นครบาลประชุมประมวลเหตุการณ์คลี่คลายคดีคนร้ายปาระเบิดป่วนรายวัน เตรียมนำภาพคนร้ายปามูลนิธิรัฐบุรุษมาเปรียบเทียบกับภาพเหตุระเบิดหน้าช่อง 5 ว่าเชื่อมโยงกันหรือไม่ ระบุคนร้ายเป็นชาย 2 คน ควบ จยย.แบบผู้หญิง มาจอดแล้วปาบึ้ม วอนไม่อยากให้มองเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ เพราะทุกฝ่ายทำงานเต็มกำลังความสามารถ
วันนี้ (31 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย พ.ต.อ.วีรวิทย์ จันทร์จำเริญ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.คณิศร์ชัย มหินทรเทพ ผกก.สส.บก.น.1 พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ ผกก.สน.สามเสน และพ.ต.อ.ชาตรี กาญจนกันติ ผกก.สน.ดินแดง เพื่อประมวลเหตุการณ์และคลี่คลายคดีที่คนร้ายลอบปาระเบิดป่วนเมืองรายวัน
พล.ต.ต.วิชัย เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้เรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาประชุมประเมินเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งคดีปาระเบิดในจุดต่างๆ ของพื้นที่ บก.น.1 และเหตุคนร้ายยิงปืนใส่ธนาคารกรุงเทพ สาขาสะพานขาว เนื่องจากลักษณะการก่อเหตุคล้ายกัน วัตถุระเบิดที่ใช้เป็นชนิดเดียวกัน และพาหนะมีความใกล้เคียงกัน จึงมีการนำภาพวงจรปิด และหลักฐานต่างๆ มาประมวล เพื่อตรวจสอบดูว่าในแต่ละจุดมีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ เบื้องต้นกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพของคนร้ายเอาไว้ได้ รวมถึงเส้นทางการหลบหนี ซึ่งภาพคนร้ายเหตุระเบิดที่หน้ามูลนิธิรัฐบุรุษจะมีการนำมาเปรียบเทียบกับภาพเหตุระเบิดที่หน้าช่อง 5 ของพื้นที่ สน.ดินแดง
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบภาพวงจรปิดหน้ามูลนิธิรัฐบุรุษพบว่า คนร้ายเป็นชาย 2 คน ขี่จักรยานยนต์แบบผู้หญิงไม่ทราบยี่ห้อ รุ่น และทะเบียน โดยขับมุ่งหน้ามาจากถนนนครราชสีมา เลี้ยวเข้ามาถนนอู่ทองนอก เมื่อถึงจุดเกิดเหตุคนร้ายก็ได้จอดรถก่อนจะขว้างระเบิดเข้าไปในอาคาร แล้วหลบหนีมุ่งหน้าไปทางท่าวาสุกรี ถนนสามเสน
เบื้องต้นกล้องวงจรปิดที่ได้ขณะนี้มาจากจุดเกิดเหตุ แต่ยังมีกล้องอีกหลายจุดที่ต้องนำมาตรวจสอบเพื่อหาเบาะแสของคนร้ายให้ชัดเจนขึ้น สำหรับจุดเกิดเหตุมีการตั้งด่านของเจ้าหน้าที่ทหาร และมีตำรวจสายตรวจของท้องที่คอยเฝ้าระวังอยู่ตลอด
ทั้งนี้ ไม่อยากให้มองว่าเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ เพราะทุกหน่วยได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ และเข้มงวดอยู่แล้ว แต่คนเฝ้าระวังกับคนจ้องจะก่อเหตุไม่เหมือนกัน
ในวันเดียวกัน พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ ผกก.สน.สามเสน กล่าวถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายลอบปาระเบิดใส่มูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ว่า หลังเกิดเหตุได้นำกล้องวงจรปิดจากบริเวณด้านหน้ามูลนิธิ จำนวน 2 ตัวมาตรวจสอบ พบกล้องสามารถจับภาพ คนร้าย 2 คน สวมหมวกกันน็อก ขับขี่รถจยย.เป็นยานพาหนะ ซึ่งคาดว่าน่าจะขี่มาจากถนนนครราชสีมา เลี้ยวขวาเข้ามาในถนนอู่ทองนอก เมื่อคนร้ายขี่รถจยย. ผ่านมาถึงบริเวณด้านหน้ามูลนิธิฯ ก็ขวางระเบิดใส่ทันที โดยไม่ได้จอดรถ จยย. ก่อนจะเร่งเครื่องหลบหนีมุ่งหน้าไปยังท่าวาสุกรี
พ.ต.อ.ชยุต กล่าวด้วยว่า สำหรับภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งสองตัวที่ได้มานั้นไม่มีความคมชัดต้องนำไปผ่านกระบวนการทางเทคนิค เพื่อเพิ่มความคมชัดของภาพเสียก่อน ทั้งนี้ได้สั่งให้พนักงานสอบสวนเชิญทหารที่เข้าเวรอยู่ที่มูลนิธิในช่วงเกิดเหตุมาสอบปากคำแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในภาพวงจรปิดนอกจากภาพรถ จยย.คนร้ายแล้ว ยังมีภาพชาย 2คนยืนคุยกันอยู่ก่อนที่คนร้ายจะขี่รถ จยย.ผ่านไป โดยหลังเกิดเหตุระเบิดทั้งคู่ได้ขี่รถ จยย.ออกไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กำลังติดตามตัวมาสอบสวนว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยการเป็นคนดูต้นทางให้หรือไม่
วันนี้ (31 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย พ.ต.อ.วีรวิทย์ จันทร์จำเริญ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.คณิศร์ชัย มหินทรเทพ ผกก.สส.บก.น.1 พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ ผกก.สน.สามเสน และพ.ต.อ.ชาตรี กาญจนกันติ ผกก.สน.ดินแดง เพื่อประมวลเหตุการณ์และคลี่คลายคดีที่คนร้ายลอบปาระเบิดป่วนเมืองรายวัน
พล.ต.ต.วิชัย เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้เรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาประชุมประเมินเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทั้งคดีปาระเบิดในจุดต่างๆ ของพื้นที่ บก.น.1 และเหตุคนร้ายยิงปืนใส่ธนาคารกรุงเทพ สาขาสะพานขาว เนื่องจากลักษณะการก่อเหตุคล้ายกัน วัตถุระเบิดที่ใช้เป็นชนิดเดียวกัน และพาหนะมีความใกล้เคียงกัน จึงมีการนำภาพวงจรปิด และหลักฐานต่างๆ มาประมวล เพื่อตรวจสอบดูว่าในแต่ละจุดมีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ เบื้องต้นกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพของคนร้ายเอาไว้ได้ รวมถึงเส้นทางการหลบหนี ซึ่งภาพคนร้ายเหตุระเบิดที่หน้ามูลนิธิรัฐบุรุษจะมีการนำมาเปรียบเทียบกับภาพเหตุระเบิดที่หน้าช่อง 5 ของพื้นที่ สน.ดินแดง
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบภาพวงจรปิดหน้ามูลนิธิรัฐบุรุษพบว่า คนร้ายเป็นชาย 2 คน ขี่จักรยานยนต์แบบผู้หญิงไม่ทราบยี่ห้อ รุ่น และทะเบียน โดยขับมุ่งหน้ามาจากถนนนครราชสีมา เลี้ยวเข้ามาถนนอู่ทองนอก เมื่อถึงจุดเกิดเหตุคนร้ายก็ได้จอดรถก่อนจะขว้างระเบิดเข้าไปในอาคาร แล้วหลบหนีมุ่งหน้าไปทางท่าวาสุกรี ถนนสามเสน
เบื้องต้นกล้องวงจรปิดที่ได้ขณะนี้มาจากจุดเกิดเหตุ แต่ยังมีกล้องอีกหลายจุดที่ต้องนำมาตรวจสอบเพื่อหาเบาะแสของคนร้ายให้ชัดเจนขึ้น สำหรับจุดเกิดเหตุมีการตั้งด่านของเจ้าหน้าที่ทหาร และมีตำรวจสายตรวจของท้องที่คอยเฝ้าระวังอยู่ตลอด
ทั้งนี้ ไม่อยากให้มองว่าเป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ เพราะทุกหน่วยได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ และเข้มงวดอยู่แล้ว แต่คนเฝ้าระวังกับคนจ้องจะก่อเหตุไม่เหมือนกัน
ในวันเดียวกัน พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ ผกก.สน.สามเสน กล่าวถึงความคืบหน้าคดีคนร้ายลอบปาระเบิดใส่มูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ว่า หลังเกิดเหตุได้นำกล้องวงจรปิดจากบริเวณด้านหน้ามูลนิธิ จำนวน 2 ตัวมาตรวจสอบ พบกล้องสามารถจับภาพ คนร้าย 2 คน สวมหมวกกันน็อก ขับขี่รถจยย.เป็นยานพาหนะ ซึ่งคาดว่าน่าจะขี่มาจากถนนนครราชสีมา เลี้ยวขวาเข้ามาในถนนอู่ทองนอก เมื่อคนร้ายขี่รถจยย. ผ่านมาถึงบริเวณด้านหน้ามูลนิธิฯ ก็ขวางระเบิดใส่ทันที โดยไม่ได้จอดรถ จยย. ก่อนจะเร่งเครื่องหลบหนีมุ่งหน้าไปยังท่าวาสุกรี
พ.ต.อ.ชยุต กล่าวด้วยว่า สำหรับภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งสองตัวที่ได้มานั้นไม่มีความคมชัดต้องนำไปผ่านกระบวนการทางเทคนิค เพื่อเพิ่มความคมชัดของภาพเสียก่อน ทั้งนี้ได้สั่งให้พนักงานสอบสวนเชิญทหารที่เข้าเวรอยู่ที่มูลนิธิในช่วงเกิดเหตุมาสอบปากคำแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในภาพวงจรปิดนอกจากภาพรถ จยย.คนร้ายแล้ว ยังมีภาพชาย 2คนยืนคุยกันอยู่ก่อนที่คนร้ายจะขี่รถ จยย.ผ่านไป โดยหลังเกิดเหตุระเบิดทั้งคู่ได้ขี่รถ จยย.ออกไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กำลังติดตามตัวมาสอบสวนว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยการเป็นคนดูต้นทางให้หรือไม่