คณะอนุฯ ตรวจสอบซื้อขายตำแหน่งดีเดย์ประชุมนัดแรก

คณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงซื้อขายตำแหน่งชุดใหม่ที่มี “เบญจวรรณ สร่างนิทร” เลขาฯ ก.พ.เป็นประธาน ประชุมนัดแรกถกข้อมูลโผแต่งตั้งชุดเก่ามาดูอีกครั้ง เพื่อหามูลเหตุการแต่งตั้งโยกย้ายที่มีปัญหาครั้งผ่านมา


วันนี้ (5 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นางเบญจวรรณ สร่างนิทร เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ. ในฐานะคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงซื้อขายตำแหน่ง ที่ห้องประชุมชั้น 2 ตร. โดยมีคณะกรรมการประกอบด้วย พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัตร รอง ผบ.ตร. โดยคณะอนุกรรมการชุดนี้ ก.ตร.ได้ตั้งขึ้นใหม่

นางเบญจวรรณกล่าวภายหลังการประชุมว่า วันนี้เป็นการประชุมคณะอนุกรรมการชุดนี้ครั้งแรก ก็จะนำข้อมูลของคณะอนุกรรมการชุดเก่าที่สอบไว้แล้วมาดูด้วย ตอนนี้ยังคุยกันเบื้องต้นเท่านั้น แล้วฝ่ายเลขาฯจะไปกำหนดกรอบการสืบสวนและเวลา โดยต้องลงไปที่ที่มาที่ไป มูลเหตุตั้งแต่ต้น ทั้งนี้การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการชุดตนขึ้นมาไม่ได้เป็นความขัดแย้งในก.ตร.แต่อย่างใด

ด้าน พล.ต.อ.นพดล สมบูรณ์ทรัพย์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ และเป็นอดีตคณะอนุกรรมการตรวจสอบการซื้อขายตำแหน่งเมื่อครั้งมีนายสมศักดิ์ บุญทอง เป็นประธาน กล่าวว่า ในที่ประชุม ก.ตร.เห็นว่าควรตั้งคณะกรรมใหม่ก็มีการตั้งขึ้น ส่วนจะสอบสวนประเด็นเดิมหรือประเด็นใหม่ก็แล้วแต่คณะกรรมการชุดนี้

พล.ต.อ.นพดล กล่าวต่อว่า การสอบสวนการซื้อขายตำแหน่งครั้งที่ผ่านมาเราก็มุ่งหวังว่าให้การซื้อขายตำแหน่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติยุติเสียที แต่คณะกรรมการชุดเราก็ได้เท่านี้ และในครั้งนี้ก็ดีขึ้นอย่างคนที่ไม่ครบ 2 ปี ปกติจะไม่ให้โยกย้าย ยกเว้นแต่มีความจำเป็นและประโยชน์ทางราชการอย่างยิ่ง ครั้งนี้ก็มี พล.ต.ท.เอก อังสนานนท์ ผช.ผบ.ตร.เป็นประธานพิจารณาว่ามีความจำเป็นอย่างไร เหมาะสมหรือไม่ มันก็สกรีนออกมาได้ดีมาก ตำรวจทุกคนก็รู้สึกว่าเราจะขยันทำงาน ถ้าเราไม่ถูกร้องเรียน ทำงานไม่ผิดพลาด เราจะไม่ถูกย้าย ก็ไม่ต้องวิ่งเต้น

เมื่อถามว่า การแต่งตั้งครั้งที่ผ่านมาก็พบว่ามีการซื้อขายตำแหน่งด้วยเช่นกัน พล.ต.อ.นพดล กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่ามีการซื้อขายตำแหน่งเพราะไม่ได้เป็นผู้สืบสวนสอบสวน ก็ฟังจากข่าวหนังสือพิมพ์ ส่วนการซื้อขายตำแหน่งนั้น จริงๆ ถ้าไล่ให้จบก็ได้ และการทำหน้าที่ของคณะกรรมการในชุดแรกนั้นก็ทำอย่างดีที่สุดแล้ว ไม่รู้สึกน้อยใจแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวถามว่า สาเหตุการตั้งคณะกรรมการชุดใหม่นี้เป็นเพราะมีการเปิดเผยข้อมูลการฝากตำรวจกลางที่ประชุม ก.ตร.หรือไม่ พล.ต.อ.นพดล กล่าวว่า ก็แล้วแต่คนจะตีความ แต่ต้องยอมรับว่า สังคมไทยก็มีการฝากตั้งแต่อนุบาลแล้ว เราเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ น้องๆ เข้ามาหาขอความเป็นธรรมบ้าง ขอการอนุเคราะห์บ้าง ว่าเขาควรจะได้รับการแต่งตั้ง แต่เขาไม่ได้ ถ้ามีใครรับรองมาก็น่าจะได้ ปกติแล้วสังคมไทยก็เป็นแบบนี้

เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่า ผลการสอบครั้งที่ผ่านมาที่คณะอนุกรรมการระบุว่ามีมูลการซื้อขายตำแหน่ง และควรให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาตรวจสอบ ไม่เป็นที่น่าพอใจของ ก.ตร. จนต้องมีการตั้งคณะอนุกรรมการใหม่ขึ้นมา พล.ต.อ.นพดล กล่าวสั้นๆ ว่า ถ้าผลการสอบนั้นถูกใจก็คงไม่ต้องตั้งใหม่