xs
xsm
sm
md
lg

ตร.เชื่อคนร้ายบึ้มมูลนิธิป๋ากลุ่มเดียวกันกับระเบิดป่วนกรุง!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


“นครบาล” ยังตรึงกำลัง รปภ.ทำเนียบ จัดกำลัง 8 กองร้อยดูแล ส่วนการชุมนุมของ “เสื้อแดง” ช่วง 1-2 วัน พบผู้ชุมนุมเริ่มน้อยลง ส่วนเหตุระเบิดมูลนิธิป๋าเปรม ตร.คาดคนร้ายน่าเป็นกลุ่มเดียวกันกับเหตุระเบิดที่ผ่านมา หลังตรวจพบกระเดื่องนิรภัยของเอ็ม 67 มีร่องรอยการขูดหมายเลขและใช้สีเมจิกระบายทับ พร้อมสั่งเฝ้าติดตามพฤติกรรมผู้ต้องสงสัยก่อเหตุป่วนกรุง 4-5 คน



วันนี้ (31 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม นปช.และสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ว่า ขณะนี้การประชุมที่รัฐสภาได้เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว การปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยมีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น และไม่มีเครื่องกีดขวางใดๆ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณรัฐสภามีทั้งหมด 8 กองร้อย เป็นกำลังตำรวจจากนครบาลและตำรวจจากหน่วยอื่น และยังมีอีก 9 กองร้อยอยู่ในพื้นที่การชุมนุมที่พร้อมจะสนับสนุนในกรณีที่มีเหตุ นอกจากนี้ ในที่ประชุม ศปก.น.ยังได้ข้อสรุปว่า จากการตรวจสอบข้อมูลของการชุมนุมตั้งแต่เมื่อช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา พบว่า จำนวนของผู้ที่มาชุมนุมนั้นลดน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางวันจะเหลือจำนวนผู้ชุมนุมประมาณ 5,000 คน ส่วนในเวลากลางคืนยอดสูงสุดจากเมื่อคืนที่ผ่านมามีจำนวน 8,000 คน ดังนั้น จะมีบางจุดในถนนราชดำเนินนอก และเส้นทางต่อเนื่อง แยกสวนมิสกวัน มีจำนวนคนค่อนข้างเบาบาง ก็จะมอบหมายให้ฝ่ายจราจรเข้าไปประสานให้กลุ่มผู้ชุมนุมลดพื้นที่ เพื่อคืนพื้นที่การจราจรให้กับประชาชนที่สัญจรไปมา รวมทั้งเพื่อประโยชน์ของงานกาชาดด้วย

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า สำหรับเหตุต่างๆ ที่เกิดขึ้น เมื่อคืนที่ผ่านมา ทั้งกรณีที่หน้ามูลนิธิรัฐบุรุษ และระเบิดปิงปองบริเวณท้องสนามหลวง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งหาเบาะแสของคนร้าย โดยเบื้องต้นได้มีความคืบหน้าไปพอสมควร สิ่งที่น่าสังเกต ก็คือ กระเดื่องนิรภัยของระเบิดชนิด เอ็ม 67 จะมีร่องรอยการขูดลบหมายเลข และใช้สีเมจิกสีน้ำเงินระบายทับ ซึ่งเหมือนกับหลายเหตุที่มีการพบกระเดื่อง เป็นไปได้ว่าคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีการแจ้งว่า คล้ายกับระเบิดที่พบในรถยนต์ของผู้ต้องหาที่หลบหนี หลังก่อเหตุยิงระเบิดอาร์พีจีใส่กระทรวงกลาโหม

“สำหรับเมื่อคืนก็มีการจัดงานกาชาด มีประชาชนเข้ามาร่วมงานจำนวนมากพอสมควร แต่มีจำนวนน้อยกว่าทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์ที่ยังไม่สงบ ประกอบกับการจราจรที่เป็นไปอย่างยากลำบาก นอกจากนี้ ยังมีเหตุเกิดขึ้น 4 เหตุ เป็นลักทรัพย์ ซึ่งในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำภาพของบุคคลที่มีแนวโน้มที่จะก่อเหตุไปติดที่บริเวณงานกาชาด เพื่อให้ประชาชนได้ระมัดระวัง ซึ่งคนร้ายมักจะเลือกก่อเหตุเหยื่อที่เป็นผู้หญิง นอกจากนี้ ยังมีการปรับกำลังบางส่วน หากกลุ่มผู้ชุมนุมมีการเคลื่อนขบวนไปที่หน้ารัฐสภา หรือ กกต.ซึ่งได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.2 จัดกำลังดูแลความสงบเรียบร้อย และทาง ศปก.น.ก็ได้จัดกำลังเสริมดูแลในบริเวณใกล้เคียง” พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร.ยังได้มอบหมายให้รอง ผบ.ตร.ที่คุมแต่ละภาคมาตรวจเยี่ยมกำลังตำรวจที่ปฏิบัตหน้าที่ในแต่ละหน่วยด้วย เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ สำหรับเมื่อคืนที่ผ่านมา มีการปรับจุดตรวจหลายจุด เพื่อเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดขึ้น เนื่องจากมีรายงานว่ามีคนบางกลุ่มไปตามชุมชนต่างๆ ที่มีการติดป้ายข้อความให้ชุมนุมโดยสงบ ไม่ชอบการชุมนุม หรือยุติความรุนแรง โดยคนกลุ่มดังกล่าวจะไปดึงป้ายต่างๆ ออก ซึ่งเกรงว่าอาจจะเกิดการกระทบกระทั่งกัน ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่พบการดึงป้ายต่างๆ ก็จะดำเนินการจับกุมทันที เพราะถือว่าเป็นการทำลายทรัพย์สินของผู้อื่น วันนี้ตั้งแต่เวลา 12.00-17.00 น.จะมีการจัดงานถวายการระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่บริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ก็ได้มีการเตรียมความพร้อมในการถวายการอารักขา ซึ่งอาจจะต้องมีการรื้อเต็นท์ของกลุ่มผู้ชุมนุมในบางจุด ซึ่งขณะนี้คาดว่าน่าจะเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากว่าหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดต้องเข้าไปตรวจหาวัตถุระเบิด ซึ่งทหารกับตำรวจต้องร่วมกันดูแล

“ส่วนการข่าวที่ว่าที่มีการเฝ้าติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องสงสัยประมาณ 4-5 คน ขณะนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายให้ บช.ก.และสันติบาลเป็นผู้ดูแล ส่วนตำรวจท้องที่ในนครบาลจะทำหน้าที่กดดันเฉพาะกลุ่มที่มีการรวมตัวกันขึ้นรถไปก่อเหตุตามที่ต่างๆ เท่านั้น ทั้งนี้จากที่มีการเรียกประชุมระดับ ผบก.และรอง ผบก.เมื่อวานที่ผ่านมา ถึงการกำหนดความสำคัญของสถานที่ต่างๆ ทั้งสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ทางการเมือง และบ้านพักบุคคลสำคัญ ขณะนี้ก็ได้มีการส่งเรื่องมาถึง พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น.แล้วซึ่งมีการจัดกลุ่มสถานที่ที่คนร้ายมักจะก่อเหตุเอาไว้ดังนี้ 1.สถานที่ที่มีเจ้าหน้าที่ทหารรักษาการณ์อยู่ 2.องค์กรเอกชน 3.องค์กรสื่อสารมวลชน 4.องค์กรอิสระ 5.บ้านพักบุคคลสำคัญ ซึ่งตามสถานที่ต่างๆ ทั้งหมดได้มีการวางกำลังอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุต่างๆ ซ้ำซ้อนขึ้นอีก” พล.ต.ต.ปิยะกล่าว

มีรายงานว่า เหตุการณ์คนร้ายปาระเบิดเข้าใส่มูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์นั้น จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า น่าจะเป็นคนร้ายรายเดียวกับที่ก่อเหตุปาระเบิดเข้าใส่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 (สนามเป้า) โดยภาพจากกล้องวงจรปิดดังกล่าว สามารถจับภาพได้ทั้งรถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่ยี่ห้อเดียวกัน สีเดียวกัน รวมทั้งลักษณะของหมวกนิรภัย(กันน็อก) และเสื้อแจ็คเก็ต ก็มีลักษณะเดียวกัน นอกจากนี้ ระเบิดที่ใช้ยังเป็นระเบิดเอ็ม 67 ชนิดเดียวกัน และก่อเหตุในเวลาไล่เลี่ยกันด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น