“อำนวย” ไขสือยังไม่รู้เอาผิดพ่อแม่แพรวาได้หรือไม่!

“นวยนิ่ม” เฉย ครอบครัวเหยื่อ-มธ.เข้าแจ้งความดำเนินคดี “พ่อแม่แพรวา-เจ้าของรถเก๋ง” ในความผิด พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กและกระทำการโดยประมาท รับจะดำเนินการให้ แต่บอกหลักฐานจะพอดำเนินคดีหรือไม่ ต้องดูกันอีกรอบ

วันนี้ (22 ก.พ.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. (ฝ่ายสอบสวน) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่ญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์รถเก๋งชนรถตู้บนทางด่วน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ เมื่อค่ำวันที่ 27 ธันวาคม 2553 ที่ผ่านมา เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.พิทักษ์ นิยมพฤกษ์ รอง ผกก.สน.วิภาวดี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ พ.อ.รัฐชัย เทพหัสดิน ณ อยุธยา นางลัดดาวัลย์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา บิดามารดาของ น.ส.อรชร ในความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 และเจ้าของรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีขาวหมายเลขทะเบียน ฎว 8461 กทม.ที่ให้ น.ส.อรชรยืมไปใช้ในข้อหาเดียวกัน และข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า เรื่องนี้ก็มีการดำเนินการให้ ส่วนหลักฐานจะพอในการดำเนินคดีหรือไม่ก็ต้องว่ากันอีกที เรื่องนี้เข้าใจว่าทาง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) จะใช้สิทธิทางศาลคือจะไม่เจรจา เพราะก่อนหน้านี้ พนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือไปแจ้ง 2-3 ครั้งแล้ว ก็ไม่มีการติดต่อมา ส่วนจะฟ้องใครก็เป็นสิทธิของเขา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (21 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.00 น. รศ.ณรงค์ ใจหาญ ผอ.ศูนย์นิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ และประธานกรรมการคณะกรรมการกฎหมาย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมด้วย ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ ดร.ปกป้อง ศรีสนิท อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะทีมกฎหมายของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้พาญาติของผู้เสียชีวิตจำนวน 4 ราย ประกอบด้วย นางนฤมล ปิตาทานัง นายภิญโญ จินันทุยา นายปรัชญา คันธา และ น.ส.ตรอง สุดธนกิจ เดินทางไปยังงานศูนย์ควบคุมจราจรวิภาวดีรังสิต กก.2 บก.จร.(สน.วิภาวดี) เพื่อแจ้งความดำเนินคดีดังกล่าว

ทั้งนี้ รศ.ณรงค์ระบุว่า ทีมงานกฎหมายของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับพ่อแม่ของผู้กระทำความผิดจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตหลายรายเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.ปีที่แล้ว ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ตามมาตรา 26(3) หากพ่อแม่นั้น ยินยอมให้เด็กกระทำการโดยไม่สมควร หรือกระทำการที่น่าจะเสี่ยงให้เกิดการประพฤติผิดขึ้นมา พ่อแม่เด็กจะต้องรับผิดชอบและมีความผิดตาม พ.ร.บ.ฉบับนี้ด้วย นอกจากนี้จะแจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าของรถคันที่ผู้ก่อเหตุยืมไปใช้อีก 2 ข้อหา โดยข้อหาแรก คือ ข้อหาเดียวกับพ่อแม่ เพราะหากเจ้าของรถทราบอยู่แล้วว่าผู้ที่มายืมยังเป็นผู้เยาว์ ไม่มีใบขับขี่ ก็จะต้องร่วมรับผิดด้วย ส่วนอีกข้อหาคือ กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 และมาตรา 300 เนื่องจากทีมกฎหมายมองว่า มีความประมาทในการปล่อยผู้ก่อเหตุให้ยืมไปใช้

ขณะที่ พ.ต.ท.ฉัตรชัย เอี่ยมอ่อง พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.วิภาวดี หนึ่งในคณะพนักงานสอบสวนคดีนี้ ระบุว่า เบื้องต้นได้รับแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานแล้ว จากนั้นก็จะส่งเรื่องให้ทาง บช.น.พิจารณาสั่งการลงมาเพื่อสอบสวนต่อไป เนื่องจากทาง สน.วิภาวดี ไม่มีอำนาจสอบสวนคดีนี้ จนกระทั่งวันนี้ พล.ต.ต.อำนวย จึงออกมาระบุถึงกรณีดังกล่าว