xs
xsm
sm
md
lg

“ปทีป” สั่งจับตา “เคทอง” แพร่คลิปทำนายวินาศกรรมผ่านยูทิวบ์

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

“ปทีป” สั่งเพิ่มกำลังตำรวจตั้งด่านตรวจเข้มงวด ป้องกันเหตุร้าย เน้นประเมินสถานการณ์วันต่อวัน พร้อมสั่งการให้เฝ้าติดตามข่าวคลิป “เคทอง” เผยแพร่ผ่านยูทิวบ์ต่อเนื่อง ย้ำยังตอบไม่ได้เหตุระเบิดแบงก์กรุงเทพ 4 จุด กับในพื้นที่สมุทรปราการเชื่อมโยงกันหรือไม่


 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ  ให้สัมภาษณ์ 
 
วันนี้ (2 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร.ให้การต้อนรับพลเอกเล ห่ง แอ็ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะเวียดนาม เพื่อลงนามความตกลงว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ทั้งยาเสพติด การลักลอบค้าอาวุธ การลักลอบค้าผู้หญิงและเด็ก การก่อการร้าย อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านความมั่นคงของทั้งสองประเทศ และเป็นไปตามโครงการแลกเปลี่ยนบุคลากรระหว่าง ตร.และกระทรวงความมั่นคงสาธารณะเวียดนามเป็นกรณีพิเศษ

พล.ต.อ.ปทีป กล่าวภายหลังการเข้าพบว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะเวียดนาม มาเยี่ยมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการคุยแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์ และปัญหาที่จะต้องประสานกันระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ได้ปฏิบัติไปแล้ว คือ โครงการแลกเปลี่ยนนักเรียนนายร้อยตำรวจไทยและนักเรียนนายร้อยตำรวจเวียดนาม และมีโครงการแลกเปลี่ยนนายตำรวจไทย และนายตำรวจเวียดนาม ซึ่ง 2 โครงการนี้ได้ดำเนินการไปแล้ว

พล.ต.อ.ปทีป กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ทางตำรวจเวียดนามได้เชิญตำรวจไทยในโอกาสที่กระทรวงความมั่นคงครบรอบ 65 ปี ในเดือนสิงหาคมของปีนี้ ก็อยากจะเรียนเชิญตำรวจไทย และตำรวจอาเซียนทั้งหมดไปร่วมงาน

พล.ต.อ.ปทีป กล่าวถึงเหตุระเบิดในพื้นที่ภาคใต้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่าเท่าที่ได้รับรายงานจากพล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฎฐ์ ผู้บัญชาการตำรวจศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่ามีเหตุระเบิดประมาณ 7 จุด ใน จ.นราธิวาส พื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก และอำเภออื่นๆ กระจายกันไป ซึ่งตอนนี้ให้ทางหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี) ไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ โดยเท่าที่ทราบเบื้องต้นไม่มีผู้ใดเสียชีวิต ซึ่งบางจุดทรัพย์สินเสียหายและบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่เกิดที่หน้าธนาคาร

ส่วนจะเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดหน้าธนาคารกรุงเทพในพื้นที่กรุงเทพฯ และสมุทรปราการหรือไม่นั้น ยังตอบไม่ได้ขอให้ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุก่อน และให้ตำรวจท้องที่ไปดูรายละเอียดก่อนว่าจะมีความเกี่ยวพันกับเหตุใน กทม.หรือไม่ เพราะเหตุเพิ่งเกิดขึ้น

“สำหรับสถานการณ์ระเบิดตามสถานที่ต่างๆ รวมทั้งการปาอุจจาระหน้าพรรคประชาธิปัตย์นั้น จะประเมินสถานการณ์ว่าจะรุนแรงขึ้น หรือเบาลงนั้นต้องดูสถานการณ์ด้านการข่าวต่อไปทุกๆ วัน แต่สิ่งที่บอกทุกครั้ง คือ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในขณะนี้ได้เพิ่มจุดตรวจหรือด่านมากขึ้น เพิ่มกำลังสายตรวจมากขึ้น และให้ทางด้านหน่วยสืบสวน รวมทั้งกองบัญชาการตำรวจสันติบาลลงไปติดตามหาข่าวอย่างใกล้ชิดทุกระยะ นอกเหนือจากนี้ ทาง บช.น.พยายามหาอาสาสมัครเข้ามาช่วย ล่าสุดเมื่อวานนี้ได้ขอความร่วมมือ จยย.รับจ้างช่วยหาข่าวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทุกวันนี้ทางตร. อยากจะขอความร่วมมือประชาชนในเรื่องของข่าวสารข้อมูล หากเจออะไรที่ผิดปกติก็รีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบจะได้ช่วยแก้ปัญหาให้” รรท.ผบ.ตร. กล่าว

พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า สำหรับเหตุระเบิด 4 จุดใน กทม.และสมุทรปราการนั้น มีความเกี่ยวเนื่องกันหรือไม่ ยังตอบไม่ได้เพียงแต่ตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะมีความเกี่ยวเนื่องกัน ซึ่งตอนนี้ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ภาณุพงษ์ สิงหรา ณ อยุธยา ที่ปรึกษาสบ 10 เข้าไปดูทั้งระเบิดในกทม. และสมุทรปราการ เพื่อจะดูว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่อย่างไร ส่วนระเบิดที่พบนั้นเป็นระเบิดมือ ซึ่งถือเป็นยุทธภัณฑ์ที่ใครมีไว้ครอบครองถือว่าผิดแต่คงตอบไม่ได้ว่ามาจากทางตำรวจ ทหาร หรือมาจากไหน

ผู้สื่อข่าวถามว่าระเบิด 4 จุด เชื่อมโยงกับกลุ่มเสื้อแดงหรือไม่ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า อย่าไปสันนิษฐานแบบนั้นให้ทางพนักงานสอบสวนดำเนินการไป ส่วนจะเกี่ยวโยงกับการเมืองหรือไม่ตนเองตอบไม่ได้

ต่อข้อถามที่ว่าเหตุระเบิดทุกครั้งไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ การออกหมายจับก็เป็นแค่หมายกระดาษ รรท.ผบ.ตร. กล่าวว่า กรณีนี้เราได้ออกหมายจับ โดยทราบตัวบุคคลไปแล้ว ส่วนจะได้ตัวหรือไม่ต้องให้พนักงานสืบสวนสอบสวนดำเนินการอีกสักระยะ

ผู้สื่อข่าวถามถึงคลิปของนายเคทองที่เผยแพร่ผ่านทางยูยูทิวบ์ว่าจะเกิดเหตุระเบิดก่อนที่จะมีเหตุระเบิด 4 จุด พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า ตนเองได้ดูคลิปดังกล่าวแล้ว เห็นว่าเป็นเรื่องทางการข่าว ซึ่งเราก็ต้องติดตามดู โดยได้สั่งการให้เฝ้าติดตามข่าวดังกล่าวอยู่ เหมือนที่เราต้องให้ความสำคัญกับทุกข่าวที่เข้ามา

ต่อข้อถามที่ว่าหากเสื้อแดงเข้ามาเป็นจำนวนมากจะรับมือไหวหรือไม่ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า ความพร้อมในการปฏิบัติยืนยันว่าทั้งตำรวจและทหารมีความพร้อมในการปฏิบัติงานอยู่แล้ว ซึ่งจะเป็นการระดมกำลังมาช่วย หากมีประชาชนเสื้อแดงเข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็จำตัวเลขไม่ได้ว่าขอความร่วมมือจากทหารเท่าไหร่ แต่ในเขตกรุงเทพฯ เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง ตำรวจ ทหาร และมีอาสาสมัคร
พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร.

กำลังโหลดความคิดเห็น