ดีเจหนุ่ม คลุ้มคลั่งบุกห้องน้องสาวแฟนจุดไฟเผาวอด ก่อนปีนไปข้างห้องใช้มีดจี้คอหญิงสาวเป็นตัวประกัน ตร.ญาติเจรจาไม่สำเร็จ สุดท้ายต้องใช้หน่วยอรินทราชจู่โจมช่วยเหลือตัวประกันได้อย่างปลอดภัย เจ้าตัวอ้างไม่ได้เสพยาแค่กินยาแก้ปวดแล้วประสาทหลอน
วันนี้ (23 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ร.ต.ท.สถิตย์ ไสวงาม พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.บางซื่อ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ภายในสายเป็นสุข หนึ่ง แมนชั่น ซอยอินทามระ 11 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. จึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. จำนวน 3 คัน ก่อนจะรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ชีพนเรนทร รพ.ราชวิถี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นแมนชั่นพักอาศัย สูง 7 ชั้น บนชั้น6 ภายในห้องเลขที่ 606 เจ้าหน้าที่พบว่าประชาชนที่พักอาศัยในแมนชั่นช่วยกันดับเพลิงเอาไว้ได้แล้ว ตรวจสอบภายในห้องพบข้าวของถูกเพลิงไหม้เสียหายเกือบทั้งหมด นอกจากนี้ที่ระเบียงห้อง 608 ซึ่งอยู่ติดกันเจ้าหน้าที่พบนายอภิเชษฐ สุทธิโท หรือเบล อายุ 23 ปี อาชีพดีเจเปิดแผ่นเสียงที่ร้านสบายผับ ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กำลังใช้มีดปลายแหลมจี้คอ น.ส.รสสุคนธ์ ดีสุ่ย อายุ 27 ปี เจ้าของห้องเป็นตัวประกันอยู่ เจ้าหน้าที่จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมทั้งประสานหน่วยปฏิบัติการพิเศษอรินทราช 26 เข้ามาช่วยเหลือตัวประกัน และติดต่อญาติของนายอภิเชษฐเพื่อมาทำการเกลี้ยกล่อม โดยมีพล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผบก.น.2 พ.ต.อ. สมศักดิ์ วิมานรัตน์ ผกก.สน.บางซื่อ เข้ามาร่วมเจรจากับผู้ก่อเหตุ
ต่อมาเวลา 13.30 น. น.ส.บลู แฟนสาวของนายอภิเชษฐ และผู้จัดการร้านสบายผับ ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ เพื่อเจรจาให้นายอภิเชษฐปล่อยตัวประกันและยอมมอบตัว แต่เวลาผ่านไปนานเกือบชั่วโมง นายอภิเชษฐยังไม่มีท่าทีว่าจะยอมปล่อยตัวประกัน กลับพยายามบังคับให้ตัวประกันอยู่นิ่งๆและใช้มีดจี้เข้าไปที่คอ ท่ามกลางความหวาดเสียวของประชาชนที่มุงดูอยู่
จากการสอบสวนนายนวพล รักร่วม อายุ 29 ปี ให้การว่า พักอยู่ที่ห้อง 601 ก่อนเกิดเหตุกำลังนอนพักอยู่ในห้อง จากนั้นตนก็ได้ยินเสียงเหมือนคนทะเลาะกันจึงออกจากห้องมาดู จากนั้นก็เห็นกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากห้อง 606 จึงเคาะประตูทุกห้องบอกว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ให้รีบหนีลงด้านล่าง และช่วยกันนำถังดับเพลิงมาฉีดเพื่อดับไฟ ระหว่างนั้นตนเห็นชายคนหนึ่งปีนจากระเบียงห้อง 606 ข้ามไปยังห้อง 608 ซึ่งอยู่ติดกัน จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ ก่อนจะมาพบวาชายคนดังกล่าวก่อเหตุใช้มีดจี้ตัวหญิงสาวเจ้าของห้องเป็นตัวประกัน
ด้าน น.ส.พิ้งค์(นามสมมิติ) อายุ 17 ปี ผู้เช่าพักที่ห้อง 606 ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนกับเพื่อนหญิงอีก 1 คนกำลังนอนพักผ่อนอยู่ในห้อง จู่ๆนายอภิเชษฐซึ่งเป็นคนรู้จักกัน และพักอยู่ที่ห้อง 407 ของแมนชั่นเดียวกันได้มาเคาะประตูเรียก เมื่อเข้ามาในห้องนายอภิเชษฐซึ่งมีอาการตื่นตระหนกก็ล็อกประตู และบอกกับตนว่าถูกคนตามฆ่า ด้วยความกลัวตนจึงรีบโทรศัพท์เรียกเพื่อนให้ขึ้นมาช่วยจนกระทั่งสามารถออกจากห้องได้ แต่ไม่นานก็พบว่านายอภิเชษฐได้จุดไฟเผาข้าวของภายในห้องของตน ส่วนเหตุเหตุนั้นน่าจะมาจากที่นายอภิเชษฐเกิดอาการเครียดเพราะทะเลาะกับแฟนสาวที่พักอยู่ด้วยกัน แต่จะมีการเสพยาเสพติดจนเกิดประสาทหลอนหรือไม่ตนไม่แน่ใจ
ต่อมาเวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษอรินทราช 26 ได้มาถึงที่เกิดเหตุ และปฏิบัติตามขั้นตอนโดยการพังประตูห้องหมายเลข 608 และปาระเบิดเสียงเข้าไป ก่อนจะเข้าไปช่วยเหลือตัวประกันได้อย่างปลอดภัย และชาร์จตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของประชาชนที่มุงดูอยู่เป็นจำนวนมาก จากนั้นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพได้นำตัวน.ส.รสสุคนธ์ ส่งโรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล สะพานควาย และคุมตัวนายอภิเชษฐออกทางด้านหลังของแมนชั่นเพื่อไปสอบสวนที่โรงพัก โดยระหว่างนั้นมีแฟนหนุ่มของน.ส.รสสุคนธ์ และประชาชนจำนวนมามายืนรอรุมประชาทัณฑ์
จากการสอบสวนนายอภิเชษฐ ให้การในสภาพคล้ายคนเมายาเสพติดว่า ตนพักอยู่ย่านรัชดาซอย 7 ทำงานเป็นดีเจเปิดแผ่นที่สบายผับ ก่อนเกิดเหตุตนได้เดินทางมาหาแฟนสาวที่ห้องพักของแมนชั่นดังกล่าว แต่เมื่อมาถึงก็พบว่าแฟนไม่อยู่จึงโทรศัพท์ให้แฟนมารับ เมื่อแฟนมารับตนก็กลับไปนั่งกินข้าวกับแฟนในห้อง จากนั้นก็รู้สึกปวดเมื่อตัวจึงไปซื้อยาเม็ดสีแดงมากิน ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเป็นยาอะไร จากนั้นก็มีอาการหลอน กลัวคนจะมาทำร้าย จึงวิ่งขึ้นไปที่ห้อง 606 ซึ่งเป็นห้องน้องสาวของเพื่อน ส่วนที่ต้องจุดไฟเผาเพราะอยากให้ควันพวยพุ่งออกมาด้านนอกให้คนเห็น แต่ก็กลัวควันไฟจึงปีนไปที่ห้องข้างๆ โดยที่ไม่รู้จักกับหญิงสาวเจ้าของห้องที่ตนจับเป็นตัวประกันแต่อย่างใด รู้สึกแต่เพียงว่าที่ทำไปทั้งหมดเพราะมีอาการประสาทหลอน และที่ไม่ยอมปล่อยตัวประกันเพราะกลัวถูกทำร้ายและอยากให้คนสนใจ ตนยอมรับว่าติดยาเสพติด โดยจะเสพยาไอซ์และยาบ้า แต่ก่อนเกิดเหตุไม่ได้เสพ แค่กินยาเม็ดสีแดงเข้าไป ก่อนที่จะก่อเหตุได้เสพยาไอซ์มาหลายวันแล้ว และที่ก่อเหตุจี้ตัวประกันตนก็ไม่ได้ต้องการจะให้ถึงตาย รู้สึกสงสารหญิงสาวเช่นกันแต่ทำไปเพราะหลอน
ด้านพ.ต.อ.เจริญ กล่าวว่า เหตุการณ์จี้ตัวประกันที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือตัวประกันเอาไว้ได้อย่างปลอดภัย โดยขณะเกิดเหตุจะต้องมีการเจรจากับผู้ก่อเหตุก่อน เพื่อดูอาการและสอบถามถึงความต้องการต่างๆ และเพื่อเป็นการถ่วงเวลาให้หน่วยอรินทราชมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจหรือจะปล่อยให้มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น ทั้งนี้มีการประสานงานไปยังกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ เพื่อขอความช่วยเหลือในการส่งหน่วยอรินทราชมาช่วยตัวประกัน โดยมีการวางแผนขั้นตอนเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เมื่อหน่วยอรินทราชมาถึงได้ปาระเบิดเสียงเข้าไปเพื่อให้ผู้ก่อเหตุตกใจละทิ้งสายตาจากตัวประกันชั่วขณะ ก่อนจะรีบเข้าไปช่วยเหลือตัวประกันและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ สำหรับสาเหตุในครั้งนี้คาดว่านายอภิเชษฐน่าจะเครียดเรื่องแฟนสาวประกอบกับเสพยาเสพติดเข้าไป ทำให้มีอาการคุ้มคลั่ง หลังจากนี้จะส่งตัวนายอภิเชษฐไปตรวจหาสารเสพติดที่โรงพยาบาลตำรวจ ก่อนแจ้งข้อหาวางเพลิงเป็นเหตุให้เสียทรัพย์และกักขังหน่วงเหนี่ยวข่มขืนใจผู้อื่น และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป