ผบช.น.รุดตรวจสอบจุดเกิดเหตุระเบิดบริเวณแพร่งภูธร หลังกระทรวงกลาโหมพบคนร้ายใช้เครื่องยิงจรวดอาร์พีจียิงกระทรวงกลาโหมแต่พลาดเป้า แถมยึดกระบะต้องสงสัยบรรทุกอาร์พีจี ระเบิดเอ็ม 67 อาวุธปืนเต็มคันรถไว้ได้
วันนี้ (20 มี.ค.) เมื่อเวลา 22.30 น. พ.ต.ท.ชำนาญ คงเมือง พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.สำราญราษฎร์ รับแจ้งเหตุระเบิดภายในซอยแพร่งภูธร ด้านหลังกระทรวงกลาโหม ถ.อัษฎางค์ แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระบิด กองบังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุพบสายไฟฟ้า สายโทรศัพท์ บริเวณปากซอยขาดเสียหาย พบชิ้นส่วนจรวดอาร์พีจี ตกอยู่ริมคลองหลอดฝั่งถนนอัษฎางค์ เจ้าหน้าที่จึงเก็บให้ไว้เป็นหลักฐาน แรงระเบิดทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย กระจกหน้าต่างแตก นอกจากนี้ยังพบรอยสีขาวกว้าง 15 ซม. ผ้าไหม้ไฟ และเศษกระจกรถยนต์แตกกระจายบนพื้นถนนด้านหน้าร้านชุบบุญชัย ห่างจากปากซอย 15 เมตร ขณะเดียวกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งเป็นเจ้าหน้าเก็บขยะของกรุงเทพมหานครที่ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณแขนซ้ายบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่นำส่ง รพ.วชิรพยาบาล แพทย์ทำการรักษาบาดแผลก่อนอนุญาตให้กลับบ้านได้
ต่อมาเจ้าหน้าที่พบรถต้องสงสัยจอดอยู่ด้านข้างโรงแรมสิริมิตร ซ.แพร่งสรรพศาสตร์ ห่างจากจุดระเบิดประมาณ 500 เมตร จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์-ทองหมายเลขทะเบียน ตศ 9818 กทม. สภาพรถกระจกแคบด้านหลังคนขับหายไปทั้งบาน กระจกประตูด้านซ้ายแตกเสียหายทั้งบาน มีคราบเขม่าดินปืนติดอยู่ภายในรถตรวจสอบบริเวณที่นั่งภายในแค็บด้านหลังคนขับพบเครื่องยิงจรวดอาร์พีจี 1 กระบอก ระเบิดขว้างสังหารชนิดเอ็ม 67 จำนวน 3 ลูก อาวุธปืนทอมสัน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด 11 มม. 44 นัด เสื้อยืดสีแดงและสีฟ้า สกรีนชื่อ ส.จ.คนหนึ่งใน จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิดได้ทำการตรวจหาสารระเบิดภายในรถ ขณะที่เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ทำการตรวจหาลายนิ้วมือแฝงของคนร้าย
ต่อมา พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. พล.ต.ท.ตรีทศ รณฤทธิ์วิชัย ผบช.ส. พล.ต.ต.วิทยา รัตนวิชช์ ผบก.น.6. ดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดย พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวภายหลังตรวจสอบรถกระบะต้องสงสัยว่า จากการตรวจค้นภายในรถคันดังกล่าวพบเครื่องยิงจรวดอาร์พีจีที่มีร่องรอยการใช้งาน 1 กระบอก ระเบิดชนิดเอ็ม 67 จำนวน 3 ลูก อาวุธปืนยี่ห้อทอมสัน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด 11 มม. 20 นัด ส่วนสาเหตุที่สามารถตรวจพบรถต้องสงสัยได้อย่างรวดเร็วเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด หลังจากนี้ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.น.6 ได้ทำการสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุ ทราบว่า คนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 20-30 ปี ก่อนเกิดเหตุขับรถกระบะคันดังกล่าวมาจอดที่บริเวณกลางซอยแพร่งภูธร จากนั้น 1 ใน 2 คนร้ายซึ่งใส่เสื้อสีดำ สวมหมวกแก๊ปปิดบังใบหน้า ขณะที่ชายอีกคนซึ่งอยู่ในรถได้ยิงจรวดอาร์พีจีจากภายในรถใส่กระทรวงกลาโหม แต่เนื่องจากจรวดพุ่งไปติดสายไฟฟ้าบริเวณปากซอยแพร่งภูธร จนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ชิ้นส่วนจรวดกระเด็นไปตกบริเวณริมคลองหลอด นอกจากนี้ แรงอัดจากการยิงจรวดทำให้กระจกรถกระบะด้านซ้ายแตกเสียหาย จากนั้นคนร้ายจึงได้ขับรถกระบะที่ก่อเหตุหลบหนีมาจอดทิ้งที่บริเวณข้างโรงแรมสิริมิตร ก่อนที่คนร้ายทั้ง 2 คนจะเดินไปยังถนนราชดำเนิน
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน กองบังคับการสืบสวน บช.น.ได้ทำการตรวจเช็กทะเบียนรถกระบะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ทราบว่าเป็นทะเบียนปลอม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เช็กเลขทะเบียนที่ตัวถังรถ ทราบว่าเป็นรถทะเบียน จ.สงขลา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบหาเจ้าของรถที่แท้จริงมาทำการสอบปากคำต่อไป
เมื่อเวลา 00.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม รับแจ้งเหตุพบวัตถุต้องสงสัยวางอยู่ บนฟุตปาธติดกับเชิงสะพานปิ่นเกล้า ด้านหน้าสำนักงานสรรพากรภาค 3 ถ.เจ้าฟ้า แขวงตลาดยอด เขตพระนคร กทม. เจ้าหน้าที่จึงได้นำยางรถยนต์มาครอบเอาไว้ พร้อมกันประชาชนให้ออกห่างจากจุดเกิดเหตุ ก่อนประสานเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิดมาทำการตรวจสอบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำลายวงจรระเบิด ก่อนเข้าตรวจสอบ เบื้องต้นพบเป็นเพียงระเบิดปลอมที่มีการใช้โทรศัพท์มือถือพันด้วยเทปกาวสีดำอยู่ภายในกล่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก มีการต่อสายไฟออกมาด้านนอก มีไฟกะพริบ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าคนร้ายต้องการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวาย