xs
xsm
sm
md
lg

พระสิงห์บุรีร้องกองปราบฯ ถูก ตร.ซ้อมยัดข้อหา

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พระทวีศักดิ์ ขีณมโล  พระวัดตะโกรวม ห อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี  ร้องตำรวจกองปราบให้ดำเนินคดีกับตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี ที่ก่อเหตุ  ร่วมกันทำร้ายร่างกาย เพื่อให้รับสารภาพว่าเป็นผู้กระทำผิดคดีฆ่าชิงทรัพย์
พระสิงห์บุรีร้องตำรวจกองปราบปรามเอาผิด ตร.ฝ่ายสืบ สภ.ค่ายบางระจัน ร่วมกันทำร้ายร่างกาย-กักขัง-บุกรุก ในครั้งเป็นฆราวาส ถูกซ้อมให้รับสารภาพคดีฆ่าชิงทรัพย์ แต่กลับถูกดำเนินคดีครอบครองยาเสพติดถูกติดคุกนาน 50 วัน ทั้งๆ ที่จับผู้ต้องหาตัวจริงได้ก่อนหน้าแล้ว

วันนี้ (21 ม.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น. ที่กองปราบปราม พระทวีศักดิ์ ขีณมโล อายุ 44 ปี พระวัดตะโกรวม หมู่ 4 ต.คอทราย อ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สุวัฒน์ แสงนุ่ม พนักงานสอบสวน (สบ 3) กก.2 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.ค่ายบางระจัน จ.สิงห์บุรี ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในยามวิกาล และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีจับกุมตัวพระทวีศักดิ์เมื่อครั้งเป็นฆราวาสไปกักขังนานถึง 5 วัน ระหว่างนั้นก็ถูกตำรวจทำร้ายร่างกายเพื่อให้รับสารภาพว่าเป็นผู้กระทำผิดคดีฆ่าชิงทรัพย์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ แต่ภายหลังกลับถูกดำเนินคดีครอบครองยาเสพติด ต้องโทษจำคุกในเรือนจำกว่า 50 วัน ทั้งที่มีการจับกุมผู้ต้องหาตัวจริงที่ก่อเหตุได้แล้ว

พระทวีศักดิ์ให้การว่า เดิมชื่อนายทวีศักดิ์ งิ้วลาย มีอาชีพรับจ้างฉีดยาฆ่าแมลง หว่านปุ๋ย บ้านพักอยู่ในละแวกเดียวกับบ้านของนายสุทิน ชูจิต เจ้าของร้านของชำที่ถูกคนร้ายฆ่าชิงทรัพย์ ส่วนนางสำราญ ปัจฉิม ภรรยาได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อต้นเดือน พ.ค.53 ซึ่งในขณะนั้นตนก็ไปช่วยงานศพนายสุทินด้วยเพราะเป็นเพื่อนบ้านกัน แต่ระหว่างนั้นมีตำรวจ สภ.ค่ายบางระจันมาเชิญตัวไปสอบปากคำที่สถานีตำรวจถึง 2 ครั้งหลังสอบปากคำเสร็จก็ปล่อยตัวมา แต่เมื่อกลางดึกวันที่ 6 มิ.ย.53 ก็มีตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.ค่ายบางระจัน 3 นาย มาหาตนที่บ้าน ด้วยความบริสุทธิ์ใจตนก็ยอมไปด้วย ตำรวจจึงนำตนขึ้นรถกระบะแต่ระหว่างทางกลับใส่กุญแจมือและควบคุมตัวมาที่สถานีตำรวจ

พระทวีศักดิ์กล่าวต่อว่า เมื่อมาถึงสถานีตำรวจเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นาย ทราบชื่อแค่ 2 นาย คือ หมง และชาติ ได้นำตนขึ้นไปขังไว้ในห้องหนึ่งที่อยู่ชั้น 3 โดยจับตนนั่งเก้าอี้และใส่กุญแจมือไพล่หลังจากนั้นก็บังคับให้ตนรับสารภาพว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์นายสุทิน เจ้าของร้านขายของชำ แต่ตนปฏิเสธเพราะไม่ได้ทำ จึงถูกเตะ กระทืบ เอาไม้ตีตามร่างกาย และเอาถุงพลาสติกคลุมหัว ก่อนจะนำตัวเข้าห้องขังที่สถานีตำรวจ ต่อมาในวันที่ 7 และ 8 มิ.ย.53 เมื่อถึงช่วงกลางคืนก็ถูกนำตัวออกจากห้องขังไปยังห้องเดิมและรุมทำร้ายร่างกายตนซ้ำอีก หลังจากซ้อมตนอยู่ 3 วัน ตำรวจก็ขังตนไว้ที่ห้องขังโรงพักอีก 1 วัน 1 คืน พอรุ่งขึ้นคือวันที่ 10 มิ.ย.53 ตำรวจก็นำตนออกจากห้องขังไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาว่าตนครอบครองยาบ้า 2 เม็ด จากนั้นก็ถูกนำตัวส่งศาลและถูกขังที่เรือนจำในวันเดียวกัน

“ตอนนั้นอาตมาตกอยู่ในภาวะจำยอม เพราะถูกซ้อมจนระบมไปหมดแล้ว ซึ่งตำรวจจะให้เซ็นตรงไหนก็ทำ แต่ระหว่างถูกขังอยู่เรือนจำนั้นก็ทราบข่าวว่าคนร้ายที่ก่อเหตุถูกจับตัวได้แล้วแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงขอคำแนะนำจากนักโทษด้วยกัน เขาก็บอกให้รับสารภาพไป อาตมาเลยรับสารภาพ ศาลจึงตัดสินจำคุก 50 วัน ปรับ 1 หมื่นบาท แต่ไม่มีเงินเสียค่าปรับจึงต้องติดคุกชดใช้แทนค่าปรับไป หลังจากพ้นโทษมาได้สิบกว่าวันจึงตัดสินใจบวชล้างซวย” พระทวีศักดิ์กล่าว

พระทวีศักดิ์กล่าวอีกว่า หลังจากบวชมาได้เดือนกว่า ตำรวจที่ชื่อหมงก็นำดอกไม้ธูปเทียนมาหาตนที่วัดเมื่อวันที่ 16 พ.ย.53 เพื่อขอขมาในสิ่งที่ทำไปโดยยอมรับว่าได้จับกุมผิดตัวไปจริงๆ จากนั้นตนก็นำเรื่องไปร้องเรียนที่ตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี แต่เรื่องเงียบหายไปจึงร้องเรียนสื่อมวลชนในพื้นที่ก่อนจะมาร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมที่กองปราบปราม

เบื้องต้น พ.ต.ท.สุวัฒน์รับเรื่องและสอบปากคำผู้เสียหายไว้เป็นหลักฐานเพื่อเสนอผู้บังคับบัญชาสั่งการต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น