รอง ผบช.น.แจงเส้นทางหางแดงเลื้อยผ่าน แนะ ประชาชนหลีกเลี่ยง ขณะกำลังทหารมีเพียงโล่-กระบองยืนหน้ากระดานแถวเรียงหนึ่งซ้อนกันเป็นชั้น หลังลวดหนามสกัดกั้นเสื้อแดงรุกล้ำเข้าพื้นที่ ด้าน “สาวกแม้ว” ส่วนใหญ่เป็นคนแก่ได้เดินขบวน-นั่งรถกระบะเต็มคันถึงราบ 11 แล้ว ทำให้การจราจรติดขัดเป็นอัมพาตถึงขั้นปิดเส้นทางบางส่วนไปโดยปริยาย
วันนี้ (15 มี.ค.) พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า การเคลื่อนขบวนของผู้ชุมนุมเสื้อแดงไปยังกองพลทหารราบที่ 11 จะใช้เส้นทางจากผ่านฟ้าฯ ถนนหลานหลวง ไปยมราช ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ เลี้ยวเข้าพญาไท ผ่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เข้าพหลโยธินตลอดสาย เส้นทางสะพานควาย รัชโยธิน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หากไม่มีความจำเป็น ในช่วงเวลาประมาณ 09.00 น. ขอให้ประชาชนเลี่ยงเส้นทางเหล่านี้ไว้ก่อน
อย่างไรก็ตาม ตำรวจจราจรได้เตรียมพร้อมแล้ว รวมทั้ง 7 โรงพักที่เกี่ยวข้องจะจัดกำลังตามแยกต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวก หากขบวนยาวก็ต้องตัดให้รถที่วิ่งขวางไปได้บ้าง
ทั้งนี้จะดูแลให้กระทบประชาชนน้อยที่สุด และเปิดพื้นที่โดยเร็วเมื่อขบวนผ่านไปแล้ว ซึ่งขณะเคลื่อนผ่านก็เท่ากับปิดการจราจรโดยปริยาย
พล.ต.ต.ภาณุ ยอมรับว่า ขณะอยู่ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ อาจจะทำให้รถติดเป็นวงกลมหลายสาย จึงขอให้หลีกเลี่ยงการเดินทางในเวลาดังกล่าว
ส่วนการสอบถามผ่าน 1197 ขณะนี้อาจไม่ได้รับความสะดวก สายเต็มตลอด จึงขอให้ติดตามข่าวสารผ่านสื่ออื่นๆ ทั้งโทรทัศน์ วิทยุ รวมทั้งผ่านทาง จส.100 หรือ สวพ.91
ทางด้าน สน.บางเขน รับหน้าที่ดูแลการจราจรบริเวณด้านหน้ากรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ซึ่งการจราจรขณะนี้ยังถือว่าคล่องตัว แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันปกติ ไม่ได้เป็นวันหยุดราชการ โดยสน.บางเขนมีการจัดกำลังตำรวจจราจร 36 นาย ดูแลพื้นที่ถนนพหลโยธินขาเข้า-ขาออก ถนนรามอินทราช่วงแยกลาดปลาเค้า รวมทั้งบริเวณใกล้เคียง โดยหากมีการปิดการจราจรเกิดขึ้น ในช่วงที่กลุ่ม นปช.จะเคลื่อนมาชุมนุม บริเวณกรมทหารราบที่ 11 ในช่วงเที่ยงนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 08.30 น. กลุ่มคนเสื้อแดงจัดขบวนรถยนต์มุ่งหน้าสู่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ซึ่งในวันนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเข้าประชุมศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ร่วมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ในฐานะ ผอ.ศอ.รส. และผู้บัญชาการเหล่าทัพ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อไปเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา โดยแกนนำภาคต่างๆ แบ่งหน้าที่ควบคุมผู้ชุมนุม อย่างไรก็ตาม การเดินทางในครั้งนี้ คนเสื้อแดงบางส่วนยังคงปักหลักชุมนุมอยู่ที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ายึดพื้นที่
เวลา 09.20 น. กลุ่มคนเสื้อแดงได้เคลื่อนขบวนยาวเยียดผ่านวงเวียนบางเขนเต็มถนนทั้ง 3 เลน แถววัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ชุมนุมจะเป็นคนสูงวัย นั่งเต็มคันรถกระบะได้โบกไม้โบกมือ ให้ผู้คนที่นั่งเฝ้ามองรถติดอยู่ที่ฝั่งตรงข้าม เพื่อมุ่งหน้าไปยังกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ และหัวขบวนตอนนี้ถึงเวลา 09.40 น.ผู้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนถึงกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์แล้ว ส่วนการจราจรด้านหน้าปิดไปโดยปริยาย
เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 3,000 คน รวมถึงบางส่วนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์กว่า 500 คัน ได้นำขบวนผู้ชุมนุมมาปักหลักเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรียุบสภา โดยบริเวณด้านหน้าเจ้าหน้าที่ทหารมีโล่ กระบอก ตรึงกำลังเข้มงวดหลายกองร้อย พร้อมทั้งมีรั้วลวดหนามวางปิดสกัดกั้นผู้ชุมนุมเข้าไปในพื้นที่ตลอดแนว ซึ่งได้วางกำลังเป็นชั้นๆ ยืนเรียงหน้ากระดานตลอดแนวด้านหน้ากรมทหารราบที่ 11 โดยผู้ชุมนุมส่วนใหญ่จะจับจองที่นั่งอยู่บริเวณถนนพื้นผิวการจราจร ส่งผลให้การจราจรปิดไปโดยปริยาย ถ้าประชาชนจะสัญจรไปเส้นทางดังกล่าวให้หลีกเลี่ยงไปยังเส้นทางถนนวิภาวดีแทน
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่บริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ กลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางมารวมตัวกันครบเรียบร้อยแล้ว โดยขบวนสุดท้ายนำโดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยทั้งภายใน และภายนอกกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ อย่างเข้มงวด มีกำลังทหารพร้อมโล่ และกระบองยืนเป็นแนวรักษาความปลอดภัยในทุกบริเวณโดยรอบ และมีการเตรียมความพร้อมหากกลุ่มผู้ชุมุนุมจะบุกรุกเข้ามาภายในกองบัญชาการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารได้เตรียมยุทโธปกรณ์เตรียมพร้อมจำนวนมาก ทั้งรถหุ้มเกราะ รถฮัมวี่ รถบรรทุกทหาร รถฉีดน้ำ รวมถึงเฮลิคอปเตอร์ โดยกำลังทหารทั้งหมดจะอยู่ภายในร. 11 รอ.เท่านั้น ไม่ออกไปบริเวณภายนอก โดยมีกำลังตำรวจบางส่วนดูแลการจราจรและความปลอดภัยอยู่ด้านนอก
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เจ้าหน้าที่ทหารได้ใช้เครื่องขยายเสียงเปิดเพลงและปราศรัยทักทายกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นระยะๆ ทำให้กลุ้มผู้ชุมนุมไม่พอใจ พร้อมทั้งประกาศว่าหากทหารไม่หยุดฟังการปราศรัยของกลุ่มคนเสื้อแดงก็จะทำการบุกเข้าไปภายในกองบัญชาการทันที ทำให้เจ้าหน้าที่หทารต้องปิดเพลงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง และได้เกิดการกระทบกระทั่งกันเองระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงด้วยกัน เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว แต่ทางกลุ่มเสื้อแดงก็สามารถคุมสถานกาณ์ของกลุ่มตัวเองไว้ได้
เวลา 11.00 น. นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำ นปช.ได้ประกาศว่าหากรัฐบาลไม่รับข้อเสนอยุบสภา ทางผู้ชุมนุมก็มีมาตรการขั้นสูงสุดจัดการอยู่แล้ว ขณะเดียวกันนายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำ นปช.ได้เดินทางมาร่วมสมทบปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาลต่อเนื่อง
วันนี้ (15 มี.ค.) พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า การเคลื่อนขบวนของผู้ชุมนุมเสื้อแดงไปยังกองพลทหารราบที่ 11 จะใช้เส้นทางจากผ่านฟ้าฯ ถนนหลานหลวง ไปยมราช ถ.เพชรบุรีตัดใหม่ เลี้ยวเข้าพญาไท ผ่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เข้าพหลโยธินตลอดสาย เส้นทางสะพานควาย รัชโยธิน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หากไม่มีความจำเป็น ในช่วงเวลาประมาณ 09.00 น. ขอให้ประชาชนเลี่ยงเส้นทางเหล่านี้ไว้ก่อน
อย่างไรก็ตาม ตำรวจจราจรได้เตรียมพร้อมแล้ว รวมทั้ง 7 โรงพักที่เกี่ยวข้องจะจัดกำลังตามแยกต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวก หากขบวนยาวก็ต้องตัดให้รถที่วิ่งขวางไปได้บ้าง
ทั้งนี้จะดูแลให้กระทบประชาชนน้อยที่สุด และเปิดพื้นที่โดยเร็วเมื่อขบวนผ่านไปแล้ว ซึ่งขณะเคลื่อนผ่านก็เท่ากับปิดการจราจรโดยปริยาย
พล.ต.ต.ภาณุ ยอมรับว่า ขณะอยู่ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ อาจจะทำให้รถติดเป็นวงกลมหลายสาย จึงขอให้หลีกเลี่ยงการเดินทางในเวลาดังกล่าว
ส่วนการสอบถามผ่าน 1197 ขณะนี้อาจไม่ได้รับความสะดวก สายเต็มตลอด จึงขอให้ติดตามข่าวสารผ่านสื่ออื่นๆ ทั้งโทรทัศน์ วิทยุ รวมทั้งผ่านทาง จส.100 หรือ สวพ.91
ทางด้าน สน.บางเขน รับหน้าที่ดูแลการจราจรบริเวณด้านหน้ากรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ซึ่งการจราจรขณะนี้ยังถือว่าคล่องตัว แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันปกติ ไม่ได้เป็นวันหยุดราชการ โดยสน.บางเขนมีการจัดกำลังตำรวจจราจร 36 นาย ดูแลพื้นที่ถนนพหลโยธินขาเข้า-ขาออก ถนนรามอินทราช่วงแยกลาดปลาเค้า รวมทั้งบริเวณใกล้เคียง โดยหากมีการปิดการจราจรเกิดขึ้น ในช่วงที่กลุ่ม นปช.จะเคลื่อนมาชุมนุม บริเวณกรมทหารราบที่ 11 ในช่วงเที่ยงนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 08.30 น. กลุ่มคนเสื้อแดงจัดขบวนรถยนต์มุ่งหน้าสู่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ซึ่งในวันนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเข้าประชุมศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ร่วมกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ในฐานะ ผอ.ศอ.รส. และผู้บัญชาการเหล่าทัพ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อไปเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา โดยแกนนำภาคต่างๆ แบ่งหน้าที่ควบคุมผู้ชุมนุม อย่างไรก็ตาม การเดินทางในครั้งนี้ คนเสื้อแดงบางส่วนยังคงปักหลักชุมนุมอยู่ที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ายึดพื้นที่
เวลา 09.20 น. กลุ่มคนเสื้อแดงได้เคลื่อนขบวนยาวเยียดผ่านวงเวียนบางเขนเต็มถนนทั้ง 3 เลน แถววัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ชุมนุมจะเป็นคนสูงวัย นั่งเต็มคันรถกระบะได้โบกไม้โบกมือ ให้ผู้คนที่นั่งเฝ้ามองรถติดอยู่ที่ฝั่งตรงข้าม เพื่อมุ่งหน้าไปยังกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ และหัวขบวนตอนนี้ถึงเวลา 09.40 น.ผู้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนถึงกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์แล้ว ส่วนการจราจรด้านหน้าปิดไปโดยปริยาย
เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 3,000 คน รวมถึงบางส่วนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์กว่า 500 คัน ได้นำขบวนผู้ชุมนุมมาปักหลักเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรียุบสภา โดยบริเวณด้านหน้าเจ้าหน้าที่ทหารมีโล่ กระบอก ตรึงกำลังเข้มงวดหลายกองร้อย พร้อมทั้งมีรั้วลวดหนามวางปิดสกัดกั้นผู้ชุมนุมเข้าไปในพื้นที่ตลอดแนว ซึ่งได้วางกำลังเป็นชั้นๆ ยืนเรียงหน้ากระดานตลอดแนวด้านหน้ากรมทหารราบที่ 11 โดยผู้ชุมนุมส่วนใหญ่จะจับจองที่นั่งอยู่บริเวณถนนพื้นผิวการจราจร ส่งผลให้การจราจรปิดไปโดยปริยาย ถ้าประชาชนจะสัญจรไปเส้นทางดังกล่าวให้หลีกเลี่ยงไปยังเส้นทางถนนวิภาวดีแทน
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่บริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ กลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางมารวมตัวกันครบเรียบร้อยแล้ว โดยขบวนสุดท้ายนำโดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยทั้งภายใน และภายนอกกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ อย่างเข้มงวด มีกำลังทหารพร้อมโล่ และกระบองยืนเป็นแนวรักษาความปลอดภัยในทุกบริเวณโดยรอบ และมีการเตรียมความพร้อมหากกลุ่มผู้ชุมุนุมจะบุกรุกเข้ามาภายในกองบัญชาการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารได้เตรียมยุทโธปกรณ์เตรียมพร้อมจำนวนมาก ทั้งรถหุ้มเกราะ รถฮัมวี่ รถบรรทุกทหาร รถฉีดน้ำ รวมถึงเฮลิคอปเตอร์ โดยกำลังทหารทั้งหมดจะอยู่ภายในร. 11 รอ.เท่านั้น ไม่ออกไปบริเวณภายนอก โดยมีกำลังตำรวจบางส่วนดูแลการจราจรและความปลอดภัยอยู่ด้านนอก
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เจ้าหน้าที่ทหารได้ใช้เครื่องขยายเสียงเปิดเพลงและปราศรัยทักทายกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นระยะๆ ทำให้กลุ้มผู้ชุมนุมไม่พอใจ พร้อมทั้งประกาศว่าหากทหารไม่หยุดฟังการปราศรัยของกลุ่มคนเสื้อแดงก็จะทำการบุกเข้าไปภายในกองบัญชาการทันที ทำให้เจ้าหน้าที่หทารต้องปิดเพลงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง และได้เกิดการกระทบกระทั่งกันเองระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงด้วยกัน เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว แต่ทางกลุ่มเสื้อแดงก็สามารถคุมสถานกาณ์ของกลุ่มตัวเองไว้ได้
เวลา 11.00 น. นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำ นปช.ได้ประกาศว่าหากรัฐบาลไม่รับข้อเสนอยุบสภา ทางผู้ชุมนุมก็มีมาตรการขั้นสูงสุดจัดการอยู่แล้ว ขณะเดียวกันนายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำ นปช.ได้เดินทางมาร่วมสมทบปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาลต่อเนื่อง