เจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ตัวคนขับแท็กซี่ตีนผีซิ่งชน “ดาบตำรวจ” ปฏิบัติหน้าที่บ้านนายกฯ เสียชีวิต พร้อมควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สน.ทองหล่อ
วันนี้(11 ม.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุ ด.ต.ณัฐพงศ์ สังขดิษฐ์ อายุ 54 ปี ผบ.หมู่งานสายตรวจ 2 กก.1 บก.จร ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน้าบ้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ถูกรถแท็กซี่พุ่งชนจนเสียชีวิตในชุดตำรวจเต็มยศ เหตุเกิดเวลา 05.00 น.ที่บริเวณหน้าตึกอาคารรัชต์ภาคย์ ถ.อโศก-รัชดา มุ่งหน้าสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.โดยหลังเกิดเหตุรถแท็กซี่คันก่อเหตุได้หลบหนีไป ขณะที่รถแท็กซี่อีกคันที่ขับตามหลังมาอย่างกระชั้นชิด โดยมีนายอุทัย หนองผา อายุ 30 ปี เป็นคนขับเกิดเบรคไม่ทันได้ทับผู้เสียชีวิต และยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดย นายอุทัย ให้การว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเร็วมาก จำได้แต่เพียงว่าเห็นรถแท็กซี่ น่าจะเป็นยี่ห้อมิตซูบิชิ ชนรถจักรยานยนต์ของตำรวจอย่างแรงทำให้ตนเบรกไม่ทัน มาจอดรถดูอีกทีพบศพตำรวจอยู่ท้ายรถแล้ว
ด้าน นายบัวถัน ศรีดี อายุ 52 ปี พ่อค้าขายข้าวเหนียวส้มตำบริเวณที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุมีรถแท็กซี่จำยี่ห้อไม่ได้ สีเหลือง หมวดอักษร ท หมายเลขทะเบียน 7575 กทม. ชนรถจักรยานยนต์ของผู้ตายอย่างแรง จากนั้นได้ขับหนีมุ่งหน้าไปทางถนนสุขุมวิท ต่อมาแท็กซี่โตโยต้าสีม่วงที่วิ่งตามกันมาเบรกไม่ทันพุ่งชนผู้ตาย และลากศพผู้ตายห่างจากจุดเกิดเหตุไปหลายสิบเมตร
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ โดยพบว่าเป็นรถแท็กซี่หมายเลขทะเบียน ทน 7575 กทม.และจอดอยู่ภายในซอยอารีย์ 3 จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกติดตาม เพื่อจับกุมคนขับรถแท็กซี่คันก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป
ต่อมาเวลา 12.30 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ ได้ทำการจับกุมตัวนายจินดา เสนาราช อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 219/41 หมู่ 5 ต.ศีรษะจรเข้ใหญ่ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านเอื้ออาทรวัดศรีวารีน้อย บางนากิโลเมตรที่ 18 จ.สมุทรปราการ และควบคุมตัวมาสอบสวนที่สน.ทองหล่อ พร้อมกับเดินทางไปตรวจยึดรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง หมายเลขทะเบียน ทน 7575 กทม. ได้ที่อู่รถแท็กซี่ภายในซอยเจริญราษฏร์ 107
จากการสอบสวนนายจินดา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังขับรถมุ่งหน้าไปส่งผู้โดยสารที่ย่านอโศก เมื่อถึงจุดเกิดเหตุก็เห็นรถ จยย. ของผู้ตายขับย้อนศรออกจากซอยมา ทำให้ไม่สามารถเบรก หรือหักหลบได้ทัน จึงพุ่งชนอย่างแรง แต่ไม่คิดว่าจะเสียชีวิต จึงรีบขับหลบหนีไป อีกทั้งตนเห็นว่าผู้ตายสวมหมวกคล้ายตำรวจ จึงยิ่งตกใจ ไม่กล้าจอดรถลงไปดู ผู้โดยสารก็บอกว่าให้รีบขับออกไป เพราะคนที่ชนเป็นตำรวจ ตนจึงขับออกไปทันทีและไม่รู้ว่าผู้ตายถูกแท็กซี่อีกคันขับมาชนซ้ำ เพิ่งจะทราบข่าวตอนที่ตำรวจไปจับกุมที่ห้องพัก ซึ่งหลังเกิดเหตุตนไม่ได้คิดหนี แค่กลับไปพักที่ห้อง และโทรศัพท์บอกเถ้าแก่ว่าขับรถชนคน แต่ไม่รู้ว่าตายหรือไม่ เถ้าแก่จึงบอกให้นำรถไปจอดที่อู่ ทั้งนี้ตนยืนยันว่าตนไม่ผิด เพราะผู้ตายขับรถ จยย.ย้อนศร สามารถตรวจสอบรถแท็กซี่ของตนได้ ว่ามีร่องรอยเฉี่ยวชนที่ด้านซ้าย แต่ก็อยากจะขอโทษครอบครัวของผู้ตาย ถ้าเปลี่ยนกันได้ก็อยากจะเปลี่ยนให้ตนเป็นคนเสียชีวิตแทน
ด้านพ.ต.อ.สำเริง สวนทอง ผกก.สน.ทองหล่อ กล่าวว่า ผู้ต้องหาจะกล่าวอ้างหรือพูดอย่างไรก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา แต่จะต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน โดยจากการตรวจสอบบริเวณดังกล่าว เบื้องต้นพบว่าไม่มีซอยอื่นตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง และนายอุทัย คนขับรถแท็กซี่ที่เข้ามาชนซ้ำ ได้ให้การว่า ขับรถตีคู่มากับนายจินดาด้วยความเร็ว จากนั้นนายจินดาก็พยายามที่จะแซงซ้ายและหักออกขวาอย่างรวดเร็ว จังหวะที่แซงซ้ายอาจจะทำให้ไปเฉี่ยวชน ด.ต.ณัฐพงษ์ แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและเฉี่ยวชนแล้วหลบหนีแก่นายจินดา ส่วนนายอุทัยได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พร้อมรับลูก "นายดาบ" เข้ารับราชการ
ในวันเดียวกัน ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย ผบก.อก.บช.น. ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมนายจินดา เสนาราช ผู้ต้องหาก่อเหตุขับรถชน ด.ต.ณัฐพงศ์ สังขดิษฐ์ อายุ 54 ปี ผบ.หมู่ งานสายตรวจ 2 กก. 1 บก.จร. เสียชีวิต ก่อนที่นายอุทัย หนอกผา คนขับแท็กซี่อีกคันที่ขับตามหลังรถแท็กซี่คันที่ชนมาซ้ำอีกครั้งจนทับผู้ตาย และวันนี้เวลา 16.00 น. จะมีพิธีรดน้ำศพและสวดศพที่วัดเสมียนนารี โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้การช่วยเหลือครอบครัวของ ด.ต.ณัฐพงศ์ เป็นเงินจำนวน 404,040 บาท ทั้งนี้ หากบุตรของนายตำรวจที่เสียชีวิตต้องการเข้ารับราชการตำรวจก็จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด เนื่องจากมีกฎระเบียบอยู่แล้วและจะดูความเหมาะสมต่อไป
ล่าแท็กซี่ตีนผีชนตำรวจจราจรเฝ้าหน้าบ้านนายกฯ ดับอนาถ
วันนี้(11 ม.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุ ด.ต.ณัฐพงศ์ สังขดิษฐ์ อายุ 54 ปี ผบ.หมู่งานสายตรวจ 2 กก.1 บก.จร ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยหน้าบ้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ถูกรถแท็กซี่พุ่งชนจนเสียชีวิตในชุดตำรวจเต็มยศ เหตุเกิดเวลา 05.00 น.ที่บริเวณหน้าตึกอาคารรัชต์ภาคย์ ถ.อโศก-รัชดา มุ่งหน้าสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.โดยหลังเกิดเหตุรถแท็กซี่คันก่อเหตุได้หลบหนีไป ขณะที่รถแท็กซี่อีกคันที่ขับตามหลังมาอย่างกระชั้นชิด โดยมีนายอุทัย หนองผา อายุ 30 ปี เป็นคนขับเกิดเบรคไม่ทันได้ทับผู้เสียชีวิต และยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดย นายอุทัย ให้การว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเร็วมาก จำได้แต่เพียงว่าเห็นรถแท็กซี่ น่าจะเป็นยี่ห้อมิตซูบิชิ ชนรถจักรยานยนต์ของตำรวจอย่างแรงทำให้ตนเบรกไม่ทัน มาจอดรถดูอีกทีพบศพตำรวจอยู่ท้ายรถแล้ว
ด้าน นายบัวถัน ศรีดี อายุ 52 ปี พ่อค้าขายข้าวเหนียวส้มตำบริเวณที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุมีรถแท็กซี่จำยี่ห้อไม่ได้ สีเหลือง หมวดอักษร ท หมายเลขทะเบียน 7575 กทม. ชนรถจักรยานยนต์ของผู้ตายอย่างแรง จากนั้นได้ขับหนีมุ่งหน้าไปทางถนนสุขุมวิท ต่อมาแท็กซี่โตโยต้าสีม่วงที่วิ่งตามกันมาเบรกไม่ทันพุ่งชนผู้ตาย และลากศพผู้ตายห่างจากจุดเกิดเหตุไปหลายสิบเมตร
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ โดยพบว่าเป็นรถแท็กซี่หมายเลขทะเบียน ทน 7575 กทม.และจอดอยู่ภายในซอยอารีย์ 3 จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกติดตาม เพื่อจับกุมคนขับรถแท็กซี่คันก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป
ต่อมาเวลา 12.30 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ ได้ทำการจับกุมตัวนายจินดา เสนาราช อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 219/41 หมู่ 5 ต.ศีรษะจรเข้ใหญ่ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านเอื้ออาทรวัดศรีวารีน้อย บางนากิโลเมตรที่ 18 จ.สมุทรปราการ และควบคุมตัวมาสอบสวนที่สน.ทองหล่อ พร้อมกับเดินทางไปตรวจยึดรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง หมายเลขทะเบียน ทน 7575 กทม. ได้ที่อู่รถแท็กซี่ภายในซอยเจริญราษฏร์ 107
จากการสอบสวนนายจินดา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังขับรถมุ่งหน้าไปส่งผู้โดยสารที่ย่านอโศก เมื่อถึงจุดเกิดเหตุก็เห็นรถ จยย. ของผู้ตายขับย้อนศรออกจากซอยมา ทำให้ไม่สามารถเบรก หรือหักหลบได้ทัน จึงพุ่งชนอย่างแรง แต่ไม่คิดว่าจะเสียชีวิต จึงรีบขับหลบหนีไป อีกทั้งตนเห็นว่าผู้ตายสวมหมวกคล้ายตำรวจ จึงยิ่งตกใจ ไม่กล้าจอดรถลงไปดู ผู้โดยสารก็บอกว่าให้รีบขับออกไป เพราะคนที่ชนเป็นตำรวจ ตนจึงขับออกไปทันทีและไม่รู้ว่าผู้ตายถูกแท็กซี่อีกคันขับมาชนซ้ำ เพิ่งจะทราบข่าวตอนที่ตำรวจไปจับกุมที่ห้องพัก ซึ่งหลังเกิดเหตุตนไม่ได้คิดหนี แค่กลับไปพักที่ห้อง และโทรศัพท์บอกเถ้าแก่ว่าขับรถชนคน แต่ไม่รู้ว่าตายหรือไม่ เถ้าแก่จึงบอกให้นำรถไปจอดที่อู่ ทั้งนี้ตนยืนยันว่าตนไม่ผิด เพราะผู้ตายขับรถ จยย.ย้อนศร สามารถตรวจสอบรถแท็กซี่ของตนได้ ว่ามีร่องรอยเฉี่ยวชนที่ด้านซ้าย แต่ก็อยากจะขอโทษครอบครัวของผู้ตาย ถ้าเปลี่ยนกันได้ก็อยากจะเปลี่ยนให้ตนเป็นคนเสียชีวิตแทน
ด้านพ.ต.อ.สำเริง สวนทอง ผกก.สน.ทองหล่อ กล่าวว่า ผู้ต้องหาจะกล่าวอ้างหรือพูดอย่างไรก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา แต่จะต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน โดยจากการตรวจสอบบริเวณดังกล่าว เบื้องต้นพบว่าไม่มีซอยอื่นตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง และนายอุทัย คนขับรถแท็กซี่ที่เข้ามาชนซ้ำ ได้ให้การว่า ขับรถตีคู่มากับนายจินดาด้วยความเร็ว จากนั้นนายจินดาก็พยายามที่จะแซงซ้ายและหักออกขวาอย่างรวดเร็ว จังหวะที่แซงซ้ายอาจจะทำให้ไปเฉี่ยวชน ด.ต.ณัฐพงษ์ แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและเฉี่ยวชนแล้วหลบหนีแก่นายจินดา ส่วนนายอุทัยได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พร้อมรับลูก "นายดาบ" เข้ารับราชการ
ในวันเดียวกัน ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย ผบก.อก.บช.น. ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมนายจินดา เสนาราช ผู้ต้องหาก่อเหตุขับรถชน ด.ต.ณัฐพงศ์ สังขดิษฐ์ อายุ 54 ปี ผบ.หมู่ งานสายตรวจ 2 กก. 1 บก.จร. เสียชีวิต ก่อนที่นายอุทัย หนอกผา คนขับแท็กซี่อีกคันที่ขับตามหลังรถแท็กซี่คันที่ชนมาซ้ำอีกครั้งจนทับผู้ตาย และวันนี้เวลา 16.00 น. จะมีพิธีรดน้ำศพและสวดศพที่วัดเสมียนนารี โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้การช่วยเหลือครอบครัวของ ด.ต.ณัฐพงศ์ เป็นเงินจำนวน 404,040 บาท ทั้งนี้ หากบุตรของนายตำรวจที่เสียชีวิตต้องการเข้ารับราชการตำรวจก็จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด เนื่องจากมีกฎระเบียบอยู่แล้วและจะดูความเหมาะสมต่อไป
ล่าแท็กซี่ตีนผีชนตำรวจจราจรเฝ้าหน้าบ้านนายกฯ ดับอนาถ
