2 คนร้ายขี่ จยย.ดักยิงรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช โชคดีพลาดเป้าโดนแค่รถรอดหวุดหวิด เพื่อนอาจารย์สงสัยตำรวจรีบเคลื่อนย้ายรถ ไม่ตรวจสอบที่เกิดเหตุให้ละเอียด พุ่งปมขัดแย้งในองค์กร เพราะทำหน้าที่ตรวจสอบทุจริต อาจขัดขัดขาใครจึงจ้างมือปืนฆ่าปิดปาก
วันนี้ (6 พ.ค.) เมื่อเวลา 19.00 น. ร.ต.อ.ณัฏฐ์วิไลลักษณ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่รถเก๋ง บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมมาธิราช ฝั่งตรงข้ามเยื้องร้านโจ๊กรวมใจ ถ.บรอนสตรีท ต.บางพูด อ.ปากเกร็ดจ.นนทบุรี จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมรายงาน พล.ต.ต.สุรชัยสืบสุข ผบก.ภ.จว.นนทบุรี
ในที่เกิดเหตุพบรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน เซฟิโร่ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ภย 2343 กรุงเทพฯ สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ขอบกระจกหน้ารถฝั่งคนขับจำนวน 2นัด ทำให้กระจกรถฝั่งคนขับแตกร้าว ทราบชื่อผู้ขับคนคนดังกล่าวคือ นายคมสัน โพธิ์คง อายุ 46 ปี รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
ตำรวจสอบสวนนายคมสันทราบว่า ขณะที่ขับรถกลับออกมาจากมหาวิทยาลัย เมื่อมาถึงจุดที่เกิดเหตุเห็นชายสองคนขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบรุ่นสวนทางมา จากนั้นชายที่นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ได้ชักปืนออกมายิงใส่มาที่รถของตนรถจำนวน 2 นัด ก่อนขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป โชคดีที่กระสุนปืนไม่ถูกตนจึงทำให้รอดชีวิตมาอย่างหวุดหวิด หลังเกิดเหตุไม่คาดคิดเมื่อตั้งสติได้จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเพื่อนอาจารย์ให้ทราบ
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้รีบเคลื่อย้ายรถที่ถูกยิงมายัง สภ.ปากเกร็ด ต่อมานายคมสันได้เดินทางมายัง สภ.ปากเกร็ด เพื่อเข้าให้ปากคำถึงสาเหตุที่ถูกคนร้ายลอบยิง โดยมีเพื่อนอาจารย์และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยเดินทางมาด้วย ทั้งนี้ พ.ต.อ.ธวัชชัย นาคฤทธิ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด สั่งห้ามผู้สื่อข่าวเข้าฟังการสอบปากคำของนายคมสันในห้องสืบสวนอย่างเด็ดขาด
ด้านเพื่อนอาจารย์กล่าวว่า มีความสงสัยในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างมากว่า ทำไม ผกก.สภ.ปากเกร็ด ถึงรีบสั่งการให้เคลื่อนย้ายรถของรองอธิการบดีออกจากจุดที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว โดยไม่ได้ทำการกั้นเขตเพื่อตรวจสอบหาหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อจะทำให้ทราบแนววิถีการยิงของอาวุธปืนหรือสอบสวนพยานแวดล้อมพยานบุคคลในที่เกิดเหตุ รวมทั้งปลอกกระสุนปืน และจุดที่คนร้ายลงมือก่อเหตุ เพราะหากเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็วโดยไม่มีฝ่ายพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบก็จะทำให้การติดตามหาตัวคนร้ายจากที่เกิดเหตุผลคาดเคลื่อนไปหมด และหากให้เหตุผลว่าที่ต้องเคลื่อนย้ายรถอย่างรวดเร็วนั้น เพราะเกรงว่าจะทำให้รถติด ก็เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะในเมื่อเกิดเหตุแล้วก็ต้องตรวจสอบที่เกิดเหตุให้รัดกุมมากกว่าจะไปกลัวรถติดและทำให้การสืบสวนหาคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุเป็นไปด้วยความยากลำบากจึงอดสงสัยการทำการของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เลยว่าข้ามขั้นตอนในการสืบสวนไปหรือไม่
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งประเด็นสาเหตุการลอบยิงนายคมสันเบื้องต้นไว้ด้วยกัน 2 ประเด็น คือ เรื่องส่วนตัว กับเรื่องขัดแย้งภายในมหาวิทยาลัย โดยให้ประเด็นน้ำหนักไปที่ความขัดแย้งในมหาวิทยาลัยมากกว่า เนื่องจากนายคมสันนอกจากจะเป็นรองอธิการบดีแล้วยังมีตำแหน่งเป็นฝ่ายตรวจสอบภายในของมหาวิทยาลัยอีกด้วย โดยคาดว่านายคมสันน่าจะไปตรวจสอบเจอเรื่องการทุจริตบางอย่างในมหาวิทยาลัยจึงถูกฝ่ายที่เสียผลประโยชน์จ้างคนร้ายมาลงมือสังหารปิดปาก แต่โชคดีที่ในจังหวะคนร้ายลงมือยิงใส่รถนายคมสันนั้นเป็นจังหวะรถนายคมสันกำลังขับรถเพื่อจะเลี้ยวเข้าจอดที่หน้าร้านอหารแห่งหนึ่งจึงทำให้กระสุนพลาดเป้าไม่ถูกตัวนายคมสันแต่ไปถูกที่ขอบรถกระจกด้านฝั่งคนขับแทนซึ่งจากการตรวจสอบตำแหน่งกระสุนที่ยิงใส่รถนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าคนร้ายต้องการเอาชีวิตนายคมสันเพราะหากกระสุนไม่ติดโครงรถก็จะถูกตัวหรือหัวนายคมสันอย่างแน่นอน
วันนี้ (6 พ.ค.) เมื่อเวลา 19.00 น. ร.ต.อ.ณัฏฐ์วิไลลักษณ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่รถเก๋ง บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมมาธิราช ฝั่งตรงข้ามเยื้องร้านโจ๊กรวมใจ ถ.บรอนสตรีท ต.บางพูด อ.ปากเกร็ดจ.นนทบุรี จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมรายงาน พล.ต.ต.สุรชัยสืบสุข ผบก.ภ.จว.นนทบุรี
ในที่เกิดเหตุพบรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน เซฟิโร่ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน ภย 2343 กรุงเทพฯ สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ขอบกระจกหน้ารถฝั่งคนขับจำนวน 2นัด ทำให้กระจกรถฝั่งคนขับแตกร้าว ทราบชื่อผู้ขับคนคนดังกล่าวคือ นายคมสัน โพธิ์คง อายุ 46 ปี รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
ตำรวจสอบสวนนายคมสันทราบว่า ขณะที่ขับรถกลับออกมาจากมหาวิทยาลัย เมื่อมาถึงจุดที่เกิดเหตุเห็นชายสองคนขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบรุ่นสวนทางมา จากนั้นชายที่นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ได้ชักปืนออกมายิงใส่มาที่รถของตนรถจำนวน 2 นัด ก่อนขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป โชคดีที่กระสุนปืนไม่ถูกตนจึงทำให้รอดชีวิตมาอย่างหวุดหวิด หลังเกิดเหตุไม่คาดคิดเมื่อตั้งสติได้จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเพื่อนอาจารย์ให้ทราบ
หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ได้รีบเคลื่อย้ายรถที่ถูกยิงมายัง สภ.ปากเกร็ด ต่อมานายคมสันได้เดินทางมายัง สภ.ปากเกร็ด เพื่อเข้าให้ปากคำถึงสาเหตุที่ถูกคนร้ายลอบยิง โดยมีเพื่อนอาจารย์และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของมหาวิทยาลัยเดินทางมาด้วย ทั้งนี้ พ.ต.อ.ธวัชชัย นาคฤทธิ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด สั่งห้ามผู้สื่อข่าวเข้าฟังการสอบปากคำของนายคมสันในห้องสืบสวนอย่างเด็ดขาด
ด้านเพื่อนอาจารย์กล่าวว่า มีความสงสัยในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างมากว่า ทำไม ผกก.สภ.ปากเกร็ด ถึงรีบสั่งการให้เคลื่อนย้ายรถของรองอธิการบดีออกจากจุดที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว โดยไม่ได้ทำการกั้นเขตเพื่อตรวจสอบหาหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อจะทำให้ทราบแนววิถีการยิงของอาวุธปืนหรือสอบสวนพยานแวดล้อมพยานบุคคลในที่เกิดเหตุ รวมทั้งปลอกกระสุนปืน และจุดที่คนร้ายลงมือก่อเหตุ เพราะหากเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็วโดยไม่มีฝ่ายพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบก็จะทำให้การติดตามหาตัวคนร้ายจากที่เกิดเหตุผลคาดเคลื่อนไปหมด และหากให้เหตุผลว่าที่ต้องเคลื่อนย้ายรถอย่างรวดเร็วนั้น เพราะเกรงว่าจะทำให้รถติด ก็เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะในเมื่อเกิดเหตุแล้วก็ต้องตรวจสอบที่เกิดเหตุให้รัดกุมมากกว่าจะไปกลัวรถติดและทำให้การสืบสวนหาคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุเป็นไปด้วยความยากลำบากจึงอดสงสัยการทำการของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เลยว่าข้ามขั้นตอนในการสืบสวนไปหรือไม่
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งประเด็นสาเหตุการลอบยิงนายคมสันเบื้องต้นไว้ด้วยกัน 2 ประเด็น คือ เรื่องส่วนตัว กับเรื่องขัดแย้งภายในมหาวิทยาลัย โดยให้ประเด็นน้ำหนักไปที่ความขัดแย้งในมหาวิทยาลัยมากกว่า เนื่องจากนายคมสันนอกจากจะเป็นรองอธิการบดีแล้วยังมีตำแหน่งเป็นฝ่ายตรวจสอบภายในของมหาวิทยาลัยอีกด้วย โดยคาดว่านายคมสันน่าจะไปตรวจสอบเจอเรื่องการทุจริตบางอย่างในมหาวิทยาลัยจึงถูกฝ่ายที่เสียผลประโยชน์จ้างคนร้ายมาลงมือสังหารปิดปาก แต่โชคดีที่ในจังหวะคนร้ายลงมือยิงใส่รถนายคมสันนั้นเป็นจังหวะรถนายคมสันกำลังขับรถเพื่อจะเลี้ยวเข้าจอดที่หน้าร้านอหารแห่งหนึ่งจึงทำให้กระสุนพลาดเป้าไม่ถูกตัวนายคมสันแต่ไปถูกที่ขอบรถกระจกด้านฝั่งคนขับแทนซึ่งจากการตรวจสอบตำแหน่งกระสุนที่ยิงใส่รถนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าคนร้ายต้องการเอาชีวิตนายคมสันเพราะหากกระสุนไม่ติดโครงรถก็จะถูกตัวหรือหัวนายคมสันอย่างแน่นอน