“นครบาล” ยืนยันเจ้าหน้าที่ตำรวจ 5 กองร้อย โดยการนำของ “ผู้การแต้ม” เข้ารื้อเต็นท์ผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ เพื่อเปิดช่องคู่ขนานบริเวณถนนราชดำเนินนอก หน้ากระทรวงศึกษาฯ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย พร้อมเร่งเจรจาเปิดช่องทางจราจรฝั่งถนนพิษณุโลก ถนนราชดำเนินนอกฝั่งทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้ผู้ใช้รถสัญจรได้สะดวกขึ้น
วันนี้ (28ก.พ.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล แถลงภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ารื้อเต็นท์กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อเปิดการจราจรช่องคู่ขนานบริเวณถนนราชดำเนินนอก หน้ากระทรวงศึกษาธิการ เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 05.30 น. ที่ผ่านมา พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 5 กองร้อย พร้อมเจ้าหน้าที่จาก กทม.อีกจำนวนหนึ่ง เข้าเปิดเส้นทางจราจร ถนนราชดำเนินนอก ช่องคู่ขนาน ตั้งแต่สะพานมัฆวานรังสรรค์ถึงแยกสวนมิสกวัน ด้านที่ติดกับกระทรวงศึกษาธิการ โดยการวางกำลังเจ้าหน้าที่และแนวรั้วเหล็กตลอดเส้นทาง ซึ่งทำให้สามารถเปิดเส้นทางการจราจรให้ใช้สัญจรตรงมาที่แยกลานพระบรมรูปทรงม้าได้ตามปกติ ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ช่วงดังกล่าวใช้เวลาเพียง 30 นาที และเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เนื่องจาก พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ รวมถึงกลุ่มผู้ชุมนุมให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งทำให้ไม่มีเหตุปะทะใดๆ
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า ส่วนข้าวของเครื่องใช้ของผู้ชุมนุมได้มีการขนมาไว้บนทางเท้า ซึ่งเหลือเพียงถังปฏิกูลเท่านั้นที่ยังกีดขวางการจราจร จึงได้แจ้งให้แกนนำได้เคลื่อนย้ายออกไป ซึ่งจะมีการประสานให้ กทม.นำรถสุขาเคลื่อนที่มาให้บริการแทน ขณะที่การตั้งด่านตรวจเมื่อช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.1 สามารถจับกุมผู้ต้องหา 2 คนที่ขับรถยนต์ออกจากพื้นที่การชุมนุม จากการตรวจค้นในรถพบอาวุธปืนขนาด .38 และอุปกรณ์การเล่นพนัน จึงควบคุมตัวไว้สอบสวน
ส่วนการเปิดการจราจรเส้นทางอื่นๆ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ได้กำชับให้ตำรวจเน้นการเจรจาเป็นหลัก โดยเฉพาะถนนพิษณุโลก และถนนราชดำเนินนอก ช่องคู่ขนาน ฝั่งทำเนียบรัฐบาล เพื่อจะได้ให้ผู้ใช้รถสามารถสัญจรได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีการผ่อนคลายกำลังเจ้าหน้าที่เป็นบางส่วน โดยจะดูแลในส่วนที่จำเป็นเท่านั้น
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะยังคงประจำในจุดดังกล่าวตลอด 24 ชม. นอกจากนี้ ได้รับแจ้งว่ากระทรวงศึกษาธิการจะเปิดประตูใหญ่ฝั่งติดถนนราชดำเนินนอก ให้ข้าราชการเข้า-ออกได้ตามปกติ ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าฝั่งสนามเสือป่า เบื้องต้นทราบว่าหากกลุ่มผู้ชุมนุมเจรจากับรัฐบาลเป็นผลจะมีการแยกย้ายกลับและสามารถเปิดการจราจรได้ตามปกติ
นอกจากนี้เมื่อเวลา 07.30 น.ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 แถลงการณ์จับกุม นายสมโภช พิกุลทอง อายุ 47 ปี และนางแก้วตา รวยลาภ อายุ 46 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก กระสุน 2 นัด ปลอกกระสุน 3 ปลอก โพยการพนันสลากกินรวบ (โพยหวยใต้ดิน) ยอดเงินกว่า 3 แสนบาท อุปกรณ์การเล่นการพนัน และทะเบียนรถป้ายแดง ก 2299 ชลบุรี 1 แผ่น
พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวว่า เมื่อเวลา 06.00 น.ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการเปิดการจราจรช่องคู่ขนาน ถ.ราชดำเนินนอก บริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเคลื่อนที่เร็ว (ปะ ฉะ ดะ) จาก บก.น.1 ได้ตั้งจุดตรวจค้นยานพาหนะบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อตรวจค้นรถที่เดินทางผ่านบริเวณกลุ่มชุมนุม ก่อนจะตรวจค้นรถยนต์ฮอนด้าซีวิค สีขาว หมายเลขทะเบียน ฎจ 4415 กทม. ที่ผู้ต้องหาทั้งสองนั่งมา และพบของกลางดังกล่าวภายในรถ
พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่า จากการสอบปากคำนางแก้วตาให้การว่า ได้ขับรถมารับนายสมโภชซึ่งเป็นแฟนหนุ่ม หลังจากแฟนหนุ่มได้มาหาเพื่อนในพื้นที่การชุมนุมตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ส่วนอาวุธปืนที่พบนั้นมีไว้เพื่อป้องกันตัว เนื่องจากต้องเดินทางออกต่างจังหวัดเป็นประจำ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จึงควบคุมตัวทั้ง 2 คนไว้เพื่อทำการสอบปากคำเพิ่มเติมต่อไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหามีอาวุธปืน เครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนเข้าไปในหมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (28ก.พ.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล แถลงภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ารื้อเต็นท์กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อเปิดการจราจรช่องคู่ขนานบริเวณถนนราชดำเนินนอก หน้ากระทรวงศึกษาธิการ เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 05.30 น. ที่ผ่านมา พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 5 กองร้อย พร้อมเจ้าหน้าที่จาก กทม.อีกจำนวนหนึ่ง เข้าเปิดเส้นทางจราจร ถนนราชดำเนินนอก ช่องคู่ขนาน ตั้งแต่สะพานมัฆวานรังสรรค์ถึงแยกสวนมิสกวัน ด้านที่ติดกับกระทรวงศึกษาธิการ โดยการวางกำลังเจ้าหน้าที่และแนวรั้วเหล็กตลอดเส้นทาง ซึ่งทำให้สามารถเปิดเส้นทางการจราจรให้ใช้สัญจรตรงมาที่แยกลานพระบรมรูปทรงม้าได้ตามปกติ ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ช่วงดังกล่าวใช้เวลาเพียง 30 นาที และเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เนื่องจาก พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ รวมถึงกลุ่มผู้ชุมนุมให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งทำให้ไม่มีเหตุปะทะใดๆ
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า ส่วนข้าวของเครื่องใช้ของผู้ชุมนุมได้มีการขนมาไว้บนทางเท้า ซึ่งเหลือเพียงถังปฏิกูลเท่านั้นที่ยังกีดขวางการจราจร จึงได้แจ้งให้แกนนำได้เคลื่อนย้ายออกไป ซึ่งจะมีการประสานให้ กทม.นำรถสุขาเคลื่อนที่มาให้บริการแทน ขณะที่การตั้งด่านตรวจเมื่อช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.น.1 สามารถจับกุมผู้ต้องหา 2 คนที่ขับรถยนต์ออกจากพื้นที่การชุมนุม จากการตรวจค้นในรถพบอาวุธปืนขนาด .38 และอุปกรณ์การเล่นพนัน จึงควบคุมตัวไว้สอบสวน
ส่วนการเปิดการจราจรเส้นทางอื่นๆ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ได้กำชับให้ตำรวจเน้นการเจรจาเป็นหลัก โดยเฉพาะถนนพิษณุโลก และถนนราชดำเนินนอก ช่องคู่ขนาน ฝั่งทำเนียบรัฐบาล เพื่อจะได้ให้ผู้ใช้รถสามารถสัญจรได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีการผ่อนคลายกำลังเจ้าหน้าที่เป็นบางส่วน โดยจะดูแลในส่วนที่จำเป็นเท่านั้น
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะยังคงประจำในจุดดังกล่าวตลอด 24 ชม. นอกจากนี้ ได้รับแจ้งว่ากระทรวงศึกษาธิการจะเปิดประตูใหญ่ฝั่งติดถนนราชดำเนินนอก ให้ข้าราชการเข้า-ออกได้ตามปกติ ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าฝั่งสนามเสือป่า เบื้องต้นทราบว่าหากกลุ่มผู้ชุมนุมเจรจากับรัฐบาลเป็นผลจะมีการแยกย้ายกลับและสามารถเปิดการจราจรได้ตามปกติ
นอกจากนี้เมื่อเวลา 07.30 น.ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 แถลงการณ์จับกุม นายสมโภช พิกุลทอง อายุ 47 ปี และนางแก้วตา รวยลาภ อายุ 46 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก กระสุน 2 นัด ปลอกกระสุน 3 ปลอก โพยการพนันสลากกินรวบ (โพยหวยใต้ดิน) ยอดเงินกว่า 3 แสนบาท อุปกรณ์การเล่นการพนัน และทะเบียนรถป้ายแดง ก 2299 ชลบุรี 1 แผ่น
พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวว่า เมื่อเวลา 06.00 น.ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการเปิดการจราจรช่องคู่ขนาน ถ.ราชดำเนินนอก บริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเคลื่อนที่เร็ว (ปะ ฉะ ดะ) จาก บก.น.1 ได้ตั้งจุดตรวจค้นยานพาหนะบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อตรวจค้นรถที่เดินทางผ่านบริเวณกลุ่มชุมนุม ก่อนจะตรวจค้นรถยนต์ฮอนด้าซีวิค สีขาว หมายเลขทะเบียน ฎจ 4415 กทม. ที่ผู้ต้องหาทั้งสองนั่งมา และพบของกลางดังกล่าวภายในรถ
พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่า จากการสอบปากคำนางแก้วตาให้การว่า ได้ขับรถมารับนายสมโภชซึ่งเป็นแฟนหนุ่ม หลังจากแฟนหนุ่มได้มาหาเพื่อนในพื้นที่การชุมนุมตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ส่วนอาวุธปืนที่พบนั้นมีไว้เพื่อป้องกันตัว เนื่องจากต้องเดินทางออกต่างจังหวัดเป็นประจำ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จึงควบคุมตัวทั้ง 2 คนไว้เพื่อทำการสอบปากคำเพิ่มเติมต่อไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหามีอาวุธปืน เครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนเข้าไปในหมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป