ตร.ท่องเที่ยว รวบ 2 หนุ่มสวีเดน เปิดบริษัทขายสินค้า ประกันภัย รับเหมาก่อสร้าง ผ่านเว็บไซต์ ให้นักท่องเที่ยวกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย ในเมืองพัทยา แต่กลับไม่ยอมส่งสินค้าให้ลูกค้า ตร.เข้าตรวจสอบ พบเปิดร้านอินเทอร์เน็ตบังหน้า ก่อนคุมตัวลูกจ้างชาวนอร์เวย์ ได้อีก 4 คน เบื้องต้นทั้งหมดไม่มีใบอนุญาตให้ทำงานในประเทศไทย
วันนี้ (23 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผบก.ทท.และ พ.ต.อ.กฤษณ์ วาฤทธิ์ ผกก.2 บก.ทท.ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายอูลฟ์ คาล โจฮาน เฮลบาล์คเคน อายุ 34 ปี นายทอมมี วิคเตอร์ ซันเดอร์ลัน อายุ 26 ปี ซึ่งทั้งสองคนเป็นชาวสวีเดน นายเอสเพน ฟอร์เบิร์ก อายุ 40 ปี นายมาร์ติน กิสโวลด์ การาทุน อายุ 21 ปี นายเซบาสเตียน เจอร์เซ่น อายุ 21 ปี และ น.ส.อีด้า มารี จูลฟาลเชนเบิร์ก อายุ 20 ปี ซึ่งทั้ง 4 คน เป็นชาวนอร์เวย์ พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ 18 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 2 เครื่อง เครื่องพิมพ์ชนิดอิงก์เจ็ต 1 เครื่อง หูฟังและไมโครโฟน 15 ชุด และนามบัตรแสดงชื่อเว็บไซต์ 1 กล่อง
พล.ต.ต.อดิศร์ กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย ว่า ได้สั่งซื้อสินค้าผ่านทางเว็บไซต์ และไม่ได้รับสินค้า จึงได้ทำการสืบสวน และทราบว่า บริษัทที่ขายสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ตดังกล่าวได้ตั้งอยู่ภายในโรงแรมแห่งหนึ่งย่านพัทยาใต้ โดยมีการเปิดเป็นร้านอินเทอร์เน็ตบังหน้า เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปตรวจสอบและควบคุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวน ซึ่งเบื้องต้นทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 6 คนไม่มีใบอนุญาตให้ทำงานในประเทศไทย โดยผู้ต้องหาชาวสวีเดนทั้ง 2 คน ได้เป็นผู้จ้างวานผู้ต้องหาชาวนอร์เวย์ทั้ง 4 คน มาทำหน้าที่รับโทรศัพท์รับการสั่งสินค้า ซึ่งจะได้ค่าจ้างเดือนละ 25,000 บาท โดยจะมีลูกค้าในเครือข่ายที่เคยโทรศัพท์สั่งซื้อสิ่งของประมาณ 3,000 ราย
พล.ต.ต.อดิศร์ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาชาวสวีเดนทั้ง 2 คน เคยตั้งบริษัทขายสินค้าผ่านทางอินเทอร์เน็ตที่ประเทศสวีเดน แต่ไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ จึงย้ายฐานมาตั้งบริษัทที่ประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งเว็บไซต์ของผู้ต้องหาจะมีการขายสินค้า ประกันภัยและรับเหมาสร้างบ้าน อย่างไรก็ตาม แม้พฤติกรรมผู้ต้องหาจะไม่เข้าข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีการหลอกลวงทางโทรศัพท์ แต่พฤติกรรมก็มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร ประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนข้อหาอื่นๆ ต้องรอสอบสวนขยายผลต่อไป
