เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านพักของพนักงานปั๊มน้ำมันเชลล์ในซอยเพชรเกษม 36 แยก 1 ซึ่งเป็นซอยแคบ ทำให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดับเพลิงด้วยความยากลำบาก หลังเพลิงสงบพบศพผู้เสียชีวิต 4 ศพ เป็นแม่นอนกอดลูกสาวลูกชาย และหลานสาวอีก 1 ศพ ส่วนสามีรอดเพราะแยกขึ้นไปนอนชั้น 2 เผยสาเหตุน่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจร เพราะบ้านหลังเกิดเหตุไฟช็อตบ่อย
เมื่อเวลา 03.15 น.วันนี้ (31 มี.ค.) พ.ต.ท.ประสงค์ ชำนาญศิลป์ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ภาษีเจริญ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 62/6 ภายในชุมชนวัดประดู่บางจาก ซอยเพชรเกษม 36 แยก 1 ถนนเพชรเกษม แขวงบางจาก เขตภาษีเจริญ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.สุรชัย เจ็ดพี่น้องร่วมใจ ผกก.สน.ภาษีเจริญ เจ้าหน้าที่สายตรวจและฝ่ายสืบสวน สน.ภาษีเจริญ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และรถดับเพลิงจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจำนวน 10 คัน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้สูง 2 ชั้น ปลูกอยู่บนพื้นที่ประมาณ 300 ตารางวา มีรั้วรอบขอบชิด เจ้าหน้าที่แสงเพลิงกำลังลุกไหม้ที่บริเวณห้องพักชั้นล่างฝั่งขวาซึ่งอยู่ใกล้กับประตูทางเข้า-ออก และกำลังลุกลามไปยังส่วนอื่นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านในซอยต้องขนข้าวของวิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่น ทั้งนี้ซอยที่เกิดเหตุเป็นซอยแคบจึงทำให้เจ้าหน้าที่เข้าไปดับเพลิงด้วยความยากลำบาก ต้องวางหัวฉีดลากสายยางเข้าไประดมฉีดน้ำดับเพลิง โดยใช้เวลากว่า 20 นาทีจึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ เบื้องต้นพบบ้านถูกเพลิงไหม้เสียหายจนเกือบหมดทั้งหลัง
หลังเพลิงสงบ เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบในบ้านหลังดังกล่าวก็พบศพผู้เสียชีวิตจำนวน 4 ศพ ถูกไฟคลอกจนดำเป็นตอตะโกอยู่ในห้องต้นเพลิง ประกอบด้วย นางหนูพันธุ์ โครตชัยยา อายุ 36 ปี นอนคว่ำกอดศพ ด.ญ.จิรนันท์ หรือน้องเอิร์น เวียงนนท์ อายุ 7 ปี กับ ด.ช.ภานุวัฒน์ หรือน้องโอ๊ด เวียงนนท์ อายุ 4 ปี ลูกสาวและลูกชายเอาไว้ในอ้อมกอด ส่วนศพที่ 4 คือ น.ส.จิราภรณ์ หรือน้องฟ้า ศรีพลลา อายุ 16 ปี หลานสาวของนางหนูพันธุ์ นอนหงายอยู่บริเวณประตูห้อง เจ้าหน้าที่นำศพทั้ง 4 คน ส่งให้แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช ชั้นสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากการสอบสวน นายวิชัย เวียงนนท์ อายุ 38 ปี สามีของนางหนูพันธุ์ ให้การด้วยความโศกเศร้าว่า ตนกับภรรยาทำงานเป็นพนักงานล้างรถในปั๊มน้ำมันเชลล์ สาขาถนนเพชรเกษม โดยเถ้าแก่ได้ให้พวกคนงานในปั๊มมาพักที่บ้านหลังนี้ฟรีโดยไม่ต้องจ่ายค่าเช่า ซึ่งตามปกติแล้ว ตนกับภรรยาก็จะพักอยู่ด้วยกันเพียง 2 คน แต่ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมจึงไปรับลูกทั้งสองคนที่จากบ้านที่ จ.ร้อยเอ็ดมาอยู่ด้วย ส่วน น.ส.จิราภรณ์ หลานสาวของภรรยานั้นเพิ่งจะเรียนจบชั้น ม.3 รอต่อชั้น ม.4 ก็ขอตามมาทำงานเป็นพนักงานล้างรถหารายได้เสริมด้วยอีกคน ตนจึงให้ภรรยากับเด็กๆ พักอยู่ในห้องด้วยกัน 4 คน ส่วนตนแยกขึ้นไปนอนกับเพื่อนบนชั้น 2 ของบ้าน เพราะหลานสาวโตแล้วหากตนนอนอยู่ด้วยอาจไม่เหมาะ
นายวิชัยให้การต่อว่า หลังเลิกงานประมาณ 18.00 น.วานนี้ (30 มี.ค.) พวกตนกลับมากินข้าวด้วยกันที่ห้อง จากนั้นก็จึงแยกย้ายกันไปนอนตอนประมาณ 22.00 น. หลังจากนั้นก็ตกใจตื่น เพราะมีคนตะโกนว่าไฟไหม้ เมื่อลุกมาดูก็แสงเพลิงออกจากห้องพักของตน จึงรีบวิ่งลงไปหวังช่วยชีวิตภรรยากับลูกที่กำลังร้องขอความช่วยเหลือ แต่พอตนพังประตูห้องเข้าไปกลับถูกเปลวไฟพุ่งใส่หน้าได้รับบาดเจ็บทำให้ไม่สามารถเข้าไปช่วยใครได้ หลังจากนั้นเสียงร้องเงียบไป จนกระทั่งเพลิงสงบก็พบว่าทั้งภรรยา ลูก และหลานถูกไฟคลอกตายคากองเพลิง
นายวิชัยกล่าวด้วยว่า สาเหตุของเพลิงไหม้นั้นคาดว่าอาจจะมาจากไฟฟ้าลัดลงจร เนื่องจากบ้านหลังนี้มักเกิดเหตุไฟช็อตบ่อยครั้ง โดยเฉพาะช่วงที่มีคนงานพักรวมกันอยู่เป็นจำนวนมาก ประกอบกับห้องพักของตนมีทั้งมุ้งและเศษกระดาษ จึงทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีจนไฟลุกลามไปอย่างรวดเร็ว
ด้าน พ.ต.อ.สุรชัยกล่าวว่า จากการสอบสวนพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุให้การตรงกันว่า ต้นเพลิงอยู่ที่ห้องพักของผู้ตายอย่างแน่นอน แต่ยังไม่สามารถสรุปไม่ได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด ต้องให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งส่งผลการตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดเสียก่อนว่าสาเหตุของเพลิงไหม้เกิดจากอะไร จึงจะเรียกตัวเจ้าของบ้านและผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป