ตำรวจ ปส.บุกเมืองปทุม ทลายแหล่งปั๊มยานรก

ตำรวจ บช.ปส.สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และตำรวจ สภ.คลองหลวง บุกเมืองปทุม ทลายแหล่งปั๊มยานรก ยึดของกลางยาบ้า 1 หมื่นเม็ด ยาไอซ์ 2 กก. เครื่องปั๊มยาบ้า 1 เครื่อง เผยสามารถผลิตยาบ้าได้ชั่วโมงละ 3 พันเม็ด


วานนี้ (24 ก.พ.) เมื่อเวลา 21.30 น. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.อติเทพ ปัญจมานนท์ ผบช.ปส. พล.ต.ต.หาญพล นิตย์วิบูลย์ รองผบช.ปส. พล.ต.อ.กฤษณะ ผลอนันต์ เลขาธิการ ป.ป.ส.นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการพิเศษสยบไพรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.คลองหลวง เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 33/221 หมู่บ้านภัสสร 1 รังสิตคลอง 3 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว สูง 2 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 200 ตารางวา หลังจากสืบสวนขยายผลว่าเป็นแหล่งผลิตยาบ้า และซุกซ่อนยาเสพติดจำนวนมาก

พล.ต.ท.อติเทพ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเย็นของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. ได้ทำการจับกุมตัวนายนุ ใจมา อายุ 37 ปี ชาวจังหวัดแพร่ ผู้ต้องหาที่ทาง บช.ปส.สืบทราบว่าพัวพันกับแก๊งค้ายาเสพติด โดยจับกุมได้ขณะที่ผู้ต้องหาขับรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีเทา หมายเลขทะเบียน 7 อ 9405 กทม.ขึ้นไปที่ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการตั้งด่านเอาไว้ จากนั้นได้ควบคุมตัวมาสอบปากคำเพื่อทำการขยายผล จนกระทั่งทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นแหล่งผลิตและซุกซ่อนยาเสพติด

พล.ต.ท.อติเทพ กล่าวอีกว่า จากการตรวจค้นภายในบ้านพบยาบ้าจำนวน 10,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่บนห้องเก็บของชั้น 2 ยาไอซ์ จำนวน 2 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในตู้เสื้อผ้าบนห้องนอนชั้น 2 นอกจากนี้ยังพบเครื่องปั๊มยาบ้าแบบสมบูรณ์ อีก 1 เครื่อง พร้อมทั้งอุปกรณ์และส่วนผสมในการผลิตยาบ้า สำหรับนายนุผู้ต้องหาที่จับกุมได้นั้นเป็นหนึ่งในเป้าหมายของ บช.ปส. เจ้าหน้าที่ได้รสืบทราบว่ามีบ้านหลังหนึ่งย่าน จ.ปทุมธานี เป็นแหล่งผลิตยาบ้าแต่ยังไม่รู้ว่าหลังไหน จนกระทั่งจับกุมผู้ต้องหาและขยายผลได้ สำหรับเครื่องปั๊มยาบ้าที่ตรวจค้นได้ในวันนี้ถือว่าเป็นเครื่องปั๊มยาบ้าที่สมบูรณ์ที่สุด สามารถผลิตยาบ้าได้ชั่วโมงละ 3,000 เม็ด ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกที่สามารถจับกุมได้ เนื่องจากการจับกุมเครื่องปั๊มยาบ้าที่คลองเตยถือว่ายังอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์เพราะขาดหัวปั๊ม

“ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้มีการสกัดกั้นการลำเลียงยาบ้าที่จะเข้ามาทางชายแดนอย่างเข้มงวด และมีการจับกุมอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นไปได้ที่อาจทำให้กลุ่มผู้ค้ายาบ้านำเครื่องปั๊มมาตั้งไว้ในใจกลางกรุงและแถบชานเมือง เพื่อผลิตยาจำหน่ายได้เองโดยไม่ต้องลำเลียงซุกซ่อนเข้ามา ขณะนี้พื้นที่ในการเฝ้าระวังมีอยู่ 5 จุดที่สำคัญ คือ 1.จังหวัดนนทบุรี 2.จังหวัดปทุมธานี 3.จังหวัดสมุทรปราการ 4.จังหวัดสมุทรสงคราม และ 5.จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นแหล่งที่ตำรวจ บช.ปส.ต้องจับตาดูเป็นพิเศษ ส่วนผู้ต้องหารายนี้จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งค้ายาย่านคลองเตยที่เคยถูกจับกุมหรือไม่นั้นจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นทราบว่าการปั๊มยาบ้าที่บ้านหลังนี้จะใช้ห้องใต้บันไดเป็นที่ปั๊ม หลังจากนี้จะต้องทำการตรวจสอบชื่อเจ้าของบ้านและรถยนต์ที่นายนุเป็นคนขับขี่ขณะเดินทางไปที่ จ.นครสวรรค์ ว่าเป็นของใคร” พล.ต.ท.อติเทพ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจค้นและสอบปากคำนายนุอยู่นั้นได้มีผู้ต้องหาอีก 1 ราย นั่งแท็กซี่กลับเข้ามาที่บ้านหลังดังกล่าวพอดี โดยที่ไม่ได้เอะใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวเอาไว้ ทราบชื่อภายหลังคือ นายชนาภัทร กึกก้อง

จากการสอบสวนนายนุให้การรับสารภาพว่า มีหน้าที่เฝ้าบ้านหลังดังกล่าวให้กับนาย อู๋ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ได้ค่าจ้างเดือนละ 50,000 บาท แต่เพิ่งจะเข้ามาอยู่ได้ไม่นาน โดยตนรู้จักกับคนชื่ออู๋ผ่านทางเพื่อนอีกทอดหนึ่ง ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ก.ย.2551 ที่ผ่านมา ตนถูกออกหมายจับข้อหาลักทรัพย์ในท้องที่ สภ.เมืองพิจิตร แต่อยู่ระหว่างหลบหนี จึงต้องทิ้งภรรยาและลูกเข้ามาทำงานกับนายอู๋ที่กรุงเทพฯ เพื่อต้องการหาเงิน ส่วนบ้านหลังนี้จะอยู่ด้วยกัน 3 คน คือ ตนเอง นายชนาภัทร และนายอู๋ แต่วันนี้นายอู๋ไม่ได้เข้ามาที่บ้าน ปกติแล้วนายอู๋จะเข้ามากับชายชาวจีน 1 คน อาทิตย์ละไม่กี่ครั้ง โดยให้ตนไปรับที่หน้าปากซอยเพื่อมาผลิตยาบ้า ส่วนตนก็จะคอยเปิดเพลงเพื่อกลบเสียงของเครื่องปั๊ม ที่ผ่านมาตั้งแต่ตนมาอยู่เพิ่งจะผลิตยาบ้าไปได้ไม่มากนัก

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันกับบุคคลที่หลบหนีมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย, ผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) เพื่อจำหน่าย ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.และสืบสวนขยายผลติดตามตัวผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป