ออกหมายจับคนขับฟอร์จูนเนอร์ มือยิงกัปตันการบินไทยแล้ว หลังตรวจเจอมีการเปลี่ยนแปลงป้ายทะเบียน-กันชนหน้า-ไฟหน้ารถ ส่อไปในทางอำพรางคดี ชี้พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงรูปโฉมรถใหม่ จะผิด พ.ร.บ.รถยนต์-จราจร เผยโดน 2 ข้อหาหนัก “พยายามฆ่าผู้อื่น-พกพาปืนในเมือง” ส่งชุดสืบลงพื้นที่ติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป ด้าน กัปตันบินไทยไม่รู้สึกโกรธแค้น หรืออาฆาตมือยิง ยกเหตุการณ์เป็นอุทาหรณ์กับผู้ใช้รถมีสติไม่ประมาท
วันนี้ (17 ม.ค.) พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (ผบช.สพฐ.ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุการณ์คนขับรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ป้ายแดง ไล่ยิง ร.ท.พูลวิทย์ เรืองเดช อายุ 53 ปี กัปตันเครื่องบินสายการบินไทย จนได้รับบาดเจ็บว่า จากการสังเกตป้ายทะเบียนไม่น่าจะเป็นป้ายเดิม ซึ่งน่าจะมีการนำป้ายอื่นมาติด และจากการสืบสวนทราบว่ามีการเปลี่ยนแปลงป้ายทะเบียนด้วย ซึ่งน่าเชื่อว่าเป็นการอำพรางคดี เพราะมีกันชนซ้ายขวาด้านหนึ่งมีคิ้ว อีกด้านไม่มีคิ้ว ลักษณะของการเปลี่ยนแปลงไม่ประณีต โดยมีการเปลี่ยนไฟหน้ารถ ไม่ใช้ไฟดวงเดิม ซึ่งรถคันนี้ทราบว่าเป็นของพี่ภรรยาของคนขับรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ ส่วนพี่ภรรยาจะมีความผิดหรือไม่ ต้องดูการสืบสวน แต่ลักษณะพฤติกรรมการขับรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์และยิง เจ้าของไม่น่ามีส่วนกับการแสดงอำนาจบาตรใหญ่
พล.ต.ท.จรัมพร กล่าวด้วยว่า จะต้องตรวจสอบทะเบียนป้ายแดงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับใครบ้าง ส่วนกระสุนปืนกล็อก 9 มม.ที่ตรวจพบ 2 ปลอกบนมอเตอร์เวย์นั้น ทราบว่าออกหมายจับผู้ต้องหารายนี้แล้ว
ส่วนรถคันนี้หากไม่ได้ก่อเหตุ แต่พฤติกรรมเปลี่ยนไฟ ป้าย กันชนท้าย จะมีความผิดหรือไม่ ผบช.สพฐ.กล่าวว่า โดยปกติรถที่ออกมาจะมีป้ายประจำรถ หากเปลี่ยนไฟ ป้าย จะผิดในเรื่องพ.ร.บ.รถยนต์ พ.ร.บ.จราจร
ส่วนที่มีเหตุเกิดช่วงระหว่างบางปะกง พบรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ขับปาดไปมา พร้อมกับโชว์อาวุธปืน จะเชื่อมโยงกับคดีดังกล่าวหรือไม่ ผบช.สพฐ.ตร.กล่าวว่า จากพยานมีความเชื่อมโยงกัน หากสอบสวนพยานแล้วอาจจะออกหมายจับได้อีกคดี ทั้งนี้ มีพยานเป็นบคุคล คือภรรยาของผู้ยิง นอกเหนือจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบคราบเขม่าดินปืนในรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์แล้ว ส่วนคนขับรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ คาดว่าคงไม่ทันหนีไปต่างประเทศ น่าจะมอบตัวมากกว่า ส่วนจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่นั้น ยังตอบไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ตรวจสอบไปถึงขนาดนั้น
หนุ่มตระกูลดัง เจอ 2 ข้อหาหนัก
ต่อมาเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.เทียนชัย คามะปะโส ผกก.สน.ประเวศ เปิดเผยถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งไล่ล่าติดตามจับกุมตัว นายพริสร หรือ ณัฐพงษ์ ห้วยหงษ์ทอง อายุ 26 ปี อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาคดีขับรถยนต์โตโยต้า ฟอจูนเนอร์ ยิง ร.ท.พูลวิทย์ ว่าขณะนี้ได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาเรียบร้อยแล้ว โดยเป็นหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ที่ ส.27/2554 ลงวันที่ 16 ม.ค.54 ในข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเมื่อวานนี้ (16 ม.ค.) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการพูดคุยกับทนายความของผู้ต้องหาเกือบทั้งวัน แต่ตัวผู้ต้องหาเองก็ยังไม่ได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวโดยทางเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.4 และฝ่ายสืบสวน สน.ประเวศ ได้ลงพื้นที่หลายจุด เพื่อติดตามจับกุมตัวแล้ว
กัปตันบินไทยไม่โกรธแค้นมือยิง
ด้าน ร.ท.พูลวิทย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้อาการบาดเจ็บดีขึ้นมากแล้ว และหลังเกิดเหตุก็ไม่ได้ระมัดระวังตัวอะไรเป็นพิเศษ เพราะตนไม่เคยมีเรื่องกับใคร และขับรถด้วยความระมัดระวัง ส่วนทางคดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานงานกับตนอยู่ตลอด ไม่ได้ละเลยในการติดตามคนร้าย ซึ่งตนก็ทราบแล้วว่ามีการออกหมายจับ และอยู่ระหว่างการติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี
"ผมมองว่าใต้ฟ้าเมืองไทยไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้ จากที่ไม่มีเบาะแสอะไรเลย ก็สามารถรวบรวมหลักฐานต่างๆจนรู้ตัวผู้ที่ก่อเหตุได้ " ร.ท.พูลวิทย์ กล่าว
กัปตันการบินไทย กล่าวว่า เมื่อตนรู้ข่าวว่าผู้ก่อเหตุเพิ่งจะอายุ 25 ปี และวันเกิดเหตุภรรยากับลูกนั่งอยู่ในรถด้วย ทำให้ตนรู้สึกสงสาร เพราะอายุถือว่าเป็นรุ่นลูกของตน ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ได้รู้สึกโกรธแค้น หรือ อาฆาตใด ๆ เพียงแต่อยากให้เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ กับผู้ที่ขับขี่รถบนท้องถนน โดยทุกคนต่างก็เร่งรีบในการเดินทาง แต่เพื่อความปลอดภัยและไม่ให้เกิดการทำผิดกฎจราจรตนก็อยากให้ทุกคนใช้สติ และไม่ประมาท
จ่อหมายจับ “หนุ่มตระกูลดัง” มือยิงกัปตันบินไทย
เจอปลอกกระสุนปืนกล็อกยิงกัปตันบินไทย-เร่งล่าฟอร์จูนเนอร์!
ไร้กล้องจับฟอร์จูนเนอร์ไล่ยิงกัปตันบินไทย
แค่เปิดไฟสูงใส่! เก๋งป้ายแดงฉุนไล่ยิงกัปตันการบินไทยหวิดดับ
