xs
xsm
sm
md
lg

จ่อหมายจับ “หนุ่มตระกูลดัง” มือยิงกัปตันบินไทย

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผบช.พฐ. ตรวจสอบรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ที่ตรวจยึดได้
ตำรวจสืบสวนนครบาล 4 บุกแปดริ้ว ยึดฟอร์จูนเนอร์ ป้ายแดง ต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงกัปตันการบินไทย บนมอเตอร์เวย์ เผย หลักฐานเริ่มชัดเตรียมขออนุมัติหมายจับหนุ่มเมืองเพชรบุรี ตระกูล “ห้วยหงษ์ทอง” ผู้ก่อเหตุ

ความคืบหน้าคดีที่ ร.ท.พูลวิทย์ เรืองเดช อายุ 53 ปี กัปตันเครื่องบินสายการบินไทย ถูกคนร้ายขับรถโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ไม่ทราบหมวดอักษรและเลขทะเบียน ไล่ยิงจนได้รับบาดเจ็บ บนทางพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์) กรุงเทพฯ-ชลบุรี สาเหตุเพียงเพราะการเปิดไฟกะพริบใส่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุด วันนี้ (16 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น.เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้ลงพื้นที่เดินเท้าตรวจสอบไปตามขอบทางด้านซ้ายของถนนมอเตอร์เวย์ ฝั่งขาออก ยาวไปจนถึงช่วง กม.ที่ 11 หลังจากเมื่อวานตรวจสอบถึง กม.ที่ 9 แล้ว พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ประทับตราภาษาอังกฤษ ว่า รอยัล ไทย อาร์มี่ ตกอยู่บนพื้นผิวการจราจรในสภาพบุบบู้บี้ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ประสานนำรถดูดฝุ่นของแขวงการทาง ไปดูดฝุ่นตามขอบทางด้านซ้ายมอเตอร์เวย์อีกครั้งอย่างละเอียด หลังจากเมื่อช่วงเย็นวานนี้ได้ตรวจไปแล้วหนึ่งรอบ ซึ่งจะนำสิ่งที่รถสามารถดูดได้ทั้งหมดไปเทกองไว้บนพื้นที่หน้าสถานี กก.ทล.หมายเลข 8 ลาดกระบัง แล้วเจ้าหน้าที่ก็ใช้วิธีร่อนตะแกรง ก่อนจะนำเอาเครื่องตรวจหาวัตถุโลหะมาตรวจสอบ

ด้าน พ.ต.อ.อาณัต เกล็ดมณี รอง ผบก.น.4 เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้หลักฐานเป็นปลอกกระสุนขนาด 9 มม.มาแล้ว ขณะยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐานอยู่ ว่าเป็นปลอกกระสุนที่ใช้ยิงมาจากปืนกระบอกเดียวกันกับที่คนร้ายยิงใส่ผู้เสียหายหรือไม่ นอกจากนี้ ยังได้ข้อมูลจากพยานด้วยว่า บนถนนมอเตอร์เวย์ ช่วงบางปะกง ช่วงใกล้ค่ำก่อนเกิดเหตุนั้น ก็มีเหตุลักษณะคล้ายกันเกิดขึ้น โดยมีคนเห็นว่า รถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ป้ายแดง ซึ่งเหมือนกับของคนร้าย ขับรถปาดกันไปมากับคู่กรณีอยู่โดยไม่รู้ว่าเป็นใคร และมีการชักอาวุธปืนขึ้นมาข่มขู่ แต่ไม่ทันได้ยิง ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าจะเป็นคนร้ายรายเดียวกันหรือไม่ รวมทั้งกำลังรวบรวมภาพจากกล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียงอยู่ ต้องรอตรวจสอบสักระยะ คาดว่า ไม่น่าเกิน 3 วัน คดีน่าจะชัดเจนขึ้น ซึ่งก็อยากขอร้องให้ประชาชนที่ใช้เส้นทางอยู่ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ และเห็นเหตุการณ์ก็ขอให้ช่วยให้เบาะแสกับตำรวจ ไม่ต้องกลัวโดยยืนยันว่า ทุกอย่างจะถูกเก็บเป็นความลับ เพื่อที่จะได้นำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

รายงานข่าวจากฝ่ายสืบสวน แจ้งว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่รู้ตัวคนร้ายที่ก่อเหตุรายนี้แล้ว และอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติออกหมายจับ นอกจากนี้ ยังได้เชิญตัวพยานซึ่งเป็นภรรยาของคนร้ายมาทำการสอบปากคำแล้ว ซึ่งให้การที่เป็นประโยชน์พอสมควร แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ประเวศ กำลังเร่งติดตามตัวคนร้ายอยู่ เนื่องจากพบว่าไม่ได้อยู่ที่บ้านพัก แต่ตรวจสอบเบื้องต้นไม่ใช่คนมีสีตามที่หลายคนตั้งข้อสันนิษฐาน สำหรับปลอกกระสุนที่พบเป็นการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานว่าเป็นขนาด 9 มม.

แต่ทั้งนี้ จะต้องนำปืนของกลางมาตรวจสอบเสียก่อนจึงจะสามารถยืนยันได้ ส่วนปลอกกระสุนปืนที่พบว่ามีการประทับตราภาษาอังกฤษ ว่า รอยัล ไทย อาร์มี่ ตกอยู่บนพื้นผิวการจราจรในสภาพบุบบู้บี้นั้น ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นกระสุนที่มีในความครอบครองของทหาร หรือตำรวจ ประชาชนทั่วไปสามารถมีเก็บไว้ได้ หากเป็นสมาชิกของสนามยิงปืน หรือมีการฝึกยิงปืน อย่างไรก็ตามหากจับกุมตัวได้ก็จะแจ้งข้อหาพยายามฆ่าเอาไว้ก่อน ซึ่งเร็วๆ นี้ จะได้ตัวคนร้ายมาดำเนินคดีอย่างแน่นอน

ด้าน พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้บัญชาการกองพิสูจน์หลักฐาน (ผบช.พฐ.) กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุวันที่ 3 ซึ่งได้พบปลอกกระสุนปืน 9 มม.แบบเดียวกับที่เคยพบอีก 1 ปลอก และล่าสุด เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.น.4 ได้ยึดรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ป้ายแดง จากพื้นที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา มาทำการตรวจสอบซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิสูจน์หลักฐานว่าเป็นรถที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุหรือไม่ อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่ารถคันดังกล่าวมีการเปลี่ยนทะเบียนเพื่อปิดบังอะไรบางอย่าง

ต่อมาวันเดียวกัน เวลา 15.00 น. พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้บัญชาการกองพิสูจน์หลักฐาน (ผบช.พฐ.) ได้ทำการตรวจรถยนต์ต้องสงสัยที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.4 ตรวจยึดมาได้ พบว่า จุดที่พบพิรุธ คือ แผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งมีการนำป้ายทะเบียนของรถคันอื่นมาใส่ และน่าจะใส่ด้วยท่าทางรีบร้อน เพราะนำป้ายที่ต้องติดไว้ด้านหน้าไปใส่ด้านหลัง ทำให้เห็นว่ามีแมลงจำนวนมากติดอยู่ที่แผ่นป้ายทะเบียน มีการแต่งกันชนด้านหน้า และไฟด้านท้ายเล็กน้อย แต่ทั้งนี้พยานที่ถูกคนร้ายก่อเหตุก่อนหน้า ร.ท.พูลวิทย์ สามารถจำท่อไอเสียและสติกเกอร์ที่ติดอยู่ด้านหลังรถได้ นอกจากนี้ ปลอกกระสุนปืนที่พบทั้งหมดในจุดเกิดเหตุอยู่ห่างกันประมาณ 100 เมตร ซึ่งจากการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ พบว่า เป็นการยิงมาจากปืนกระบอกเดียวกัน ส่วนรถยนต์ตต้องสงสัยที่นำมาตรวจสอบขณะนี้เหลือเพียงการตรวจหาคราบเขม่าดินปืน และเก็บรวบรวมหลักฐานอื่นๆ อีกเล็กน้อย ส่วนที่เหลือจะเป็นหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่

ขณะที่ พ.ต.อ.อาณัติ เกล็ดมณี รอง ผบก.น.4 เปิดเผยว่า สำหรับรถยนต์คันดังกล่าวคนร้ายได้ยืมมาจากพี่ภรรยา ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา และประกอบอาชีพค้าขาย ส่วนคนร้ายเบื้องต้นรู้ตัวแล้วว่าเป็นใคร แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากจะมีผลต่อรูปคดี บอกได้แต่เพียงว่า อายุ 26 ปี เป็นชาว อ.บ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี และไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร ซึ่งจากการสอบปากคำ น.ส.ปิยะจินดา รุจิภานนท์ ภรรยาของคนร้ายได้ให้การว่า ขณะเกิดเหตุได้นั่งรถไปกับสามีและลูกชายวัย 1 ขวบ แต่ก็นั่งหลับไปตลอดทางไม่เห็นเหตุการณ์ที่ชัดเจน ได้แต่บอกว่า ทางฝั่ง ร.ท.พูลวิทย์ เป็นคนเปิดไฟใส่รถก่อน ซึ่งตรงนั้นก็เป็นคำให้การของแต่ละฝ่าย

พ.ต.อ.อาณัติ กล่าวอีกว่า ภรรยาของคนร้ายยังได้ให้การอีกว่า สามีเป็นคนขี้โมโห และหงุดหงิดง่าย ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเพียงเรื่องการบันดาลโทสะเท่านั้น ไม่มีสาเหตุอื่น ขณะนี้ตนได้ประสานไปยังทนายความของคนร้ายแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะติดต่อขอเข้ามอบตัว ซึ่งทางฝ่ายสืบสวนก็กำลังพื้นที่จับกุมตัวมาดำเนินคดีแล้ว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะคล้ายกับคดีโจ๊ก-จิ๊บ ไผ่เขียว และพัวพันกับยาเสพติดด้วยหรือไม่ เนื่องจากลักษณะการก่อเหตุคล้ายกัน พ.ต.อ.อาณัติ กล่าวว่า ไม่ใช่แน่นอน เพราะทางภรรยาของคนร้ายค่อนข้างมีฐานะ รถที่นำมาขับก็ยืมมาจากพี่ของภรรยา และเบื้องต้นยังไม่พบว่าพัวพันกับคดียาเสพติดแต่อย่างใด ซึ่งหากคนร้ายเข้ามอบตัว โอกาสที่จะได้รับการประกันตัวในชั้นศาลก็มีสูง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีด้วยความเป็นธรรมว่ากันไปตามพยานหลักฐาน แต่การกระทำดังกล่าวถือว่าอุกอาจพอสมควร สาเหตุเล็กๆ น้อยๆ ไม่น่าจะถึงกับต้องยิงกัน เร็วๆนี้น่าจะได้ตัวมาดำเนินคดีอย่างแน่นอน

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับผู้ต้องหารายนี้ คือ นายพริสร หรือ ณัฐพงษ์ ห้วยหงษ์ทอง อายุ 26 ปี เป็นชาวจังหวัดเพชรบุรี โดยนามสกุล “ห้วยหงษ์ทอง” ยังไปพ้องกับคนดังอีกหลายคน แต่ทั้งนี้ อาจจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับคนร้ายเลย
ปลอกกระสุนปืนที่พบในที่เกิดเหตุ

กำลังโหลดความคิดเห็น