อัยการคดีอาญาธนบุรี ฟ้องแล้ว “อดีต ผช.พยาบาล” 3 ข้อหา เปิดคลินิกทำแท้งเถื่อนย่านหนองแขม ศาลเตรียมสอบคำให้การจำเลยพรุ่งนี้ 6 ม.ค. ส่วน 2 สัปเหร่อวัดไผ่เงิน อัยการเล็งสั่งคดีพรุ่งนี้ครบฝากขังครั้งสุดท้าย
วันนี้ (5 ม.ค.) ที่ศาลจังหวัดตลิ่งชัน เมื่อเวลา 10.00 น. พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาธนบุรี 5 (ตลิ่งชัน) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ลัญฉกร หรือ รัญชกร หรือโกะ จันทมนัส อายุ 34 ปี อดีตผู้ช่วยพยาบาล ซึ่งเปิดคลินิกทำแท้งเถื่อนย่านหนองแขม เป็นจำเลยในความผิดฐานประกอบสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบวิชาเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต และทำให้หญิงอื่นแท้งลูกโดยหญิงนั้นยินยอม ตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541, พ.ร.บ.ประกอบวิชาเวชกรรม พ.ศ.2525 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 302 สืบเนื่องจากกรณีพบซากศพทารกที่ถูกทำแท้ง นำมาซุกซ่อนที่วัดไผ่เงินโชตนารามจำนวน 2,002 ศพ
โดยศาลประทับรับคำฟ้องไว้ เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.25/2554 พร้อมมีคำสั่งให้เบิกตัว น.ส.ลัญฉกร จำเลย จากทัณฑสถานหญิงธนบุรี เพื่อสอบคำให้การจำเลยว่าจะรับสารภาพหรือปฏิเสธ ในวันที่ 6 ม.ค.นี้ต่อไป
ด้าน นายสาวิตร บุญประสิทธิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาธนบุรี 5 (ตลิ่งชัน) กล่าวว่า คดีนี้พนักงานสอบสวน สน.หนองแขม ได้มีความเห็นสมควรสั่งฟ้อง น.ส.ลัญฉกร ไว้ 4 ข้อหา 1.ประกอบสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ประกอบวิชาเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.ทำให้หญิงอื่นแท้งลูกโดยหญิงนั้นยินยอม และ 4.ร่วมกันทำลาย ซ่อนเร้น พยานหลักฐานในการกระทำความผิด เพื่อช่วยเหลือให้ผู้อื่นไม่ต้องได้รับโทษทางอาญา แต่อัยการได้พิจารณาสำนวนพยานหลักฐานตามที่ปรากฏและองค์ประกอบความผิดแล้ว เห็นว่าในข้อหาช่วยเหลือทำลาย ซ่อนเร้น นั้นยังไม่ปรากฏชัดเจนช่วยเหลือใคร อัยการจึงสั่งไม่ฟ้อง น.ส.ลัญฉกร แต่อีก 3 ข้อหานั้นมีพยานหลักฐานชัดเจนจึงยื่นฟ้องเป็นจำเลยในวันนี้ที่ครบกำหนดฝากขังครั้งสุดท้ายพอดี ซึ่งการพิจารณาสั่งคดีได้ผ่านการกลั่นกรองตามสายบังคับบัญชาตามขั้นตอนที่มีการเสนออธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญาธนบุรีแล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้อัยการจะรายงานความเห็นการสั่งไม่ฟ้อง น.ส.ลัญฉกรในข้อหาร่วมกันทำลาย ซ่อนเร้น พยานหลักฐานในการกระทำความผิดฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 ให้ ผบ.ตร. ทราบตามขั้นตอนเพื่อพิจารณาว่าจะทำความเห็นแย้งหรือไม่ หาก ผบ.ตร.ยืนยันจะให้ฟ้อง ก็จะส่งความเห็นแย้งดังกล่าวมาให้อัยการสูงสุดพิจารณาชี้ขาดตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป และถ้าอัยการสูงสุดจะชี้ขาดให้ฟ้อง ก็จะยื่นฟ้อง น.ส.ลัญฉกร เพิ่มเติมต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนสำนวน พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร ที่มีการกล่าวหานายสุเทพ ชะบาง บอน อายุ 47 ปี และนายสุชาติ ภูมี อายุ 39 ปี 2 เจ้าหน้าที่สัปเหร่อ วัดไผ่เงิน ในข้อหาร่วมกันทำลาย ซ่อนเร้น พยานหลักฐานในการกระทำความผิดฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 ที่อยู่ระหว่างการสั่งคดีของอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 นั้น จะครบกำหนดฝากขังครั้งสุดท้ายในวันพรุ่งนี้ ซึ่งมีรายงานข่าวอัยการ แจ้งว่าจะดำเนินการฟ้องคดีได้ทัน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอสำนวนให้อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ พิจารณาตามขั้นตอน