ศาลอาญา นัดสืบพยานโจทก์ปากแรก คดีแนวร่วมแดง มือบึ้มบิ๊กซี ราชดำริ 6 ก.ย.นี้
วันนี้ (21 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 906 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานคดีหมายเลขดำ อ.3543/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายเสกสรร หรือ เสก หรือ ล้ง วรปีติเจริญกุล อายุ 37 ปี แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ผู้ต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาราชดำริ เมื่อวันที่ 25 ก.ค.53 เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันมีวัตถุระเบิด และเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และ พ.ร.บ.อาวุธปืน กรณีระหว่างปลายเดือน เม.ย.-14 พ.ค.53 จำเลยร่วมกันมีวัตถุระเบิดแสวงเครื่องถังดับเพลิง ระเบิดขวดเครื่องดื่มชูกำลัง เครื่องจุดระบิดแบบ M60 รวมทั้งลูกระเบิดยิงขนาด 40 มม.แบบ M79 และกระสุนปืนขนาด .45 ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยวันนี้ อัยการโจทก์ ยื่นพยานเอกสารเพิ่มอีก 4 ฉบับ ซึ่งศาลสอบถามแนวทางต่อสู้คดีแล้ว จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ครอบครองวัตถุระเบิด ขณะที่อัยการแถลงขอนำสืบพยาน 25 ปาก อาทิ ผู้ที่ถูกว่าจ้างให้ทำป้ายทะเบียนรถยนต์ จ.เชียงใหม่ และพนักงานสอบสวน จ.เชียงใหม่ที่รับแจ้งความรถหาย รวมทั้งเจ้าของรถยนต์ เข้าเบิกความ ส่วนจำเลยอ้างตัวเองเป็นพยานเพียง 1 ปาก
ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝ่ายโจทก์นำสืบพยาน 21 ปาก ใช้เวลา 6 นัด ส่วนจำเลยใช้เวลา 1 นัด นัดสืบพยานโจทก์ปากแรก 6 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
วันนี้ (21 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 906 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานคดีหมายเลขดำ อ.3543/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายเสกสรร หรือ เสก หรือ ล้ง วรปีติเจริญกุล อายุ 37 ปี แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ผู้ต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาราชดำริ เมื่อวันที่ 25 ก.ค.53 เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันมีวัตถุระเบิด และเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และ พ.ร.บ.อาวุธปืน กรณีระหว่างปลายเดือน เม.ย.-14 พ.ค.53 จำเลยร่วมกันมีวัตถุระเบิดแสวงเครื่องถังดับเพลิง ระเบิดขวดเครื่องดื่มชูกำลัง เครื่องจุดระบิดแบบ M60 รวมทั้งลูกระเบิดยิงขนาด 40 มม.แบบ M79 และกระสุนปืนขนาด .45 ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยวันนี้ อัยการโจทก์ ยื่นพยานเอกสารเพิ่มอีก 4 ฉบับ ซึ่งศาลสอบถามแนวทางต่อสู้คดีแล้ว จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ครอบครองวัตถุระเบิด ขณะที่อัยการแถลงขอนำสืบพยาน 25 ปาก อาทิ ผู้ที่ถูกว่าจ้างให้ทำป้ายทะเบียนรถยนต์ จ.เชียงใหม่ และพนักงานสอบสวน จ.เชียงใหม่ที่รับแจ้งความรถหาย รวมทั้งเจ้าของรถยนต์ เข้าเบิกความ ส่วนจำเลยอ้างตัวเองเป็นพยานเพียง 1 ปาก
ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝ่ายโจทก์นำสืบพยาน 21 ปาก ใช้เวลา 6 นัด ส่วนจำเลยใช้เวลา 1 นัด นัดสืบพยานโจทก์ปากแรก 6 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.