ศาลพิพากษาประหารชีวิตหนุ่มไนจีเรียลักลอบขนยาไอซ์ 2 กิโลกรัมเข้าไทย แลกค่าจ้าง 3.8 พันดอลลาร์สหรัฐฯ แต่รับสารภาพศาลปรานีลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต
วันนี้ (7 มี.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด 3 เป็นโจทก์ฟ้อง นายราฮิด อับดุล (MR.RAHID ABDUL) อายุ 35 ปี ชาวไนจีเรียเป็นจำเลยในความผิดฐาน พยายามนำเมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรต์ หรือ ยาไอซ์ อันเป็นยาเสพติดประเภท 1 เข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.53 เวลากลางวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.3 รับแจ้งจากสายลับ ว่า จะมีชายแอฟริกันผิวดำ ลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักร โดยเดินทางมากับสายการบินเอธิโอเปียน แอร์ไลน์ เที่ยวบิน ET 606 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จึงนำกำลังไปดักรอพบจำเลย พร้อมกับขอตรวจค้น พบยาไอซ์ลักษณะเป็นเกล็ดสีขาวหนัก 2 กิโลกรัมเศษ พันด้วยเทปกาวสีน้ำตาลบรรจุในถุงพลาสติกสีดำซุกซ่อนอยู่ใต้คันชักสำหรับลากจูงในพื้นที่ดัดแปลงในกระเป๋าเดินทาง จึงนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางหลายรายการส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.แจ้งข้อหาดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม จำเลยให้การรับสารภาพว่า รับจ้างขนยาเสพติด จากชายชาวแอฟริกัน ในราคา 3,800 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยให้นำของกลางไปส่งที่ประเทศกัมพูชา
โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติตามหน้าที่ ไม่มีสาเหตุโกรธเคือง และไม่มีสาเหตุที่จะปรุงแต่งข้อเท็จจริงใส่ความปรักปรำใส่ร้ายจำเลยให้ต้องรับโทษ อีกทั้งจำเลยให้การรับสารภาพ จึงเชื่อว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริงเป็นความผิดกรรมเดียว แต่ผิดกฎหมายหลายบทให้ลงโทษฐานนำเข้ายาเสพติดให้โทษ เพื่อจำหน่ายอันเป็นบทหนักสุด พิพากษาลงโทษประหารชีวิต แต่จำเลยรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ตลอดชีวิต และริบของกลาง