หลังเหตุการณ์แดงเถื่อน เผาบ้านเผาเมือง 19 พฤษภาคม 2553 หลายคนชักไม่แน่ใจว่า “ไอ้กี้ร์” อริสมันต์ พงศ์เรืองรอง มันตายแล้วหรือยัง และหากมันยังไม่ตาย มันหนีไปที่ไหน ใครพามันหนี และหนีออกทางด่านไหนของประเทศไทย
แต่วันนี้เป็นที่แน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์ว่า “ไอ้กี้ร์” มันยังไม่ตาย หลังจากมันได้โผล่ในคลิปยูทิวบ์เป็นครั้งแรก หลัง 7 แกนนำ นปช.และแนวร่วมหนีคดีได้รับการประกันตัว โดยที่ในคลิปดังกล่าวเขาปฏิเสธข่าวไปปรากฏตัวที่บ่อนปอยเปต ประเทศกัมพูชา
พร้อมกับเรียกร้องว่า “จะเข้ามอบตัวหลังจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง และผู้บัญชาการเหล่าทัพ ที่เกี่ยวข้องกับการขอคืนพื้นที่บริเวณแยกราชประสงค์ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม”
สำหรับ “ไอ้กี้ร์” ที่วันนี้ เขายังไม่เข้ามอบตัวเหมือนกับกลุ่มผู้ต้องหาที่เข้ามอบตัวแบบรายวันก่อนหน้านี้ จะด้วยเหตุผลใด การต่อรองเรื่องประกันตัวไม่เป็นผลหรือไม่ เรื่องนี้ “อภิสิทธิ์ และ สุเทพ” ย่อมรู้ดี
แต่สำหรับข้อหาของ “ไอ้กี้ร์” ถือว่าไม่ธรรมดา และมีหมายจับมากมาย
เริ่มจากเมื่อวันที่ 11 และ 17 ต.ค.52 เขาขึ้นปราศรัยบนเวทีชุมนุมคนเสื้อแดงที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และที่ทำเนียบรัฐบาล กล่าวหาว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่าเป็นต้นเหตุทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระอาการประชวร และเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการปล้นอำนาจประชาชน เป็นผู้สั่งการให้ฆ่าประชาชน
ไม่เพียงแค่นั้น เขายังได้โฆษณาชวนเชื่อและปราศรัยผ่านสถานีโทรทัศน์เคเบิลทีวี (ช่องแดง)ด้วยการกล่าวหาว่านายกฯ เป็นผู้สั่งฆ่าประชาชน และหน่วงเหนี่ยวการถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคุก
จากการพูดอย่างบ้าคลั่ง ทำให้นายอภิสิทธิ์ฟ้องในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ขณะนี้อยู่ระหว่างหนีหมายจับจากศาล
8 เม.ย. 53 ศาลอนุมัติหมายจับนายอริสมันต์ ความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการภายในสถานการณ์ฉุกเฉินเข้าข่ายความผิด และ พ.ร.บ.ความมั่นคง มาตรา 11 (1) และความผิดข้อหาร่วมกันบุกรุกสถานที่ราชการ (รัฐสภา) กักขังหน่วยเหนี่ยว และข่มขู่ โดยบุกรุกรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 53
6 พ.ค.53 ศาลออกหมายจับ ข้อหาความผิดก่อการร้าย ขู่บังคับรัฐบาล ประทุษร้ายต่อประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐ และการกระทำต่ออาวุธยุทธภัณฑ์ของทางราชการ ข้อหาสร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง และศาลอาญาได้อนุมัติออกหมายจับ ตามที่ดีเอสไอเสนอ
นอกจากนี้ นายอริสมันต์ยังมีคดีล้มละลายติดตัว กรณีที่บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย เจ้าหนี้ ยื่นฟ้องเรื่องขอให้พิทักษ์ทรัพย์ มูลค่า 17 ล้านบาท โดยศาลนัดฟังคำสั่งพิทักษ์ในวันที่ 30 มิ.ย. 53
“ไอ้กี้ร์” ยังจัดเป็นแดงฮาร์ดคอร์ตัวพ่อที่ดีเอสไอและทหารต้องการตัวมากที่สุด เนื่องจากตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับข้างต้นแล้ว พฤติกรรมของมันยังจัดอยู่ในกลุ่มที่อาจเข้าข่ายจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงอีกด้วย
จากคำสั่งของ “นายสุเทพ เทือกสุบรรณ” ที่มอบหมายให้ตำรวจเร่งดำเนินการกับแก๊งล้มเจ้า ทำไมตำรวจจึงทำเมินเฉยที่จะตามจับกุม “ไอ้กี้ร์” และรอให้มันเข้ามอบตัว ขณะที่มันยืนยันว่า ไม่เคยไปปรากฏตัวที่บ่อนปอยเปต ประเทศกัมพูชา ส่วนจะหลบหนีอยู่ในกรุงเทพมหานคร เหมือนกับนายอดิศร เพียงเกษ ที่พูดท้าทายเจ้าหน้าที่รัฐว่า “ไม่ได้หลบหนีไปไหน แค่หลบอยู่ในกรุงเทพฯ ตามจับ 10 ปี ก็ยังหาไม่เจอ”
ดังนั้น หากรัฐบาลนี้ หากนายอภิสิทธิ์ หากนายสุเทพ ต้องการตามจับแก๊งล้มเจ้าจริง ไม่ใช่เฉพาะพูด(ตีกิน)ไปวันๆ เชื่อว่า การตามจับ นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง เจ้าของฉายา “เฮีี้้ยตะกายตึก”คงไม่ยากจนเกินไปใช่ไหมครับ!
