รวบสิบเอกสังกัด พล ม.2 รอ.พร้อมยาบ้า 10 เม็ด และอาวุธปืน ขณะซ้อน จยย.ผ่านด่านตรวจจราจร แล้วมีพิรุธ ก่อนถูกเรียกตรวจค้นและพบของกลาง สารภาพ อ้างยึดยามาจากเด็กในชุมชนบางบัวเตรียมนำไปขายต่อ เพื่อนำเงินไปจ่ายเป็นค่าคลอดลูก
วันนี้ (9 ม.ค.) เมื่อเวลา 12.10 น.ขณะที่ พ.ต.ท.สนอง แสงมณี สว.จร.สน.วิภาวดี ร.ต.อ.ธรณินทร์ พ่มสุวรรณ รอง สว.จร.สน.วิภาวดี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.วิภาวดี กำลังตั้งด่านตรวจกวดขันวินัยจราจรอยู่ริมถนนวิภาวดีรังสิต ช่องทางคู่ขนานฝั่งขาเข้า ข้างคลองริมรั้วมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร ก็พบชายสองคนขับขี่และซ้อนท้ายรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ผ่านเข้ามาที่ด่าน โดยชายคนนั่งซ้อนท้ายไม่สวมหมวกกันน็อก และแสดงท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุดเพื่อทำการตรวจค้น
จากการตรวจค้นภายกระเป๋าคาดเอวสีน้ำตาลของชายคนดังกล่าว ทราบชื่อมา คือ ส.อ.ปริญญา สมประสงค์ อายุ 34 ปี สังกัดกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล ม.2 รอ.) ก็พบยาบ้าจำนวน 10 เม็ด และอาวุธปืน ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนขนาดเดียวกันจำนวน 4 นัด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋า จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ขณะนั้นเองชายคนขับขี่รถ จยย.ได้อาศัยจังวะที่เจ้าหน้าที่เข้าไปควบคุมตัวคนซ้อนท้าย รีบเร่งเครื่องรถ จยย.หลบหนีไปทันที เจ้าหน้าที่ได้แจ้งวิทยุเพื่อทำการสกัดจับแต่ยังไร้วี่แวว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัว ส.อ.ปริญญา มาสอบปากคำ
จากการสอบสวน ส.อ.ปริญญา ให้การรับสารภาพว่า ก่อนถูกจับตนขออาศัยติดรถจยย.ของ นายเอ ไม่ทราบชื่อจริง-นามสกุล อายุ 25 ปี ออกจากชุมชนบางบัว เพื่อมาลงกลางทางแล้วจะนั่งรถต่อไปเยี่ยมภรรยาที่คลอดลูกอยู่ที่โรงพยาบาลชลประทาน ย่านปากเกร็ด แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นจนเจอยาบ้ากับปืนดังกล่าว โดยยาบ้าทั้งหมดนั้น ตนเป็นคนไปยึดมาจากเด็กในชุมชนบางบัวที่ตนอาศัยอยู่ เพื่อจะนำไปขายต่อให้เพื่อนที่ย่านแคลาย จ.นนทบุรี เพื่อหาเงินไปจ่ายค่าคลอดลูก เนื่องจากตนมีเงินไม่พอ ส่วนอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวนั้นมีพี่ที่รู้จักคนหนึ่งให้ตนมานานแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป