xs
xsm
sm
md
lg

จับยกครัวแก๊งค้ายาบ้า-ไอซ์ มี ส.อ.ทหารช่างร่วมด้วย

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ตำรวจสำเหร่ เข้าตรวจค้นจับกุมครอบครัวค้ายาบ้า ได้ทั้งพ่อแม่ลูก และลูกสะใภ้ รวมทั้ง ส.อ.ทหารช่าง จากค่ายบรมไตรโลกนาถ เมืองพิษณุโลก เครือข่ายเดียวกัน ที่นำยาบ้าที่ล่อซื้อมาส่งให้ โดยได้ของกลางเป็นยาบ้า 14,971 เม็ด ยาไอซ์รวม 49.66 กรัม เครื่องชั่งดิจิตอล 2 เครื่อง อาวุธปืนขนาด 7.65 มม.1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาดต่างๆ รวม 22 นัด และรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ อีก 1 คัน

วันนี้ (24 มี.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. พ.ต.อ.จีรศักดิ์ ขำคง รองผบก.น.8 พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ สว่างงาม ผกก.สน.สำเหร่ พ.ต.ต.สายชล ปัญจชัย สว.สส.สน.สำเหร่ แถลงการจับกุมตัวกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ ประกอบด้วย 1.ส.อ.ชินภัทร หรือแจ๊ค กุตอินทร์ อายุ 33 ปี ทหารช่างสังกัดค่ายบรมไตรโลกนาถ จ.พิษณุโลก 2.นายกฤษณ์ ยิ้มพรพิพัฒน์ผล อายุ 47 ปี 3.นางอุบล ยิ้มพรพิพัฒน์ผล อายุ 43 ปี ภรรยา 4.นายกมลชนก ยิ้มพรพิพัฒน์ผล อายุ 22 ปี ลูกชาย และ 5.น.ส.สิริกร ปิ่นแก้ว อายุ 23 ปี ลูกสะใภ้ พร้อมของกลาง ยาบ้า รวม 14,971 เม็ด ยาไอซ์รวม 49.66 กรัม เครื่องชั่งดิจิตอล 2 เครื่อง อาวุธปืนขนาด 7.65 มม.1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาดต่างๆ รวม 22 นัด และรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 4564 พิษณุโลก อีก 1 คัน โดยผู้ต้องหาทั้งหมดถูกจับกุมได้จากการขยายผลแบบเป็นเครือข่าย

พ.ต.อ.จีรศักดิ์ กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงหัวค่ำ วันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สำเหร่ รับแจ้งจากสายลับ ว่า บุคคลภายในบ้านเลขที่ 372 ถนนกรุงธนบุรี ซอย 6 แขวงบางลำพูล่าง เขตคลองสาน มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงนำกำลังเข้าขอตรวจสอบพบเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น มีนายกฤษณ์ เป็นเจ้าของและพักอยู่กับ นางอุบล ภรรยา จากการตรวจค้นในห้องพักบนชั้น2 พบของกลาง ยาบ้า 2,909 เม็ด ยาไอซ์ 36.39 กรัม อาวุธปืน 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุน และเครื่องชั่งดิจิตอล ก่อนขึ้นไปตรวจค้นห้องพักบนชั้นที่ 3 ซึ่ง นายกมลชนก และ น.ส.สิริกร ลูกชายและลูกสะใภ้ ของ นายกฤษณ์ พักอาศัยอยู่พบของกลาง ยาไอซ์ 13.27 กรัม จึงควบคุมตัวทั้ง 4 รายพร้อมยึดของกลางมาดำเนินคดีที่ สน.สำเหร่

จากการสอบสวน นายกฤษณ์ ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ เคยประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้างขาดทุนและเคยโดนจับกุมข้อหาร่วมกันครอบครองยาบ้าในพื้นที่ จ.เชียงราย แต่สู้คดีอยู่ในเรือนจำนานเกือบปีจนหลุดมาได้ โดยขณะที่ติดอยู่ในเรือนจำ จ.เชียงรายนั้นได้รู้จักสนิทสนมกับขาใหญ่คนหนึ่งชื่อย่อว่า “ร.” บอกว่าสามารถจัดหายาบ้าจำนวนมากให้นำไปขายได้ เมื่อพ้นโทษออกมานาย “ร.” ได้แนะนำให้โทรศัพท์ไปสั่งซื้อยาบ้ากับ เอเยนต์ชื่อเก่ง ในพื้นที่ จ.พิษณุโลก ในราคามัดละ 180,000 บาท โดยนายเก่ง จะว่าจ้างให้ ส.อ.ชินภัทร หรือหมู่แจ๊ค เป็นผู้ขับรถไปรับยาบ้าจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านมาทาง อ.แม่จัน จ.เชียงราย แล้วลักลอบนำเข้ามาพักที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่าน จ.ปทุมธานี ก่อนติดต่อให้ไปรับของ จากนั้นก็จะนำไปขายให้ลูกค้าต่อในราคามัดละ 185,000 บาท ส่วนยาไอซ์นั้น รับมาจากเอเย่นต์อีกที่หนึ่งในราคากรัมละ 1,900 บาท ปล่อยให้ลูกค้า 2,200 บาท และเก็บไว้เสพเองบางส่วน สำหรับภรรยาและลูกชายนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดแต่อย่างใด

ต่อมาเมื่อเวลา 16.50 น.วันที่ 23 มี.ค.เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ต.สายชล ปัญจชัย สว.สส.สน.สำเหร่ ได้ทำการวางแผนล่อซื้อยาบ้าจากนายเก่ง จำนวน 4,000 เม็ด ในราคา 360,000 บาท โดยนัดส่งมอบของกลางกันที่หน้าสำนักงานเทศบาลตำบลท่าโขลง ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อเดินทางไปถึงพบ ส.อ.ชินภัทร ขับรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 4564 พิษณุโลก มาตามนัดหมายจึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 12,062 เม็ด บรรจุในถุงพลาสติกสีฟ้าห่อด้วยกระดาษสีขาวรวม 6 มัด พันด้วยกระดาษฟอยด์อีกชั้นซุกซ่อนอยู่ในรถ จึงควบคุมตัวมาสอบสวนยอมรับสารภาพว่า มีเพื่อนทหารในค่ายเดียวกันชื่อเก่ง ว่าจ้างให้ไปรับยาบ้าจากทางภาคเหนือมาส่งให้ลูกค้าได้ 3 เที่ยวแล้ว โดยตนได้รับค่าจ้างเที่ยวละ 5,000 บาทเท่านั้น

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ส.อ.ชินภัทร ว่า มียาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ส่วนนายกฤษณ์ นางอุบล นายกมลชนก และ น.ส.สิริกร ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันมียาบ้าและยาไอซ์ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยเฉพาะนายกฤษณ์ จะถูกดำเนินคดีมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตอีก 1 คดี

ตำรวจนำผู้ต้องหาพร้อมของกลางมาแถลงข่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น