รวบหนุ่มไนจีเรียลักลอบหิ้วยาไอซ์กะขนไปยังมาเลเซีย แต่ไม่รอดถูกควบคุมตัวพร้อมของกลางคาสนามบินสุวรรณภูมิ เจ้าตัวปฏิเสธอ้างกระเป๋าซุกยานรกเป็นของเพื่อนฝากส่งต่อให้คู่หูที่มาเลย์ อีกราย ปส.ล่อซื้อโคเคนแล้วจับสองเอเยนต์ไนจีเรียยังซ่าเสนอสินบนเจ้าหน้าที่ พบประวัติแฝงตัวเป็นนักบุญทำทีเผยแผ่ศาสนาบังหน้า
วันนี้ (1 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ต.หาญพล นิตย์วิบูลย์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.จิรโรจน์ กี่ศิริ รอง ผบช.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.แสงสูรย์ กรรณสูต ผบก.ปส.1 พ.ต.อ.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผกก.1 บก.ปส.3 บช.ปส. แถลงการจับกุมนายอีจีเก คอร์เนลุส โอโน อายุ 22 ปี ชาวไนจีเรีย พร้อมของกลางยาไอซ์ 5 ถุง น้ำหนัก รวม 2 กิโลกรัม เงินสดสกุลดอลลาร์สหรัฐ จำนวน 500 ดอลลาร์ เงินสกุลริงกิต จำนวน 32 ริงกิต เงินสกุลรูเปียห์ 6,000 รูเปียห์ เงินสกุลเปโซ 20 เปโซ และเงินสกุลเรียว 3,000 เรียว กระเป๋าเดินทางสีน้ำตาล 1 ใบ ตั๋วสายการบินเอธิโอเปียแอร์ไลน์ส หนังสือเดินทาง 1 เล่ม และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
พล.ต.ต.หาญพลเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ บก.ปส.1 สืบทราบว่าจะมีชายชาวไนจีเรีย รับจ้างจากคนต่างชาติผิวสีชาวแอฟริกัน ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากเอธิโอเปีย ขึ้นสายการบินเอธิโอเปียแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ ET 606 เข้ามาที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในเวลา 12.30 น.วานนี้ (31 ม.ค.) ที่ผ่านมา ก่อนจะเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปดักซุ่ม จนกระทั่งพบผู้ต้องหาลงจากเครื่อง จึงขอตรวจค้นก็พบของกลางซุกซ่อนอยู่กระเป๋าเดินทาง และในพื้นรองเท้า จึงยึดไว้เป็นของกลางก่อนคุมตัวมาสอบปากคำ
พล.ต.ต.หาญพลกล่าวต่อว่า จากการสอบสวนนายอีจีเก้ ยังให้การปฏิเสธโดยอ้างว่า กระเป๋าใบดังกล่าวเป็นของเพื่อนฝากไว้ให้ไปส่งต่อให้เพื่อนอีกคนที่ประเทศมาเลเซีย โดยเจ้าตัวจะได้ค่าจ้าง 500 ดอลลาร์สหรัฐ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและนำเข้ายาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) เข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
รอง ผบช.ปส. กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ พ.ต.อ.ศิวพงษ์ พัฒน์พงษ์พานิช ผกก.2 บก.ปส.1 นำกำลังเจ้าหน้าที่ บก.ปส.1 เข้าจับกุม นายซูก้า เคลตัส อองวูเกว อายุ 30 ปี และนายอกุดอส กิลเบร์ต ดิกวี อายุ 51 ปี ทั้งคู่เป็นชาวไนจีเรีย ได้พร้อมของกลางโคเคน จำนวน 8 ก้อน น้ำหนักรวม 13 กิโลกรัม รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีฟ้า หมายเลขทะเบียน สษ-4426 กทม. และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่ปากซอยพหลโยธิน 58 เขตสายไหม ต่อเนื่องปั๊มน้ำมัน ปตท. ถนนประดิษฐมนูธรรม เขตวังทองหลาง
พล.ต.ต.หาญพลกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า นายซูก้า เป็นเอเยนต์จำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่ กทม. จึงทำการติดต่อล่อซื้อโคเคน จำนวน 1.5 กรัม และนัดส่งมอบของกันที่ปากซอยพหลโยธิน 58 เมื่อผู้ต้องหานำยามาส่งจึงแสดงตัวจับกุม แต่ระหว่างนั้นผู้ต้องหายื่นขอเสนอให้เงินติดสินบนเจ้าหน้าที่เป็นจำนวน 300,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว และให้ไปรับเงินจากนายอกุดอส อีก 300,000 บาท ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. ถนนประดิษฐมนูธรรม รวมเป็นเงิน 600,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปจับกุมนายอกุดอสเอาไว้ได้อีกราย
รอง ผบช.ปส.กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหาทั้งสองคนจะแฝงตัวเป็นนักแสวงบุญ ที่อาศัยอยู่ตามโบสถ์คริสต์ต่างๆ ในย่านอ่อนนุช ลาดพร้าว ซอยร่วมฤดี ย่านเพลินจิต ทำทีเป็นออกเผยแพร่ศาสนาบังหน้า แต่ความจริงคือลักลอบจำหน่ายยาเสพติด นอกจากนี้ นายอกุดอส ยังเคยเสนอตัวมาทำหน้าที่คอยเป็นล่ามแปลภาษาให้กับกลุ่มผู้ต้องหาชาวต่างชาติที่เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.จับกุมอีกด้วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2 (โคเคน) ไว้ในความครอบครอง เพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันให้หรือรับว่าจะให้ ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน เพื่อจูงใจให้กระทำการหรือไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (1 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ต.หาญพล นิตย์วิบูลย์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.จิรโรจน์ กี่ศิริ รอง ผบช.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.แสงสูรย์ กรรณสูต ผบก.ปส.1 พ.ต.อ.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผกก.1 บก.ปส.3 บช.ปส. แถลงการจับกุมนายอีจีเก คอร์เนลุส โอโน อายุ 22 ปี ชาวไนจีเรีย พร้อมของกลางยาไอซ์ 5 ถุง น้ำหนัก รวม 2 กิโลกรัม เงินสดสกุลดอลลาร์สหรัฐ จำนวน 500 ดอลลาร์ เงินสกุลริงกิต จำนวน 32 ริงกิต เงินสกุลรูเปียห์ 6,000 รูเปียห์ เงินสกุลเปโซ 20 เปโซ และเงินสกุลเรียว 3,000 เรียว กระเป๋าเดินทางสีน้ำตาล 1 ใบ ตั๋วสายการบินเอธิโอเปียแอร์ไลน์ส หนังสือเดินทาง 1 เล่ม และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
พล.ต.ต.หาญพลเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ บก.ปส.1 สืบทราบว่าจะมีชายชาวไนจีเรีย รับจ้างจากคนต่างชาติผิวสีชาวแอฟริกัน ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากเอธิโอเปีย ขึ้นสายการบินเอธิโอเปียแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ ET 606 เข้ามาที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในเวลา 12.30 น.วานนี้ (31 ม.ค.) ที่ผ่านมา ก่อนจะเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปดักซุ่ม จนกระทั่งพบผู้ต้องหาลงจากเครื่อง จึงขอตรวจค้นก็พบของกลางซุกซ่อนอยู่กระเป๋าเดินทาง และในพื้นรองเท้า จึงยึดไว้เป็นของกลางก่อนคุมตัวมาสอบปากคำ
พล.ต.ต.หาญพลกล่าวต่อว่า จากการสอบสวนนายอีจีเก้ ยังให้การปฏิเสธโดยอ้างว่า กระเป๋าใบดังกล่าวเป็นของเพื่อนฝากไว้ให้ไปส่งต่อให้เพื่อนอีกคนที่ประเทศมาเลเซีย โดยเจ้าตัวจะได้ค่าจ้าง 500 ดอลลาร์สหรัฐ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและนำเข้ายาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) เข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
รอง ผบช.ปส. กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ พ.ต.อ.ศิวพงษ์ พัฒน์พงษ์พานิช ผกก.2 บก.ปส.1 นำกำลังเจ้าหน้าที่ บก.ปส.1 เข้าจับกุม นายซูก้า เคลตัส อองวูเกว อายุ 30 ปี และนายอกุดอส กิลเบร์ต ดิกวี อายุ 51 ปี ทั้งคู่เป็นชาวไนจีเรีย ได้พร้อมของกลางโคเคน จำนวน 8 ก้อน น้ำหนักรวม 13 กิโลกรัม รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีฟ้า หมายเลขทะเบียน สษ-4426 กทม. และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่ปากซอยพหลโยธิน 58 เขตสายไหม ต่อเนื่องปั๊มน้ำมัน ปตท. ถนนประดิษฐมนูธรรม เขตวังทองหลาง
พล.ต.ต.หาญพลกล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า นายซูก้า เป็นเอเยนต์จำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่ กทม. จึงทำการติดต่อล่อซื้อโคเคน จำนวน 1.5 กรัม และนัดส่งมอบของกันที่ปากซอยพหลโยธิน 58 เมื่อผู้ต้องหานำยามาส่งจึงแสดงตัวจับกุม แต่ระหว่างนั้นผู้ต้องหายื่นขอเสนอให้เงินติดสินบนเจ้าหน้าที่เป็นจำนวน 300,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว และให้ไปรับเงินจากนายอกุดอส อีก 300,000 บาท ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. ถนนประดิษฐมนูธรรม รวมเป็นเงิน 600,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปจับกุมนายอกุดอสเอาไว้ได้อีกราย
รอง ผบช.ปส.กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ต้องหาทั้งสองคนจะแฝงตัวเป็นนักแสวงบุญ ที่อาศัยอยู่ตามโบสถ์คริสต์ต่างๆ ในย่านอ่อนนุช ลาดพร้าว ซอยร่วมฤดี ย่านเพลินจิต ทำทีเป็นออกเผยแพร่ศาสนาบังหน้า แต่ความจริงคือลักลอบจำหน่ายยาเสพติด นอกจากนี้ นายอกุดอส ยังเคยเสนอตัวมาทำหน้าที่คอยเป็นล่ามแปลภาษาให้กับกลุ่มผู้ต้องหาชาวต่างชาติที่เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.จับกุมอีกด้วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2 (โคเคน) ไว้ในความครอบครอง เพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันให้หรือรับว่าจะให้ ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน เพื่อจูงใจให้กระทำการหรือไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่ ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีต่อไป