xs
xsm
sm
md
lg

บุกตรวจวัดฝั่งธนฯ ชาวบ้านร้องพระต่างชาติ 400 รูปอาศัยผ้าเหลืองหากิน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

สตม.บุกตรวจวัดย่านภาษีเจริญ หลังชาวบ้านร้องเรียนพระทำผิดกิจสงฆ์ออกบิณบาตตอนบ่าย-ขายของทำบุญ พบพระต่างชาติ 400 รูปกางเต็นท์อาศัยรอบวัด เจ้าอาวาสอ้างเข้ามาศึกษาธรรมะ แต่พระต่างชาติปฏิบัติไม่เหมือนกัน พระลูกวัด แฉอาศัยผ้าเหลืองหากินเพราะมีการเรียกหัวคิวเข้าวัดรายละ 2,000 ดอลลาร์ สำนักพุทธฯ เร่งตรวจสอบ

วันนี้ (17 มี.ค.) เมื่อเวลา 04.00 น. พ.ต.อ.ชาติชาย เอี่ยมแสง รองผบก.สส.สตม.เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ธรรมศาลา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เดินทางเข้าตรวจสอบภายในวัดตะล่อม แขวงคลองขวาง เขตภาษีเจริญ กทม. หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีพระอาศัยอยู่ในวัดจำนวนมาก และออกบิณฑบาตจนกระทั่งถึงช่วงบ่าย

เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบพบว่า ภายในวัดดังกล่าวมีพระอาศัยอยู่จำนวนทั้งสิ้น 400 รูป มีทั้งที่กางเต็นท์นอนและพักอยู่ในกุฏิของวัด โดยพระทั้งหมดเป็นพระจากต่างประเทศ เช่น ประเทศศรีลังกา อินเดีย บังกลาเทศ กัมพูชา และประเทศลาว ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีพระจากประเทศอินเดียจำนวน 12 รูป และสามเณรอีก 1 รูป ไม่มีพาสปอร์ตเดินทางเข้ามาอย่างถูกต้อง

จากการสอบถามพระมหาบุญถึง ชุตินธโร เจ้าอาวาสวัดตะล่อม กล่าวว่า เคยเป็นผู้อำนวยการสถาบันธรรมะประชาธิปไตย ประธานสภาธรรมาธิปไตยแห่งชาติ และเคยเป็นหัวหน้าภาควิชาภาษาไทย อยู่ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยของคณะสงฆ์ แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว สำหรับพระจำนวนมากที่พบในวัดเป็นพระที่เดินทางมาจากต่างประเทศมีทั้งที่มาศึกษาและมาท่องเที่ยว เป็นที่รู้กันดีว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการศึกษา จึงมีพระจากหลายประเทศทั่วโลกเดินทางมาศึกษาที่ประเทศไทย โดยพระทั้งหมดได้มาพักอยู่ที่วัดแห่งนี้ และเดินทางเข้ามาอย่างถูกต้องพร้อมกับมีใบรับรองการเป็นพระ

เจ้าอาวาสกล่าวอีกว่า ชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนี้คงพบเห็นพระอยู่กันจำนวนมาก จึงไปร้องเรียนโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นพระจากต่างประเทศที่เดินทางมาศึกษา ส่วนการบิณฑบาตเกินเวลานั้น ปกติแล้วการบิณฑบาตของพระต่างประเทศจะไม่เหมือนกับพระสงฆ์ของไทย จะเริ่มตั้งแต่เช้าตรู่ไปจนถึงเวลาประมาณ 10 โมงเช้า ซึ่งก็ได้ชี้แจงแก่พระที่มาพักทุกรูปแล้วเพื่อจะได้ปฏิบัติอย่างถูกต้องไม่ผิดกฎของพระ

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากพระลูกวัดรูปหนึ่งว่า วัดแห่งนี้มีพระสงฆ์ของไทยอาศัยอยู่ประมาณ 10 รูป ส่วนพระที่เดินทางมาจากต่างประเทศมีทั้งที่กางเต็นท์พัก และพักในกุฏิ โดยจะอยู่กันห้องละ 2-3 รูป จากการที่อาตมาได้ใกล้ชิดกับพระทั้งหมดพบว่ามีพระที่เดินทางมาศึกษาจริงๆ เพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ และพระทั้งหมดไม่ได้มีการทำกิจเหมือนกับพระสงฆ์ของไทย มีจำนวนน้อยมากที่จะทำวัตรเช้า-เย็น นอกจากนี้อาตมายังทราบจากชาวบ้านอีกว่า พระทั้งหมดจะออกบิณฑบาตจนถึงตอนบ่าย และจะเลือกรับเฉพาะอาหารแห้งกับปัจจัย ส่วนอาหารสดจะนำไปทิ้ง

พระลูกวัดรูปเดิมกล่าวอีกว่า ทุกเช้าที่มีการออกบิณฑบาตจะมีรถแท็กซี่มาจอดรอรับพระทั้งหมดเป็นจำนวนมาก และจะขอรับเป็นอาหารแห้งแทนค่าโดยสาร นอกจากนี้ อาหารแห้งที่บิณฑบาตมาได้ก็จะนำไปขายให้กับร้านขายของชำที่ตั้งอยู่ภายในวัด ซึ่งทราบมาว่าร้านดังกล่าวเป็นของญาติเจ้าอาวาส อีกทั้งยังมีพระที่เดินทางมารูปหนึ่งบอกกับว่าถูกชักชวนให้มาอยู่ที่วัดแห่งนี้โดยต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวน 2,000 ดอลลาร์ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเก็บเงินดังกล่าว ก่อนหน้านี้ประชาชนเคยร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครเข้ามาดำเนินการ กระทั่งวันนี้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเข้ามาตรวจสอบ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบเอกสารการเดินทางเข้ามาประเทศไทยและเอกสารรับรองการเป็นพระของพระที่เดินทางมาจำนวน 400 รูป สำหรับพระที่ไม่มีพาสปอร์ต เจ้าหน้าที่ สตม.จะทำการส่งกลับประเทศต่อไป ส่วนเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นและมีการร้องเรียนจากประชาชน จะต้องให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นผู้ตรวจสอบว่าเข้าข่ายการทำผิดวินัยสงฆ์หรือไม่ต่อไป
พระที่เดินทางมาศึกษาจากต่างประเทศจำนวน 400 รูป ที่ประชาชนร้องเรียนเกรงว่าอาจจะเป็นพระปลอม
เต้นท์ที่พระจากต่างประเทศกางนอนภายในวัด
กำลังโหลดความคิดเห็น