เกิดเหตุเพลิงไหม้ชุมชนแสงหิรัญ ย่านเพชรเกษม ใกล้บ้านพักคนชราบางแค ชาวบ้านขนข้าวของหนีตายอลหม่าน จนท.ระดมรถดับเพลิงกว่า 30 คันเข้าสกัด ก่อนใช้เวลา 30 นาทีเพลิงจึงสงบ ตรวจสอบเผาบ้านเรือนไป 4 หลังคา ขณะที่สาวขายข้าวต้มดวงดับถูกไฟคลอกเหลือแต่กระดูก คาดเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
วันนี้ (4 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.00 น. ร.ต.ท.สุวิทย์ ธานีวรรณ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ภาษีเจริญ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนภายในชุมชนแสงหิรัญ ซอยเพชรเกษม 39/1 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. จึงประสานรถดับเพลิงจากหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 30 คัน ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรชัย เจ็ดพี่น้องร่วมใจ ผกก.สน.ภาษีเจริญ พ.ต.ท.วรงกรณ์ มุ่งพาชล รอง ผกก.สส.สน.ภาษีเจริญ แพทย์ รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีบ้านเรือนประชาชนปลูกติดกันหนาแน่น ชาวบ้านต่างขนข้าวของหนีตายออกมาจากบ้านอย่างอลหม่าน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่พบว่ามีกลุ่มควันจำนวนมากพวยพุ่งออกมา จึงเร่งฉีดน้ำสกัดไม่ให้เพลิงลุกลาม เนื่องจากชุมชนดังกล่าวอยู่ด้านหลังบ้านพักคนชราบางแค เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ จากการตรวจสอบพบว่าเพลิงได้เผาผลาญบ้านเรือนประชาชนไป 4 หลังคาเรือน รวมพื้นที่ 100 ตารางวา ซึ่งบ้านต้นเพลิงคือบ้านเลขที่ 89/31 เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น แบ่งให้เช่า มีนายมณฑล อายุ 64 ปี ไม่ทราบนามสกุลเป็นเจ้าของ นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย ภายในบ้านเลขที่ 89/2 เป็นหญิงสาวทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.สุดา คงอยู่ อายุ 25 ปี สภาพศพนอนคว่ำหน้า ถูกไฟคลอกเหลือแต่โครงกระดูก เจ้าหน้าที่จึงนำศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชอย่างละเอียด
จากการสอบสวนประชานภายในชุมชนทราบว่า บ้านหลังที่พบศพผู้เสียชีวิต เป็นบ้านที่ผู้ตายมาเช่าอยู่กับครอบครัวรวม 6 คน โดยผู้ตายมีอาชีพขายข้าวต้มทรงเครื่องอยู่ที่ตลาดบางแค ก่อนเกิดเหตุสมาชิกในบ้านออกไปทำงานกันหมด เหลือเพียงผู้ตายที่ยังนอนอยู่ในบ้าน ขณะที่เกิดไฟไหม้ได้ยินเสียงผู้ตายร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถเข้าไปช่วยได้เนื่องจากประตูล็อกและมีการติดเหล็กดัดอย่างแน่นหนา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร หรืออาจจะมีการทำกับข้าวทิ้งเอาไว้ ซึ่งจะให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการตรวจสอบ พร้อมทั้งเชิญญาติของผู้ตายมาทำการสอบปากคำ ส่วนบ้านพักคนชราที่อยู่ใกล้กับชุมชนดังกล่าวไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
