

จากการสอบสวน น.ส.กันตนาให้การอ้างว่า ปกติตนทำงานเป็นแม่บ้าน ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 2 ปี ได้รู้จักกับหญิงสาวชาวจีนชื่ออาหมวย โดยอาหมวยได้ว่าจ้างให้ทำการเปิดบัญชีเพื่อไปทำธุรกรรม และจะให้ค่าจ้างในการเปิดบัญชีละประมาณ 2,000 บาท ก่อนหน้านี้ตนเปิดไปแล้ว 3 เล่ม จากนั้นก็ได้ไปชักชวนให้นายโยธิน และคนที่รู้จักกันมาเปิดบัญชีด้วย ให้ค่าจ้างบัญชีละ 1,500 บาท และให้ค่าจ้างนายโยธินในการรวบรวมบัตรเอทีเอ็มไปส่งครั้งละ 500 บาท โดยทางชาวไต้หวันจะกำชับให้เปิดเฉพาะธนาคารกรุงเทพ ซึ่งตนก็ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าเพราะอะไร ส่วนธนาคารกสิกรไทยจะเปิดไว้เพื่อเป็นบัญชีกลางเท่านั้น แต่หลังจากที่มีการเปิดบัญชีได้ 3-4 วันก็จะทำการปิดบัญชีก่อนที่จะเปิดใหม่ภายหลังเพื่อป้องกันการถูกตรวจสอบ

ด้าน พ.ต.ท.รัฐพลกล่าวว่า อยากฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงประชาชนที่รับจ้างเปิดบัญชีเพื่อใช้ในการกระทำความผิดว่าจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย ดังนั้น หากมีใครว่าจ้างให้เปิดบัญชีโดยอ้างว่าจะนำไปทำธุรกรรมหรืออื่นๆ อย่าหลงเชื่อ เนื่องจากขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมมือกับทางธนาคารอย่างจริงจังในการกวาดล้างจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพราะมีประชาชนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่น ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน ซึ่งเป็นบัตรที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการ หรือหนี้อื่นแทนการชำระเงินสด หรือใช้เบิกถอนเงินสด มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป