แดงยันชุมนุมราชประสงค์ รับเงื่อนไขผู้ประกอบการ ไม่ยืดเยื้อ!

ผู้ประกอบการย่านราชประสงค์ ร่วมประชุมกับ นปช.เพื่อหาทางออกการชุมนุมบริเวณแยกราชประสงค์ โดยมีตำรวจเป็นคนกลาง แต่ต่างใส่อารมณ์กันสุดฤทธิ์ “ชาย ศรีวิกรม์” ย้ำเดือดร้อนทั้งผู้ประกอบการ-แขกที่จะเข้าร่วมงานตามโรงแรมต่างๆ สูญรายได้มาหศาล ขณะที่ “จตุพร” ยันจะเดินหน้าชุมนุมที่ราชประสงค์ต่อไป ระบุชีวิตคนเสื้อแดงมีค่ามาก ก่อนเชิญสื่อออกนอกห้องประชุม เกรงภาพไม่งาม แต่สุดท้าย ต่างชื่นมื่นจูบปากกันสนิท ชุมนุมที่เดิมแต่มีเงื่อนไขเล็กน้อย รับปากจะไม่ยืดเยื้อ


วันนี้ (14 ม.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ พร้อมด้วยตัวแทนผู้ประกอบการจำนวน 10 คนเข้าร่วมประชุมกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ แกนนำ นปช. และตำรวจนครบาล ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นจากการชุมนุมทางการเมืองของคนเสื้อแดง โดยมี พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น.เป็นประธานไกล่เกลี่ยข้อพิพาทดังกล่าว พร้อมหาแนวทางออกออมชอมทั้งสองฝ่าย ร่วมกับรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน พล.ต.ต.เอื้อพงษ์ โกมารกุล ณ นคร พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.สมชาย พัชรอินโต ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 และ พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียงท่ามกลางบรรยากาศที่เคร่งเครียด โดยทั้งสองฝ่ายนั่งตรงข้ามกัน ขณะที่นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่นั่งเรียงรายบริเวณหัวโต๊ะ

นายชายเริ่มเปิดการเจรจาเป็นคนแรก ชี้แจงถึงความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นว่า จากการชุมนุมทางการเมืองของคนเสื้อแดงที่ผ่านมา ไม่ได้มีเฉพาะผู้ค้าเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบยังมีประชาชนที่พักอาศัยในละแวกนั้น รวมถึงผู้ที่มีความจำเป็นต้องผ่านมาในย่านดังกล่าว บรรดานักเรียนนักศึกษาที่มาเรียนพิเศษ เราไม่ได้ต่อต้านหรือขัดขวางการชุมนุมอุดมการณ์ของคนเสื้อแดง ไม่ได้สนับสนุนหรือเป็นเครื่องมือของพรรคการเมืองใด อยากเห็นการชุมนุมเป็นไปอย่างถูกต้องถูกกฎหมาย ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตามเราเป็นห่วงเรื่องมือที่ 3 เข้ามาเกี่ยวข้องสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรง ไม่ว่าจะชุมนุมที่ไหนก็ตามมันทำให้เกิดผลเสียตามมาและแก้ไขฟื้นฟูยาก

“อย่างเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มเสื้อแดงมาชุมนุมกันแยกราชประสงค์ สร้างความเดือดร้อนให้บรรดาแขกที่จะมาร่วมงานแต่งงานตามโรงแรมต่างๆ ในย่านนั้น รวมถึงแขกที่มาพักก็แจ้งยกเลิกเพราะเกรงจะไม่ปลอดภัย การเข้าออกงานก็ลำบาก นอกจากนี้ บรรดาผู้ค้าขายในย่านนี้ก็ได้รับความเดือดร้อนไม่กล้าตั้งร้าน ต้องปิดร้านทั้งที่วันอาทิตย์เป็นวันที่ทำเงินและขายดีที่สุด แต่ต้องปิดร้านเพราะกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย ลูกค้าก็ไม่กล้ามาเดิน ขณะที่สถาบันกวดวิชาย่านสยามสแควร์ยอดคนมาเรียนพิเศษก็หายไปกว่า 40 เปอร์เซ็นต์” นายชายกล่าว

นายกสมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์กล่าวอีกว่า หากมีการชุมนุมวันที่ 23 ม.ค.นี้อีก ลูกค้าที่จองโรงแรมไว้เกือบ 30 งาน แขกที่มาประมาณ 5,700 คนก็ต้องยกเลิกไปอีก ทำให้ผู้ประกอบการได้รับความเสียหาย จึงจำเป็นต้องทำหนังสือร้องเรียนไปยังนายกฯ ให้ช่วยเหลือและยกเลิกการชุมนุมใหญ่ในพื้นที่ราชประสงค์ เพราะการชุมนุมที่ผ่านมา ก็มีการปิดถนนมีหาบเร่แผงลอยวางขายของเกะกะ มีรถเครื่องขยายเสียงและรถของผู้มาชุมนุมจอดขวางการจราจรทำให้รถผ่านไปมาไม่ได้

นายชายกล่าวต่อว่า ขณะที่หาบเร่ของคนเสื้อแดงก็มาจับกลุ่มวางขายของบนทางเท้ากันตั้งแต่เช้าขวางทางเข้าออกอาคารต่างๆ ไม่มีใครกล้าเข้าไปว่ากล่าวร้องขอให้เปิดทางเพราะเกรงจะเป็นอันตราย จึงอยากฝากท่านตำรวจทั้งหลายในที่ประชุมแห่งนี้ให้รีบแก้ไขปัญหาให้กับพวกเราอย่างเร่งด่วนที่สุด รวมถึงแกนนำผู้ชุมนุมที่มาให้เห็นใจพวกเราด้วย

ด้าน นายจตุพร ซึ่งนั่งฟังอยู่นานได้ชี้แจงอย่างมีอารมณ์ท่าทางขึงขังว่า ขอทำความใจเข้าใจตรงนี้เลยว่า ที่ผ่านมามีข่าวผ่านสื่อว่าตนเองเข้าไปเจรจาต่อรองเป็นการส่วนตัวในเรื่องนี้และเรียกรับผลประโยชน์จากนายชายนั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง การที่กลุ่มผู้ค้าย่านราชประสงค์ออกมาแสดงจุดยืนไปยื่นข้อเรียกร้องความเดือดร้อนต่อนายกฯ นั้น แสดงให้เห็นว่า พวกกลุ่มเสื้อแดงเป็นผู้ร้ายในสายตาสาธารณชน มีการนำภาพที่ล้างถนน ล้างคราบไฟไหม้อาคารและซากกองเพลิงไปออกสื่อฯ แต่ไม่มีภาพล้างเลือดผู้เสียชีวิตออกสื่อฯ เลย

“เรื่องนี้ทางเซ็นทรัลน่าจะเห็นใจกลุ่มเสื้อแดงด้วยซ้ำที่เสียเลือดเสียเนื้อ แต่ก็พูดในรายละเอียดไม่ได้ตอนนี้ เพราะถูกศาลสั่งห้ามพูดเรื่องคดี ขอให้รอฟังการอภิปราย ถ้าคุณออกมาบอกว่ามีความเสียหายทางเศรษฐกิจนับหมื่นล้าน มันไม่เทียบเท่ากับการเสียชีวิตของผู้ชุมนุมนับร้อยนับพันคนหรอก ไม่รู้ว่าจะมีมูลค่าเท่าชีวิตพวกผมที่เสียไปไหม ถ้าผมจะชวนพวกคุณทะเลาะตอนนี้ก็ไม่ยาก แต่คุณน่ะไม่ใช่คู่กรณี ควรจะเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง” นายจตุพรกล่าว

นายจตุพรกล่าวว่า เหตุการณ์ที่แยกราชประสงค์ที่มีการยิงสไนเปอร์ใส่ผู้ชุมนุมก็ตายกันไปหลายศพ ตรงซอยรางน้ำก็มีคนตาย ไปที่ไหนก็เดือดร้อนทั้งนั้น ไม่ว่าจะไปหลบที่ไหนก็มีคนเสื้อแดงถูกยิงตายทุกที่ แต่หากชุมนุมกันอยู่ตรงนี้แม้จะไม่ปลอดภัยแต่ก็เป็นพื้นที่เป็นสัญลักษณ์และศูนย์กลางการชุมนุมที่มีระบบป้องกันภัยสูงกว่าที่อื่น การที่ท่านบอกว่ามีกลุ่มเสื้อแดงไปวางของขายเกะกะนั้น เป็นเรื่องของเขาที่อยากทำมาหากิน ไม่ได้มีการเก็บเงินค่าขายของแต่อย่างใด การชุมนุมที่ผ่านมาก็ชุมนุมไม่นาน เป็นไปตามข้อตกลงที่พูดคุยกับตำรวจบอกให้เลิกกี่โมงก็เลิกตามนั้น อาจจะช้าสักนิดหน่อยก็อะลุ้มอะหล่วยกัน ส่วนเรื่องการปิดกั้นทางเข้าออกอาคารและโรงแรมต่างๆ นั้น ควรให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจัดการจราจรทางเข้าออก จะได้ไม่มีปัญหา แขกก็สามารถมาร่วมงานสำคัญต่างๆในโรงแรมได้

นายจตุพรยังกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มผู้ค้าย่านราชประสงค์ ให้การสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะว่า ถึงผู้ค้าไม่เสนอ ทางรัฐบาลก็ต้องเสนออยู่ดี หากมีการบังคับใช้การที่ผู้ประกอบการมาร่วมตัวกันประมาณ 3 หมื่นคนก็ถือว่าผิด พ.ร.บ.เช่นกัน พวกคุณไม่ทุกข์ก็ไม่เข้าใจพวกตน

“ผมไม่มีปัญหากับพวกท่าน ถ้าการชุมนุมสามารถอยู่กันได้ เพราะพวกเราไม่ได้ไปปล้นสะดม พวกผมก็มีเงิน มีปัญญาไปเดินห้าง ไปซื้อของของพวกคุณทั้งห้างพารากอน เซ็นทรัลเวิร์ล จะปิดทำไม พวกผมเป็นสุจริตคน สามารถคุยกันรู้เรื่อง เหตุที่เลือกราชประสงค์เพราะเป็นจุดเกิดเหตุโดยตรงที่มีการสูญเสียเลือดเนื้อ หากจะให้ไปจัดที่อื่นก็คงไม่ใช่ แล้วมาบอกว่า ผมมาจัดรำลึกเหตุการณ์ตายที่นี่ พวกคุณสูญเสียรายได้เป็นหมื่นล้าน พูดกันเป็นตัวเลขทำให้คนตกใจ ทั้งที่ชีวิตพวกผมก็มีค่ามากนะ” นายจตุพรกล่าวในตอนท้าย พร้อมยืนยันจะไม่เปลี่ยนที่ชุมนุมไปไหน และยังยืนยันว่าจะจัดชุมนุมวันที่ 23 ม.ค.บริเวณแยกราชประสงค์ตามเดิม และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดกำลังไปดูแลจุดที่ผู้ประกอบการบอกว่าไม่สามารถเข้าออกได้ให้เรียบร้อย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้พูดถึงปัญหาของตนเองด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวและมีการโต้งแย้งกันไปมา ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมอ่อนข้อให้กันในที่ประชุม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงร้องขอให้สื่อมวลชนออกจากห้องประชุมก่อนเกรงว่าจะเกิดภาพของความขัดแย้งออกไปสู่สาธารณะ พร้อมระบุว่าหลังจากเสร็จสิ้นการหารือสองฝ่ายแล้วจะแถลงข่าวชี้แจงถึงข้อยุติให้ทราบในภายหลัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมนายตำรจชั้นผู้ใหญ่รับฟังปัญหาจากนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.และนายชาย ศรีวิกรม์ และวางแนวทางแก้ไขจนได้ข้อยุติใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงในที่สุดตัวแทนทั้งสองฝ่ายก็ออกจากห้องประชุมด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสและพอใจกับแนวทางแก้ไขปัญหาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

พล.ต.ท.จักรทิพย์กล่าวว่า การหารือร่วมสองฝ่ายในครั้งนี้เป็นไปในทิศทางที่ดีเชื่อว่าจะลดความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ย่านราชประสงค์ได้ ในส่วนของตำรวจจะดูแลจัดการเรื่องความปลอดภัยและความเรียบร้อยทางเข้าออกและการจราจรให้มากขึ้น เนื่องจากกลุ่ม นปช.ยืนยันจะชุมนุมที่แยกราชประสงค์ต่อไป แต่ยอมรับเงื่อนไขว่าจะไม่ชุมนุมยืดเยื้อกระชับเวลาในการทำกิจกรรมให้สั้นลง เบื้องต้นกลุ่มผู้ค้าก็พอใจในผลการเจรจาในระดับหนึ่ง ซึ่งตำรวจจะปรับมาตรการปฏิบัติให้เข้มข้นขึ้น

ด้าน นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ แกนนำเสื้อแดง กล่าวยืนยันว่า วันที่ 23 ม.ค.ยังคงมีการรวมตัวเคลื่อนไหวที่แยกราชประสงค์ตามเดิม และใช้เวลาที่แยกราชประสงค์ประมาณ 2 ชั่วโมงในการรวมตัวจากนั้นจะเคลื่อนตัวไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อประชาชนและผู้ค้าราชประสงค์มากนัก ส่วนกรณีที่มีข่าวผู้ชุมนุมจะปิดการจราจรนั้นไม่เป็นความจริง แต่ความที่มีคนมาร่วมมากเราไม่สามารถไปห้ามไม่ได้เพราะไม่มีพื้นที่ก็ต้องลงไปรวมกันอยู่ในถนน

นายจตุพรกล่าวภายหลังเจรจาสองฝ่ายว่า มีความเข้าใจกันมากขึ้นระหว่างผู้ค้าผู้ประกอบการและผู้ชุมนุม เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยมีการพูดคุยอย่างจริงจังมาก่อนหลังจากที่มีปัญหามานาน ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีที่เราได้แก้ปัญหาร่วมกัน

ด้าน นายชายกล่าวในตอนท้ายว่า การมาเจรจาในครั้งนี้เป็นการขอความร่วมมือจากแกนนำเสื้อแดงโดยมีตำรวจชั้นผู้ใหญ่เป็นคนดูว่า อะไรควรไม่ควร หลังเจรจาเราสองฝ่ายก็มีความเข้าใจกัน ทำให้เกิดภาพพจน์ที่ดีทำให้หลายฝ่ายมองว่า กลุ่มผู้ค้ากับผู้ชุมนุมมีความเป็นมิตรกันมากขึ้น ส่วนผลการประชุมวันนี้นั้นก็มีทั้งพอใจบ้างและไม่พอใจบ้าง ซึ่งจะนำเรื่องราวการเจรจาที่เกิดขึ้นไปประชุมร่วมกับผู้ประกอบสมาคมเพื่อวางแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมต่อไป