xs
xsm
sm
md
lg

“วิเชียร” ไม่เกรงเสียงวิจารณ์เลือก “วิษณุ เครืองาม” นั่ง ก.ตร.

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)
“วิเชียร” แอ่นอกรับเสนอชื่อ “วิษณุ เครืองาม” อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็น ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ (ข) ปัด ไม่กังวลเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามที่การเมืองต้องการ ระบุ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเสนอใครก็ได้ตามสังคมประชาธิปไตย

วันนี้ (19 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ได้นัด ก.ตร.โดยตำแหน่ง ซึ่งประกอบด้วย พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) นายนนทิกร กาญจนะจิตรา เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์­ ดามาพงศ์ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต พล.ต.อ.ชลอ ชูวงษ์ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ พล.ต.อ.วุฒิ พัวเวส พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) รวม 11 คน และ ก.ตร.ผู้ทรวคุณวุฒิ (ก) ที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้งจากข้าราชการตำรวจอีก 5 คน ซึ่งประกอบด้วย พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช พล.ต.อ.วุฑฒิชัย ศรีรัตนวุฑฒิ พล.ต.อ.ชาญชิต เพียรเลิศ พล.ต.อ.บุญฤทธิ์ รัตนะพร และ พล.ต.ท.ศุภวุฒิ สังข์อ่อง ประชุมโดยพร้อมเพรียงกันในเวลา 12.00 น.วันที่ 20 มกราคม ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคาร 1 ตร.เพื่อเลือก ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ (ข) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญใน 6 สาขา ประกอบด้วย นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ บริหารงานยุติธรรม อาชญวิทยา และเศรษฐศาสตร์ รวม 6 คน ตามที่ ก.ตร.แต่ละคนได้เสนอรายชื่อมายังเลขา ก.ตร.ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมา

พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า ขณะนี้ ก.ตร.แต่ละคนก็เสนอชื่อ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ (ข) สาขาต่างๆมาแล้ว โดยตนเองเสนอครบทั้ง 6 สาขา และยอมรับว่า เป็นคนเสนอชื่อ นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี เข้ามา และการแนะนำคุณสมบัติคนที่ตัวเองเสนอ ก็คงไม่เรียกว่าการล็อบบี้ใช่ไหม

พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า ไม่กลัว ไม่กังวลกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า เลือก ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ (ข) ตามที่การเมืองต้องการ เพราะทุกอย่างมีแนวทางอยู่แล้ว และทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเสนอใครก็ได้ตามสังคมประชาธิปไตย และสิทธิตามกฎหมาย ทุกอย่างเป็นไปตามหลักการที่มีการกำหนดไว้แล้ว ถึงใครเข้ามาตนในฐานะผู้บริหาร ตร.ใครเข้ามาเป็น ก.ตร.ก็ได้เพราะตนมีหลักของตนในการบริหารที่ดีอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า การนัดรับประทานอาหารระหว่าง ก.ตร.ที่มีสิทธิ์เลือกก่อนหน้านี้เป็นการล็อบบี้หรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า คงไม่เรียกว่าล๊อบบี้แต่เป็นการพูดคุยแนวทางการทำงานเพื่อสร้างความคุ้นเคยซึ่งเป็นธรรมดาของสังคมไทยอยู่แล้ว

พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวถึงการแต่งตั้งระดับ รอง ผบก.-สารวัตร วาระประจำปี 2553 ว่า กำหนดการยังเหมือนเดิม คือ ให้ดำเนินการแต่งตั้งให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 มกราคมนี้ ให้คำสั่งมีผลภายในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ซึ่งการแต่งตั้งครั้งนี้ยึดตามหลักเกณฑ์ และออกหลักเกณฑ์เสริมระเอียดยิบ เชื่อว่าไม่มีหรมกองไหนมีหลักเกณฑ์การแต่งตั้งละเอียดเท่านี้มาก่อน

“และต้องแก้ข่าวเลย ก่อนหน้านี้ ที่บอกว่า ก.ตร.เห็นว่า ควรให้แต่งตั้งเลื่อนขึ้นข้ามหน่วยนั้น ต้องบอกว่าไม่ได้แล้ว การแต่งตั้งครั้งนี้จะไม่มีการแต่งตั้งเลื่อนขึ้นข้ามหน่วย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม เนื่องจากแต่ละหน่วยมีจำนวนตำแหน่งว่างที่ไม่เท่ากัน โดยเหตุที่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากมีการเปิดตำแหน่งรอง ผบก.เพิ่มให้กองบัญชาการ ตำรวจนครบาลแล้ว นอกจากนี้ ยังไม่อนุญาตให้ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งไม่ครบ 2 ปีโยกย้ายด้วยโดยให้ถือกฎเคร่งครัดเว้นแต่กรณีที่ตำแหน่งชำนาญเฉพาะทางที่ไม่มีผู้มีคุณสมบัติครบได้ขึ้น ก็จำเป็นต้องอนุญาต โดยการพิจารณากลุ่มที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ก็ต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการชุด พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ที่ปรึกษา (สบ10) ทั้งนี้ ยอมรับว่า การแต่งตั้งล่าช้า แต่ที่ช้าเพราะรายละเอียดเยอะ ตรวจสอบทุกอย่างอย่างละเอียด และมั่นใจว่า จะไม่มีกรณีอย่างจ่าเพียรอีก” ผบ.ตร.กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อ ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆที่ได้รับการเสนอให้เป็นก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ(ข)ซึ่งผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติมี 15 คน ดังนี้ ด้านนิติศาสตร์ นายเข็มชัย ชุติวงศ์ นายวิษณุ เครืองาม ด้านรัฐศาสตร์ ศ.ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ รศ.ดร.สุรชาติ บำรุงสุข ด้านเศรษฐศาสตร์ ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ นายอารี ภู่ชอุ่ม ดร.อำพน กิตติอำพน ด้านรัฐประศาสนศาสตร์ ดร.ดำรงค์ วัฒนา ดร.วงศ์ศักดิ์ สวัสดิพาณิชย์ ศ.วรเดช จันทรศร ด้านอาชญวิทยานายธาริต เพ็งดิษฐ์ ผศ.ดร.ศรีสมบัติ โชคประจักษ์ชัด รศ.ร.ต.อ.สรพลจ์ สุขทรรศนีย์ ด้านงานยุติธรรม รศ.จตุพร บานชื่น และนายจุลสิงห์ วสันต์สิงห์

ขณะพล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร รองผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี(รองผบช.กมค.) ซึ่งเคยออกมาเปิดโปงการแทรกแซงการแต่งตั้งโดยนักการเมือง กล่าวถึงการเลือกกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)ผู้ทรงคุณวุฒิ(ข) ท่ามกลางกระแสข่าวว่าฝ่ายการเมืองได้วางตัวก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ(ข)ทั้ง 6 คนไว้แล้ว ว่า ก.ตร.มี 3 ส่วนคือก.ตร.โดยตำแหน่ง 11 คน ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ(ก)ที่ข้าราชการตำรวจเลือกมา 5 คน และก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ(ข)อีก 6 คน โดยการคัดเลือกประเภท(ข)นั้นให้ก.ตร.2 กลุ่มแรกเสนอรายชื่อและร่วมเลือก จุดประสงค์เพื่อให้ช่วยกันพิจารณาบุคคลที่ดี มีคุณธรรม จริยธรรม มีความรู้ในสาขาวิชาต่างๆเป็นนักวิชาการ เอาความรู้ของคนเก่งๆเหล่านี้มาพัฒนาหน่วย แล้วนำผู้ทรงคุณวุฒิเหล่านี้มาเสนอในที่ประชุมและคัดเลือกกัน ทั้งนี้หากเลือกคนที่เป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ฟากฝ่ายใด มีคุณธรรมเข้ามาร่วมคณะกรรมการ เพื่อช่วยกันออกกฎหมาย และทำการแต่งตั้งโยกย้ายโดยเป็นกลางและมีคุณธรรม

“ที่ผ่านมาฝ่ายการเมืองก็เข้ามาแทรกแซงการแต่งตั้งทุกหน่วยงาน ทุกวงการ ถ้ายังเข้ามาแทรกแซงการสรรหาก.ตร.แล้วได้ไปอีก 6 คนก็มีปัญหาแน่ เป็นการล้วงลูกแทรกแซงเพื่อต้องการฐานอำนาจ แต่เรื่องนี้ก็พอจะเข้าใจ ผบ.ตร. รองผบ.ตร.โดยเฉพาะคนที่ยังต้องรับราชการอายุราชการอีกยาว ยังมีอนาคตก็คงไม่กล้าที่จะขัดความต้องการของนักการเมือง ทั้งนี้หากการเลือกก.ตร.ครั้งนี้ แล้วยอมตามฝ่ายการเมืองได้มาทั้ง 6 คน เมื่อรวมกับ 11 คนโดยตำแหน่ง แม้ไม่ครบทั้งหมดได้เสียงรองผบ.ตร. แค่7-8 คน ก็จะเป็นเสียงข้างมากแล้ว เป็นอย่างนี้ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ(ก)ที่ตำรวจร่วมกันเลือกมา 5 คนก็ไร้ความหมาย ถึงจะค้านอย่างไรก็เอาชนะไม่ได้ ไม่ต้องประชุมยังได้ เพราะแค่5 เสียง เอาชนะเสียงข้างมากไม่ได้หรอก” พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าว

รองผบช.กมส.กล่าวว่า หากคนที่การเมืองสั่งมาได้รับเลือกจริง ก็เท่ากับว่าก.ตร.โดนล้วงลูกตั้งแต่แรกแล้ว ต่อไปผลกระทบหลายด้านต่อไปการเมืองต้องการแต่งตั้งคนของตัวเองก็ง่ายดาย เพราะการเมืองได้ครองเสียงข้างมากในก.ตร.แล้ว รวมถึงการแก้กฎหมาย กฎก.ตร.ต่างๆเพื่อเอื้อประโยชน์ให้นักการเมือง ตำรวจที่เป็นคนของนักการเมืองก็ย่อมเกิดขึ้นแน่ เรียกว่าเป็นการล้วงลูกอย่างฉลาดของนักการเมือง เดิมทีตำรวจยังพอมีหวังบ้างในกรณีที่นักการเมืองสั่งให้แต่งตั้งวางคนของตัวเองเข้ามารับตำแหน่งดีดี เพราะยังได้ลุ้นว่าในก.ตร.ยังพอต้านทานได้ แต่ต่อไปหากยอมให้คนในก.ตร.เป็นคนของการเมืองทั้งหมด ตำรวจก็หมดหวังทันทีหมดที่พึ่ง

“หากรองผบ.ตร.ยอมฝ่ายการเมืองเพื่อผลประโยชน์เพื่อหวังฝากเด็กของตัวเอง ยอมเพราะเกรงกลัวอำนาจ นิ่งเฉย ยอมให้ถูกแทรกแซง ก็เท่ากับว่าเป็นเสือกระดาษ ในฐานะตำรวจคนหนึ่งก็อยากให้ก.ตร.โดยตำแหน่งทุกคนเลือกคนดี เป็นกลาง มีคุณธรรม เข้ามา ไม่ปอดแหก ทั้งนี้หากยอม ไม่สู้ก็เป็นกรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากยอมในคนของนักการเมืองเข้ามาครั้งนี้ก็ต้องยอมไปตลอด 4 ปี แพ้ในครั้งนี้ก็แพ้ไปตลอดอีก 4 ระบบเสีย ถูกนักการเมืองครอบงำไปอีก 4 ปี” พล.ต.ต.วิสุทธิ์ กล่าว
นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี
กำลังโหลดความคิดเห็น