ตำรวจวัดพระยาไกร ส่งสำนวนพยานหลักฐาน 153 หน้า ให้อัยการสั่งฟ้องสัปเหร่อ และผู้ช่วยสัปเหร่อวัดไผ่เงิน ในคดีทำลาย ซ่อนเร้น ซากทารก 2,002 ศพ มั่นใจอัยการมีคำสั่งฟ้องภายใน 6 ม.ค. นี้ ส่วนวันที่ 5 ม.ค. อัยการจะเดินทางไปศาลจังหวัดตลิ่งชัน ยื่นฟ้อง “โกะ” มือทำแท้ง
วันนี้ (4 ม.ค.) ที่สำนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร เข้าพบ นายราฆพ โกสิยานันท์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 เพื่อส่งมอบสำนวนการสอบสวนพยานหลักฐานจำนวนทั้งหมด 153 หน้า พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายสุเทพ ชะบางบอน อายุ 46 ปี สัปเหร่อวัดไผ่เงินโชตนาราม และ นายสุชาติ ภูมี อายุ 38 ปี ผู้ช่วยสัปเหร่อ ผู้ต้องหาในข้อหาร่วมกัน ทำลาย ซ่อนเร้น พยานหลักฐานในการกระทำความผิด เพื่อช่วยเหลือให้ผู้อื่นไม่ต้องได้รับโทษทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีร่วมกันทำลายซากทารกที่เกิดจากการถูกทำแท้ง จำนวน 2,002 ศพ
ภายหลัง นายราฆพ กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและสังคม เพราะฉะนั้น การพิจารณาพยานหลักฐานจะต้องกระทำด้วยความละเอียดรอบครอบ และเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งจะต้องเสนอให้อธิบดีอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ เป็นผู้พิจารณาอนุมัติคำสั่งความจะฟ้องหรือไม่ โดยมั่นใจว่าอัยการจะมีคำสั่งฟ้องคดีได้ภายในวันที่ 6 ม.ค.54 นี้ ซึ่งเป็นวันครบกำหนดฝากขังวันสุดท้าย
ทั้งนี้ อัยการต้องพิจารณาว่า การยื่นฟ้องในคดีนี้เป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระ หรือว่าเป็นการกระทำผิดเพียงกรรมเดียว สำหรับคดีนี้ถือว่าส่งผลกระทบต่อสังคมอย่างมาก เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยปรากฎพฤติการณ์การกระทำผิดเช่นนี้มาก่อน
ส่วนความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับ น.ส.ลัญฉกร หรือ “โกะ” จันทมนัส อายุ 33 ปี ผู้ต้องหารับทำแท้งเถื่อน ที่พนักงานสอบสวน สน.หนองแขม ส่งสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องต่อพนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาธนบุรี 5 (ตลิ่งชัน) ในข้อหา ประกอบสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบวิชาเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้หญิงอื่นแท้งลูกโดยหญิงนั้นยินยอม และซ่อนเร้นทำลายหลักฐาน เพื่อให้ตนและผู้อื่นไม่ต้องรับโทษทางอาญาไปนั้น นายสาวิตร บุญประสิทธิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาธนบุรี 5 (ตลิ่งชัน) เปิดเผยว่า ในวันที่ 5 ม.ค.นี้ ทางพนักงานอัยการจะเดินทางไปศาลจังหวัดตลิ่งชัน เพื่อยื่นฟ้อง น.ส.ลัญฉกร ซึ่งถือเป็นวันครบกำหนดฝากขังครั้งสุดท้าย
วันนี้ (4 ม.ค.) ที่สำนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร เข้าพบ นายราฆพ โกสิยานันท์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 1 เพื่อส่งมอบสำนวนการสอบสวนพยานหลักฐานจำนวนทั้งหมด 153 หน้า พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายสุเทพ ชะบางบอน อายุ 46 ปี สัปเหร่อวัดไผ่เงินโชตนาราม และ นายสุชาติ ภูมี อายุ 38 ปี ผู้ช่วยสัปเหร่อ ผู้ต้องหาในข้อหาร่วมกัน ทำลาย ซ่อนเร้น พยานหลักฐานในการกระทำความผิด เพื่อช่วยเหลือให้ผู้อื่นไม่ต้องได้รับโทษทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีร่วมกันทำลายซากทารกที่เกิดจากการถูกทำแท้ง จำนวน 2,002 ศพ
ภายหลัง นายราฆพ กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและสังคม เพราะฉะนั้น การพิจารณาพยานหลักฐานจะต้องกระทำด้วยความละเอียดรอบครอบ และเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งจะต้องเสนอให้อธิบดีอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ เป็นผู้พิจารณาอนุมัติคำสั่งความจะฟ้องหรือไม่ โดยมั่นใจว่าอัยการจะมีคำสั่งฟ้องคดีได้ภายในวันที่ 6 ม.ค.54 นี้ ซึ่งเป็นวันครบกำหนดฝากขังวันสุดท้าย
ทั้งนี้ อัยการต้องพิจารณาว่า การยื่นฟ้องในคดีนี้เป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระ หรือว่าเป็นการกระทำผิดเพียงกรรมเดียว สำหรับคดีนี้ถือว่าส่งผลกระทบต่อสังคมอย่างมาก เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยปรากฎพฤติการณ์การกระทำผิดเช่นนี้มาก่อน
ส่วนความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับ น.ส.ลัญฉกร หรือ “โกะ” จันทมนัส อายุ 33 ปี ผู้ต้องหารับทำแท้งเถื่อน ที่พนักงานสอบสวน สน.หนองแขม ส่งสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องต่อพนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาธนบุรี 5 (ตลิ่งชัน) ในข้อหา ประกอบสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบวิชาเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้หญิงอื่นแท้งลูกโดยหญิงนั้นยินยอม และซ่อนเร้นทำลายหลักฐาน เพื่อให้ตนและผู้อื่นไม่ต้องรับโทษทางอาญาไปนั้น นายสาวิตร บุญประสิทธิ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาธนบุรี 5 (ตลิ่งชัน) เปิดเผยว่า ในวันที่ 5 ม.ค.นี้ ทางพนักงานอัยการจะเดินทางไปศาลจังหวัดตลิ่งชัน เพื่อยื่นฟ้อง น.ส.ลัญฉกร ซึ่งถือเป็นวันครบกำหนดฝากขังครั้งสุดท้าย