xs
xsm
sm
md
lg

เครือข่าย ปชช.แนะ ตร.สั่งปิดถาวรผับเปิดให้โจ๋ต่ำกว่า 20 ปีกินเหล้า!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

เครือข่ายเฝ้าระวังแอลกอฮอล์ เสนอ ข้อเรียกร้องให้นครบาลให้ตำรวจทำกฎหมาย ให้ศักดิ์สิทธิ์
เครือข่ายเฝ้าระวังแอลกอฮอล์แสดงจุดยืน 5 ข้อเสนอนครบาลให้ตำรวจทำกฎหมายให้ศักดิ์สิทธิ์ ตรวจผับบาร์ขายเหล้าให้เด็กต่ำกว่า 20 ปี ควรสั่งปิดถาวร ส่วนร้านยาดอง-เหล้าปั่นที่ฝ่าฝืนทำผิดกฎหมายต้องเข้มงวดจริงจัง หวั่นมอมเมาวัยรุ่นมั่วสุม เกิดอาชญากรรมตามมา

วันนี้ (20 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เครือข่ายเฝ้าระวังแอลกอฮอล์กรุงเทพฯ และเด็กๆ กทม. กลุ่มเกษรชุมชนกว่า 50 คน นำโดยนายภูเมธ กมลศุภกิตต์ ผู้ประสานงานเครือข่าย เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. เพื่อยื่นข้อเรียกร้องให้ใช้มาตรการคุมเข้มร้านที่มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด เนื่องจากเครือข่ายฯ พบว่ามีการละเมิดกฎหมายเป็นจำนวนมาก

นายภูเมธกล่าวว่า ปัญหาอาชญากรรม เด็กและเยาวชนออกมามั่วสุมมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ส่วนใหญ่ปัจจัยเกิดจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้มาตรการห้ามขาย ห้ามดื่มยังพบว่ามีการฝ่าฝืน เช่น บริเวณสวนสาธารณะที่วัยรุ่นชอบไปนั่งดื่ม รวมถึงป้ายโฆษณา และป้ายลดแลกแจกแถมที่ติดตามร้านค้าต่างๆ ยังท้าทายและทำผิดกฎหมาย ทั้งนี้ สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ ในแหล่งชุมชน มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เช่น ร้านโชวห่วย ร้านยาดอง เนื่องจากมีขายแทบทุกซอย โดยได้ขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ซึ่งบางร้านแปรสภาพเป็นร้านคาราโอเกะเพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยแรงงาน คนขับรถจักยานยนต์รับจ้าง คนขับแท็กซี่ ซึ่งเมื่อดื่มแล้วยังออกไปขับรถรับส่งผู้โดยสารอีก ซึ่งเสี่ยงมากทั้งผู้โดยสารและคนขับ

นายภูเมธกล่าวต่อไปว่า เพื่อให้มาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกิดการบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เครือข่ายขอแสดงจุดยืนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำไปพิจารณา ดังนี้ 1.ขอบคุณและสนับสนุนมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เพื่อลดปัญหาสังคม ปกป้องเด็กและเยาวชน 2.ขอให้ บช.น.เข้มงวดต่อร้านค้า ร้านเหล้าผับบาร์ ที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี โดยเฉพาะที่อยู่ใกล้สถานศึกษา และขอให้ประสานงานกับทางกรมสรรพสามิต เพื่อขึ้นบัญชีรายชื่อมิให้ออกใบอนุญาต ให้กับผู้กระทำความผิดอย่างถาวร และหากพบว่ามีการเปลี่ยนชื่อเพื่ออำพราง หลบเลี่ยง แต่เจ้าของตัวจริงยังเป็นคนเดิมที่เคยกระทำความผิดมาแล้ว ขอให้ใช้บทลงโทษตามกฎหมายอื่นที่รุนแรงและเด็ดขาด เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป 3.ขอให้เข้มงวดกับการกระทำความผิด ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ในมาตราอื่นด้วย เช่น ป้ายโฆษณาที่ผิดกฎหมาย การจัดลดแลกแจกแถม ซึ่งยังพบว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมายอยู่จำนวนมากในพื้นที่กรุงเทพฯ

ข้อ 4.ขอให้ตรวจสอบร้านเหล้าปั่น ที่มีอยู่ทั่วไปด้วยว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมาย และมีใบอนุญาตหรือไม่ เพราะเหล้าปั่นมีลูกค้าที่สำคัญคือ เด็ก เยาวชน และบรรดาเด็กแว้นทั้งหลาย เนื่องจากราคาถูกและกินง่าย รวมถึงขอเรียกร้องผ่านไปยังคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ให้เร่งออกมาตรการควบคุมเหล้าปั่น เพื่อเป็นเครื่องมือในการควบคุมและแก้ไขปัญหานี้ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ 5.ขอให้ดำเนินการกับร้านค้าที่ให้มีการจับฉลากชิงโชคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งกำลังระบาดหนักในชุมชนและตลาดนัด ทั้งๆที่ผิด พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 30 (4) (5) โดยควรจัดการไปให้ถึงแหล่งผลิตฉลากดังกล่าวด้วย

“ภาคประชาชนต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำกฎหมาย ให้มีความศักดิ์สิทธิ์ เข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ทั้งนี้ ในส่วนของสถานบันเทิงที่วัยรุ่นชอบเข้าไปดื่มกิน จะต้องเข้มงวดเป็นกรณีพิเศษ ไม่ใช่ทำแบบรูปหน้าปะจมูก เช่น การสุ่มตรวจหากพบเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ ควรสั่งปิดสถานบันเทิงนั้นเป็นการถาวร เพื่อเป็นตัวอย่างแก่สถานบันเทิงอื่นให้เคารพกฎหมาย และการตั้งด่านเพื่อตรวจวัดแอลกอฮอล์ควรอยู่ในระยะที่ใกล้สถานบันเทิงด้วย เพราะเท่าที่ตนสังเกตจะมีการตั้งด่านห่างจากสถานบันเทิงมาก นอกจากนี้ การตั้งด่านควรทำตลอดเวลาไม่ใช่เฉพาะช่วงเทศกาลเท่านั้น” นายภูเมธกล่าว






กำลังโหลดความคิดเห็น