ตำรวจเพื่อนซี้มือสังหารโหดยกครัว “ร.ต.ท.” สารภาพโกรธแค้นผู้ตายหักหลังให้ข้อมูลในการติดตามจับกุมตนเอง ขณะที่ต้องโทษในคดีฆ่าผู้อื่นในพื้นที่กาญจนบุรี จนต้องถูกไล่ออกจากราชการ บวกกับถูกเพื่อนรักทวงเงิน 3 หมื่น ที่ยืมมา ทั้งที่กำลังเดือดร้อน รับจำเป็นต้องฆ่าทั้งหมด เพื่อปิดปาก เหตุจำหน้าได้ ขณะที่ทีมสืบสวนยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ ขยายผลสอบประเด็นอื่นต่อไป
วันนี้ (26 มี.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รักษาการ ผบก.ป. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ธวัชชัย คำแหงพล รอง ผกก.2 บก.ป.และ พ.ต.ท.สุรพงศ์ ธรรมพิทักษ์ สว.กก.2 บก.ป.แถลงข่าวจับกุม ร.ต.ท.มนตรี แก้วรัตน์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 179/125 หมู่ 7 ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี อดีตตำรวจ สภ.บางบัวทอง ผู้ต้องหาคดีฆ่ายกครัว ได้ภายในห้องพักเลขที่ 707 บุษบาบันรีสอร์ท ถนนเลียบคลอง 7 อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พร้อมของกลาง รถกระบะ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน ปย 4138 กทม.อาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 8 นัด อาวุธปืนขนาด 9 มม.1 กระบอก เงินสด 178,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง นาฬิกายี่ห้อโรเล็กซ์ แหวนทองฝังเพชร 3 วง กำไรข้อมือ พระเลี่ยมทอง 6 องค์ บัตรเอทีเอ็มอีก 5 ใบ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ร.ต.ท.มนตรี ผู้ต้องหาก่อคดีฆ่า ร.ต.ท.ราชัน พันธ์วงศ์ อายุ 37 ปี พนักงานสอบสวน (สบ1) สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เสียชีวิตพร้อมภรรยาและลูก รวม 4 ราย ภายในรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีเทา ทะเบียน ฌย 1188 กทม.นอกจากนี้ ด.ญ.ญานิสา พันธ์วงศ์ อายุ 5 ขวบ บุตรสาวของ ร.ต.ท.ราชัน ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกราย เหตุเกิดบนถนนวงแหวนตะวันตก มุ่งหน้า อ.บางบัวทอง หมู่ 6 ต.บางเตย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุรายนี้ คือ ร.ต.ท.มนตรี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของผู้ตาย จึงออกสืบสวนติดตามจับกุมกระทั่งทราบว่าผู้ต้องหาหนีมากบดานภายในที่ห้องพักเลขที่ 707 บุษบาบันรีสอร์ท ถนนเลียบคลอง 7 อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เพื่อเตรียมตัวหนีไปกบดานในจังหวัดมุกดาหาร จึงติดตามจับกุมตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวน ร.ต.ท.มนตรี ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ปัจจุบันถูกไล่ออกจากราชการแล้ว เนื่องจากต้องโทษในคดีฆ่าผู้อื่นตาย ในท้องที่ จ.กาญจนบุรี โดยขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนีการประกันตัวในชั้นศาล ส่วนสาเหตุที่ลงมือยิง ร.ต.ท.ราชัน พร้อมกับภรรยาและลูก เนื่องจากโกรธแค้นที่ ร.ต.ท.ราชัน ซึ่งเป็นเพื่อนรักและทำงานด้วยกันมานาน ให้ข้อมูลกับตำรวจในการติดตามจับกุมตน นอกจากนี้ ยังทวงเงินที่ตนยืมมา 3 หมื่นบาท เพื่อใช้ในการหลบหนีคดี ทั้งที่ตนกำลังเดือดร้อนอยู่ โดยนัดหมายให้มาพบกันที่บริเวณจุดเกิดเหตุ
ร.ต.ท.มนตรี ให้การต่อว่า ช่วงก่อนที่จะลงมือก่อเหตุ ตนได้สอบถามเกี่ยวกับคดีที่ตนถูกตำรวจติดตามจับกุม ว่า ร.ต.ท.ราชัน เป็นคนให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่หรือไม่ เนื่องจากมีเพียงผู้เสียชีวิตเท่านั้นที่ทราบรายละเอียดของคดี และความเคลื่อนไหวของตน แต่ผู้เสียชีวิตก็ไม่ยอมบอกอะไร ทำให้ตนยิ่งโกรธแค้น โดยระหว่างที่ผู้เสียชีวิตกำลังเดินกลับไปขึ้นรถ ตนจึงเกิดบันดาลโทสะ คว้าอาวุธปืนออกมาจ่อยิง เป็นจังหวะที่ภรรยาผู้เสียชีวิตเห็นเหตุการณ์ และเปิดประตูรถเพื่อวิ่งหนี จึงตามไปยิงตายอีกศพ ส่วนลูกๆ ของผู้เสียชีวิตตนจำเป็นต้องฆ่า เพื่อปิดปาก เพราะทั้งหมดจำหน้าตนได้ เมื่อเห็นว่า ทั้งหมดเสียชีวิตแล้วจึงหยิบเอาทรัพย์สินต่างๆ ภายในรถของผู้เสียชีวิตไปด้วย ก่อนจะหลบหนีกระทั่งมาถูกจับกุมตัวในที่สุด
“เอาเป็นว่าทุกคนไม่ต้องถามอะไรมาก เพราะทุกอย่างผมคุยกับตำรวจแล้ว วันนั้นผมเป็นตำรวจ ส่วนวันนี้ผมเป็นโจรก็เป็นโจร ผมขอพูดแค่คำเดียวว่า คนเป็นเพื่อนกันต้องมีความซื่อสัตย์ต่อกัน ไม่หักหลังกัน ไม่ใช่วันนี้เป็นตำรวจ พรุ่งนี้ไม่รู้ว่าเป็นอะไร คนเราจบกันเพียงแค่ตาย ขออย่างเดียวถ้าไม่หักหลัง ผมก็ไม่ทำแค่นั้นเอง ผมจะไม่ให้การอีกแล้ว” ร.ต.ท.มนตรี กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการหักหลังกันเรื่องอะไร ทำไมต้องฆ่าเด็ก ผู้ต้องหารายนี้ กล่าวว่า เชื่อไหมว่าถ้าคุณหนีคดีอยู่ มีเพื่อนคนหนึ่งที่คุณไว้ใจมาก แล้วเพื่อนคนนั้นหักหลังคุณ ถึงตอนนั้นตนอาจคิดไม่เหมือนกับคนอื่น ส่วนกรณีที่มีเด็กรอดชีวิต 1 รายนั้น ร.ต.ท.มนตรี ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยกล่าวว่า ตนยอมรับว่า เป็นผู้ก่อเหตุโดยลงมือเพียงคนเดียว
“ผมอยากฝากขอโทษที่ทำเช่นนี้ โดยเฉพาะภรรยาและลูกของ ร.ต.ท.ราชัน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย แต่ผมจำเป็นต้องทำ ส่วนเรื่องทั้งหมดจะไม่ขอพูดอีกแล้วจะขอเก็บไว้ในใจคนเดียว” ร.ต.ท.มนตรี กล่าวอย่างไม่สะทกสะท้าน
เมื่อถามว่า หลังก่อเหตุคิดจะเข้ามอบตัวหรือไม่ ร.ต.ท.มนตรี กล่าวว่า ตนไม่คิดจะมอบตัวเพราะถึงอย่างไรก็หลบหนีคดีฆ่าผู้อื่นมาก่อนหน้านี้แล้ว
อย่างไรก็ดี ทางชุดจับกุมยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลในประเด็นอื่นๆ เนื่องจากคำให้การยังขัดแย้งกับข้อมูลตามแนวทางการสืบสวนหลายอย่าง ทั้งนี้ ทางตำรวจ สภ.บางบัวทอง ได้รับตัวผู้ต้องหาไว้ดำเนินคดีต่อไป
ต่อมาเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง ผบก.ภ.ปทุมธานี ได้ให้ พ.ต.อ.อำนาจ จันทร์เจริญ รอง ผบก.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบ-นอกเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่อปพร.กว่า 100 นาย ได้ไปตั้งจุดคอยอำนวยความสะดวกเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว ร.ต.ท.มนตรี แก้วรัตน์ นั่งรถตู้ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่พอไปถึงที่เกิดเหตุ เห็นผู้คนมากันมากมายและรถจอดติดยาวเหยียดหลายกิโลทำให้ ร.ต.ท.มนตรี ได้ลงไปทำแผนพอถือปืนปลอมก็โยนทิ้งไม่ยอมทำแผนต่อไป
ทั้งนี้ ร.ต.ท.มนตรี กล่าวว่า ถ้าแบบนี้ผมบอกแล้วว่าไม่ทำ พร้อมทั้งได้กัดฟันเสียงดังออกมาและสีหน้าเคร่งเครียดมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2552 ร.ต.ท.มนตรี ได้ก่อเหตุยิง นางวรรณา รัตนสิริรัตน์ อายุ 38 ปี เสียชีวิต หลังจาก นางวรรณา กับ นายชัยรัตน์ รัตนสิริรัตน์ อายุ 36 ปี สามีขับรถกระบะ ยี่ห้อนิสสัน สีแดง ทะเบียน 1909 นนทบุรี ไปปาดหน้ารถกระบะของ ร.ต.ท.มนตรี เหตุเกิดบนถนนเลี่ยงเมือง (บายพาส) จุดสกัดแยกชุมทางรถไฟ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ก่อนที่ตำรวจ สภ.ท่ามะกา จับกุมตัว ร.ต.ท.มนตรี ไว้ได้ จากนั้นจึงถูกดำเนินคดีและถูกไล่ออกจากราชการ และหนีประกันในชั้นศาล กระทั่งออกมาก่อเหตุฆ่ายกครัวดังกล่าว
จับแล้วมือฆ่า 4 ศพ ที่แท้เป็นอดีตตำรวจ สภ.บางบัวทอง
วันนี้ (26 มี.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รักษาการ ผบก.ป. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ธวัชชัย คำแหงพล รอง ผกก.2 บก.ป.และ พ.ต.ท.สุรพงศ์ ธรรมพิทักษ์ สว.กก.2 บก.ป.แถลงข่าวจับกุม ร.ต.ท.มนตรี แก้วรัตน์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 179/125 หมู่ 7 ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี อดีตตำรวจ สภ.บางบัวทอง ผู้ต้องหาคดีฆ่ายกครัว ได้ภายในห้องพักเลขที่ 707 บุษบาบันรีสอร์ท ถนนเลียบคลอง 7 อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พร้อมของกลาง รถกระบะ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน ปย 4138 กทม.อาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 8 นัด อาวุธปืนขนาด 9 มม.1 กระบอก เงินสด 178,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง นาฬิกายี่ห้อโรเล็กซ์ แหวนทองฝังเพชร 3 วง กำไรข้อมือ พระเลี่ยมทอง 6 องค์ บัตรเอทีเอ็มอีก 5 ใบ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ร.ต.ท.มนตรี ผู้ต้องหาก่อคดีฆ่า ร.ต.ท.ราชัน พันธ์วงศ์ อายุ 37 ปี พนักงานสอบสวน (สบ1) สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เสียชีวิตพร้อมภรรยาและลูก รวม 4 ราย ภายในรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีเทา ทะเบียน ฌย 1188 กทม.นอกจากนี้ ด.ญ.ญานิสา พันธ์วงศ์ อายุ 5 ขวบ บุตรสาวของ ร.ต.ท.ราชัน ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกราย เหตุเกิดบนถนนวงแหวนตะวันตก มุ่งหน้า อ.บางบัวทอง หมู่ 6 ต.บางเตย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุรายนี้ คือ ร.ต.ท.มนตรี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของผู้ตาย จึงออกสืบสวนติดตามจับกุมกระทั่งทราบว่าผู้ต้องหาหนีมากบดานภายในที่ห้องพักเลขที่ 707 บุษบาบันรีสอร์ท ถนนเลียบคลอง 7 อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เพื่อเตรียมตัวหนีไปกบดานในจังหวัดมุกดาหาร จึงติดตามจับกุมตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวน ร.ต.ท.มนตรี ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ปัจจุบันถูกไล่ออกจากราชการแล้ว เนื่องจากต้องโทษในคดีฆ่าผู้อื่นตาย ในท้องที่ จ.กาญจนบุรี โดยขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนีการประกันตัวในชั้นศาล ส่วนสาเหตุที่ลงมือยิง ร.ต.ท.ราชัน พร้อมกับภรรยาและลูก เนื่องจากโกรธแค้นที่ ร.ต.ท.ราชัน ซึ่งเป็นเพื่อนรักและทำงานด้วยกันมานาน ให้ข้อมูลกับตำรวจในการติดตามจับกุมตน นอกจากนี้ ยังทวงเงินที่ตนยืมมา 3 หมื่นบาท เพื่อใช้ในการหลบหนีคดี ทั้งที่ตนกำลังเดือดร้อนอยู่ โดยนัดหมายให้มาพบกันที่บริเวณจุดเกิดเหตุ
ร.ต.ท.มนตรี ให้การต่อว่า ช่วงก่อนที่จะลงมือก่อเหตุ ตนได้สอบถามเกี่ยวกับคดีที่ตนถูกตำรวจติดตามจับกุม ว่า ร.ต.ท.ราชัน เป็นคนให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่หรือไม่ เนื่องจากมีเพียงผู้เสียชีวิตเท่านั้นที่ทราบรายละเอียดของคดี และความเคลื่อนไหวของตน แต่ผู้เสียชีวิตก็ไม่ยอมบอกอะไร ทำให้ตนยิ่งโกรธแค้น โดยระหว่างที่ผู้เสียชีวิตกำลังเดินกลับไปขึ้นรถ ตนจึงเกิดบันดาลโทสะ คว้าอาวุธปืนออกมาจ่อยิง เป็นจังหวะที่ภรรยาผู้เสียชีวิตเห็นเหตุการณ์ และเปิดประตูรถเพื่อวิ่งหนี จึงตามไปยิงตายอีกศพ ส่วนลูกๆ ของผู้เสียชีวิตตนจำเป็นต้องฆ่า เพื่อปิดปาก เพราะทั้งหมดจำหน้าตนได้ เมื่อเห็นว่า ทั้งหมดเสียชีวิตแล้วจึงหยิบเอาทรัพย์สินต่างๆ ภายในรถของผู้เสียชีวิตไปด้วย ก่อนจะหลบหนีกระทั่งมาถูกจับกุมตัวในที่สุด
“เอาเป็นว่าทุกคนไม่ต้องถามอะไรมาก เพราะทุกอย่างผมคุยกับตำรวจแล้ว วันนั้นผมเป็นตำรวจ ส่วนวันนี้ผมเป็นโจรก็เป็นโจร ผมขอพูดแค่คำเดียวว่า คนเป็นเพื่อนกันต้องมีความซื่อสัตย์ต่อกัน ไม่หักหลังกัน ไม่ใช่วันนี้เป็นตำรวจ พรุ่งนี้ไม่รู้ว่าเป็นอะไร คนเราจบกันเพียงแค่ตาย ขออย่างเดียวถ้าไม่หักหลัง ผมก็ไม่ทำแค่นั้นเอง ผมจะไม่ให้การอีกแล้ว” ร.ต.ท.มนตรี กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการหักหลังกันเรื่องอะไร ทำไมต้องฆ่าเด็ก ผู้ต้องหารายนี้ กล่าวว่า เชื่อไหมว่าถ้าคุณหนีคดีอยู่ มีเพื่อนคนหนึ่งที่คุณไว้ใจมาก แล้วเพื่อนคนนั้นหักหลังคุณ ถึงตอนนั้นตนอาจคิดไม่เหมือนกับคนอื่น ส่วนกรณีที่มีเด็กรอดชีวิต 1 รายนั้น ร.ต.ท.มนตรี ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยกล่าวว่า ตนยอมรับว่า เป็นผู้ก่อเหตุโดยลงมือเพียงคนเดียว
“ผมอยากฝากขอโทษที่ทำเช่นนี้ โดยเฉพาะภรรยาและลูกของ ร.ต.ท.ราชัน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย แต่ผมจำเป็นต้องทำ ส่วนเรื่องทั้งหมดจะไม่ขอพูดอีกแล้วจะขอเก็บไว้ในใจคนเดียว” ร.ต.ท.มนตรี กล่าวอย่างไม่สะทกสะท้าน
เมื่อถามว่า หลังก่อเหตุคิดจะเข้ามอบตัวหรือไม่ ร.ต.ท.มนตรี กล่าวว่า ตนไม่คิดจะมอบตัวเพราะถึงอย่างไรก็หลบหนีคดีฆ่าผู้อื่นมาก่อนหน้านี้แล้ว
อย่างไรก็ดี ทางชุดจับกุมยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหา โดยขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลในประเด็นอื่นๆ เนื่องจากคำให้การยังขัดแย้งกับข้อมูลตามแนวทางการสืบสวนหลายอย่าง ทั้งนี้ ทางตำรวจ สภ.บางบัวทอง ได้รับตัวผู้ต้องหาไว้ดำเนินคดีต่อไป
ต่อมาเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง ผบก.ภ.ปทุมธานี ได้ให้ พ.ต.อ.อำนาจ จันทร์เจริญ รอง ผบก.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบ-นอกเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่อปพร.กว่า 100 นาย ได้ไปตั้งจุดคอยอำนวยความสะดวกเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว ร.ต.ท.มนตรี แก้วรัตน์ นั่งรถตู้ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่พอไปถึงที่เกิดเหตุ เห็นผู้คนมากันมากมายและรถจอดติดยาวเหยียดหลายกิโลทำให้ ร.ต.ท.มนตรี ได้ลงไปทำแผนพอถือปืนปลอมก็โยนทิ้งไม่ยอมทำแผนต่อไป
ทั้งนี้ ร.ต.ท.มนตรี กล่าวว่า ถ้าแบบนี้ผมบอกแล้วว่าไม่ทำ พร้อมทั้งได้กัดฟันเสียงดังออกมาและสีหน้าเคร่งเครียดมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2552 ร.ต.ท.มนตรี ได้ก่อเหตุยิง นางวรรณา รัตนสิริรัตน์ อายุ 38 ปี เสียชีวิต หลังจาก นางวรรณา กับ นายชัยรัตน์ รัตนสิริรัตน์ อายุ 36 ปี สามีขับรถกระบะ ยี่ห้อนิสสัน สีแดง ทะเบียน 1909 นนทบุรี ไปปาดหน้ารถกระบะของ ร.ต.ท.มนตรี เหตุเกิดบนถนนเลี่ยงเมือง (บายพาส) จุดสกัดแยกชุมทางรถไฟ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ก่อนที่ตำรวจ สภ.ท่ามะกา จับกุมตัว ร.ต.ท.มนตรี ไว้ได้ จากนั้นจึงถูกดำเนินคดีและถูกไล่ออกจากราชการ และหนีประกันในชั้นศาล กระทั่งออกมาก่อเหตุฆ่ายกครัวดังกล่าว
จับแล้วมือฆ่า 4 ศพ ที่แท้เป็นอดีตตำรวจ สภ.บางบัวทอง