“สัณฐาน” เผยรู้ตัวคนร้ายยิงอาร์พีจีแล้ว แต่ขอปิดเป็นความลับเอี่ยวคนมีสี หรือนอกราชการ ระบุไม่มีตำรวจใหญ่ “โก้ นครบาล” ตามที่เด็จพี่กล่าวอ้าง ถ้ามีถูกจับไปนานแล้ว ยันคดีบึ้มกลาโหมคืบหน้า ส่วนเหตุบึ้มทุกคดีใน กทม.ยังไม่พบเชื่อมโยงกลุ่มเดียวกัน จ่อขอออกหมายจับ 2 คนร้ายตามภาพสเกตช์
วันนี้ (23 มี.ค.) ที่ บช.น.เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายก่อเหตุยิงระเบิดอาร์พีจี ถล่มกระทรวงกลาโหม เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา พร้อมนำภาพสเกตช์ 2 คนร้ายในเหตุดังกล่าวมาเผยแพร่ต่อสื่อมวลชนว่า จากการสอบสวนพยานบุคคลในที่เกิดเหตุและผู้ที่เห็นเหตุการณ์ช่วงหลังเกิดเหตุเล็กน้อย และพยานที่เห็นช่วงคนร้ายหลบหนีสามารถสเกตช์ภาพคนร้ายได้ใกล้เคียงอย่างยิ่ง จึงมีการออกภาพสเก็ตช์และขอหมายจับจากศาลในวันนี้ โดยพยานยืนยันว่า มีความคล้ายกับคนร้ายประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ โดยคนร้ายทั้ง 2 คนมีรูปร่างสูงใหญ่ทั้งคู่ ใกล้เคียงกันส่วนสูงประมาณ 170 เซนติเมตร ใส่หมวก 1 คน และไม่ใส่หมวก 1 คน ลักษณะตามภาพ หลังเกิดเหตุทั้ง 2 คนได้หลบหนีไป ซึ่งตรงกับภาพวงจรปิดที่ตำรวจได้มา
“สำหรับการสอบสวนถือว่าคืบหน้าไปมาก จากหลักฐานที่ได้จากในรถหลายอย่าง และกำลังเร่งตรวจสอบให้ชัดเจนจากกองพิสูจน์หลักฐาน โดยใช้นิติวิทยาศาสตร์มาช่วย เพื่อให้เกิดความแน่ชัดอีกครั้ง” พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยและคนร้ายได้แล้วใช่หรือไม่ พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่า ยังไม่มี โดยผู้สื่อข่าวพยายามถามย้ำ ต้อนคำถามอีกว่า จากแนวทางการสอบสวนพบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 ตามภาพสเก็ตช์เป็นทั้งคนมีสี และคนนอกราชการใช่หรือไม่ ผบช.น.ยืนยันว่า คงบอกไม่ได้ในตอนนี้ขอปิดไว้เป็นความลับในสำนวนการสอบสวนก่อน แต่ยืนยันได้ว่า ตอนนี้เรารู้ตัวแล้ว
ผุ้สื่อข่าวถามต่อว่า กลุ่มคนร้ายที่กระทำการนี้เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับคนร้ายคดียิงระเบิดเอ็ม 79 หน้า ร.1 ถนนวิภาวดี หรือไม่ พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่า กำลังพยายามรวบรวบพยานหลักฐานอยู่ แต่ตอนนี้ยังไม่มีความเชื่อมโยง ซึ่งเมื่อถามว่าเหตุที่พบมีการเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่ ป.ป.ช.หรือไม่ ผบช.น.กล่าวว่า ยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงกัน
พล.ต.ท.สัณฐาน ยังกล่าวถึงเหตุระเบิดที่แขวงการทางตลิ่งชันด้วยว่า ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน ตามความรู้สึกเบื้องต้น ตู้ยามตรงแขวงการทางก็ไม่ได้เป็นสัญลักษณ์ทางการเมือง อีกทั้งทราบว่า ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันมีการไล่พนักงานรักษาความปลอดภัยไป 1 คน น่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวมากกว่า
ผบช.น.กล่าวถึงกรณี นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยออกมาเปิดโปงว่า ผู้ที่ครอบครองรถกระบะคันก่อเหตุข้างกระทรวงกลาโหมชื่อ โก้ เป็นผู้มีความสัมพันธ์กับนายตำรวจใหญ่ในนครบาลใช่ท่านหรือไม่ และมีการตรวจสอบข้อมูลตรงนี้อย่างไร พล.ต.ท.สัณฐาน หัวเราะ แล้วตอบว่า ไม่มีหรอก โก้นครบาล หากมีก็ใส่กุญแจมือแล้ว ตำรวจใหญ่ในนครบาลมีหลายคน คงต้องไปถามนายพร้อมพงศ์อีกทีแล้วกันว่าเป็นใคร
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า เมื่อท่านยืนยันแบบนี้แสดงว่าไม่เกี่ยวข้องกับข่าวที่เกิดขึ้น พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่า ผมไม่ขอตอบดีกว่า เพราะการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้นต้องมีความคืบหน้าเข้ามาเรื่อยๆ
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า จะมีการตรวจสอบในประเด็นนี้อย่างไร ผบช.น.ตอบว่า ต้องตรวจสอบในทุกประเด็นที่มีการพูดกัน ต้องขอบคุณนายพร้อมพงศ์ด้วย ที่พูดประเด็นนี้มาให้เราได้ตรวจสอบ
“ผมขอยืนยันตรงนี้ว่า การทำงานของตำรวจต้องชัดเจน แน่นอน ไม่มีแพะโดยเด็ดขาด เพราะผมไม่ชอบกินแพะอยู่แล้ว งานนี้ไม่มีการแทรกแซงจากการเมืองแน่นอน ทุกอย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา เพราะเมื่อตรงไปตรงมาแล้วคนยิงต้องยุติเสียที” พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าว
พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวถึงคำถามที่ว่า มีการตั้งชุดเฉพาะกิจของ ตร.เพื่อมาดูคดีความมั่นคง เหตุใดจึงไม่ให้มาดูลักษณะนี้ที่เกิดในนครบาลว่า ไม่ทราบ จริงๆ แล้ว คิดว่าข้อมูลของ บช.น. เราเป็นเจ้าของพื้นที่น่าจะรู้ดีกว่าคนอื่น และทุกคนก็มีความสามารถรู้ดีอยู่แล้วหลายคดีที่เราทำได้ และไม่ใช่เพียงคดีนี้ วันนี้ พรุ่งนี้ เรามีข่าวดีคดีอื่นได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐานพร้อมภาพสเกตช์ที่ได้ เพื่อเตรียมขออนุมัติศาลในการออกหมายจับคนร้ายทั้ง 2 คนแล้ว