โรงงานผลิตยาระเบิด หัวหน้าแผนกดับอนาถ!

โรงงานผลิตยาพาราเซตามอลยี่ห้อ “พาราแคบ” ระเบิด จนท.เร่งฉีดน้ำสกัด หลังเพลิงสงบพบหัวหน้าแผนกผสมยาเสียชีวิต 1 ราย ส่วน พนง.รายอื่นปลอดภัย ด้านผู้ดูแลโรงงานเผยมีใบอนุญาตถูกต้อง จนท.เตรียมตรวจสอบสาเหตุเพลิงไหม้ต่อไป

วันนี้ (8 ก.พ.) เมื่อเวลา 17.30 น. ร.ต.ท.อมร ขว้างแป้น พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ท่าข้าม รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในบริษัท มาซาแลบ จำกัด เลขที่ 54/25 ซอยท่าข้าม 14 ถนนท่าข้าม แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ยุคลเดช ตันสกุล ผกก.สน.ท่าข้าม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และรถดับเพลิง

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารขนาดชั้นเดียวหลายหลังติดกัน เปิดเป็นโรงงานผลิตยาพาราเซตามอลยี่ห้อ “พาราแคบ” และยาชนิดอื่นอีกหลายชนิด เจ้าหน้าที่พบกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากด้านหลังโรงงาน และพนักงานกำลังวิ่งหนีตายกันอลหม่าน เจ้าหน้าที่จึงรีบฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิงโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพลิงจึงสงบ จากนั้นได้เข้าไปตรวจสอบบริเวณที่ถูกเพลิงไหม้เสียหายซึ่งเป็นห้องอบยาขนาดประมาณ 20 ตารางเมตร โครงหลังคาที่เป็นไม้ถูกเพลิงไหม้เสียหายจนหมด มีเศษซากวัสดุตกลงมากองเต็มพื้น

นอกจากนี้ยังพบว่า ตู้อบยาในห้องดังกล่าวระเบิดจนประตูกระเด็นหลุดออกไป ภายในมีซากยาที่ถูกเพลิงไหม้เป็นจำนวนมาก และเครื่องผสมยาที่อยู่ใกล้กันก็ถูกเพลิงไหม้เสียหายเช่นกัน และที่มุมห้องฝั่งตรงข้าม พบศพนางฉวีวรรณ เข็มทอง อายุ 30 ปี หัวหน้าแผนกผสมยา สภาพศพนอนคว่ำหน้าถูกบานประตูของเครื่องอบยาและเศษหลังคาโรงงานทับอยู่ สวมเสื้อสีเทา นุ่งกางเกงยีนส์ สวมถุงเท้าสีส้ม ไม่สวมรองเท้า ตรวจสอบตามร่างกายพบว่าบาดแผลเต็มตัว

จากการสอบสวนเพื่อนผู้ตายซึ่งเป็นพนักงานโรงงานเดียวกันให้การว่า ขณะเกิดเหตุพวกตนกำลังทำงานล่วงเวลากันอยู่ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นจากนั้นมีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากจุดเกิดเหตุ จึงพากันวิ่งหนีตายออกไปรวมตัวกันที่ลานกว้างหน้าโรงงาน จากนั้นก็นับจำนวนพนักงานทั้งหมดปรากฏว่ามีผู้ตายเพียงคนเดียวที่หายไป ตอนแรกก็คิดว่าผู้ตายอาจจะตกใจวิ่งหนีออกจากโรงงานไป จึงพยายามโทรศัพท์ไปหาแต่ก็ติดต่อไม่ได้ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบห้องที่เกิดเหตุก็พบว่าผู้ตายเสียชีวิตอยู่ในห้องอบยาดังกล่าว

ด้าน นายปัญญา ศิริพรพิทักษ์ ผู้ดูแลโรงงานให้การว่า โรงงานดังกล่าวเป็นโรงงานผลิตยารักษาโรคกว่า 20 ชนิด มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย และมีเภสัชกรประจำอยู่ตลอดเวลาทำงาน โดยโรงงานรับจ้างผลิตยายี่ห้อต่างๆ ตามลูกค้าสั่งมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว จนกระทั่งเมื่อ 20 ปีที่แล้ว บริษัท มาซาแลบ ซื้อกิจการมาดำเนินงานต่อ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุรุนแรงขนาดนี้มาก่อน เพราะเครื่องจักรทุกตัวได้รับการตรวจสอบและบำรุงรักษาตามระยะเวลาอยู่เสมอ ส่วนตัวโรงงานได้รับการตรวจสอบจาก อย.ตลอดเวลาเช่นกัน ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อย.ก็เพิ่งส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสภาพโรงงาน

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้ที่แท้จริง พร้อมทั้งส่งศพนางฉวีวรรณให้แผนกนิติเวช โรงพยาบาลศิริราช ชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง จากนั้นจะติดต่อเจ้าของโรงงานนำหลักฐานและใบอนุญาตเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนอีกครั้ง