xs
xsm
sm
md
lg

นครบาลติวเข้มแผนความปลอดภัยวันตัดสิน “คดียึดทรัพย์แม้ว”

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น.
นครบาลติวเข้มแผนความปลอดภัยวันตัดสิน “คดียึดทรัพย์แม้ว” ซักซ้อมความเข้าใจข้อกฎหมาย “อำนวย” สั่งดำเนินคดีผู้ชุมนุมหากทำผิดทุกกรณีในพื้นที่ศาล คาดโทษจำคุก 6 เดือน เตรียมกล้องวงจรปิด-ภาพนิ่งชัดเจน ดิ้นไม่หลุด ทุ่มกำลังร่วม 5 พันดูแลความสงบเรียบร้อย แนะผู้ร่วมฟังปฏิบัติตามระเบียบศาลเคร่งครัด


วันนี้ (23 ก.พ.) เมื่อเวลา 15.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบงานด้านการสอบสวน พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล เรียกประชุมนายตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกองกำกับการสืบสวนนครบาล 1 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และพนักงานสอบสวนทุก สน.ในเขตพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ชี้แจงแนวทางปฏิบัติตามแผนรักษาความปลอดภัยองค์คณะผู้พิพากษาและการดูแลความปลอดภัยพื้นที่ศาลฎีกาวันตัดสินคดียึดทรัพย์ 26 ก.พ. รวมถึงการทำความเข้าใจในเรื่องของข้อกฎหมายกรณีผู้ชุมนุมกระทำความผิดในลัษณะต่างๆ โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง

พล.ต.ต.อำนวย กล่าวหลังการประชุมว่า ได้เน้นย้ำเรื่องของกฎหมายและการรวบรวมพยานหลักฐานกรณีที่มีการกระทำความผิดลักษณะต่างๆ พร้อมกำชับให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกตัวที่อยู่โดยรอบบริเวณศาลฎีกาว่าใช้งานได้หรือไม่ เพราะเรามีการติดตั้งกล้องเพิ่มในหลายจุดด้วยกันจากเดิมที่มีอยู่แล้วบางส่วน รวมถึงการวางกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวนทั้งในและนอกเครื่องแบบตามจุดต่างๆ และปะปนกับผู้ชุมนุมทำการบันทึกภาพนิ่งไว้เป็นหลักฐานด้วย ฉะนั้นอยากเตือนไปยังผู้ชุมนุมด้วยว่า อย่าได้ทำอะไรที่ผิดกฎหมายเป็นอันขาด ไม่ว่าจะเป็นการขว้างปาสิ่งของ การก่อเหตุความรุนแรง จะมีภาพหลักฐานปรากฏอย่างชัดเจน และหากอยู่ในพื้นที่ศาลและบริเวณที่กำหนดไว้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมนำตัวส่งศาลได้ทันที ซึ่งมีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล มีอัตราโทษจำคุก 6 เดือนโดยไม่มีการละเว้นใดๆ

ด้าน พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า ในส่วนของกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในวันนั้น ได้จัดเตรียมกำลังตำรวจปราบจลาจลไว้ 3 กองร้อย จำนวน 450 นาย หากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินสามารถเรียกกำลังเสริมเข้ามาได้ภายใน 30 นาที มีเตรียมไว้ 2 กองร้อย 300 นาย แต่หากยังไม่เพียงพอ ก็สามารถเรียกกำลังมาเสริมอีกได้ภายในเวลา 1 ชม.ครึ่ง จำนวน 10 กองร้อย 1,500 นาย และมีกำลังตำรวจหญิงชุดปราบจลาจลอีก 16 กองร้อย 1900 นายวันอ่านคำพิพากษามีการวางกำลังไว้รอบศาลฎีกา นอกจากนี้ยังมีกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบประจำในศาลและบริเวณรอบศาลโดยรอบอีกจำนวนหนึ่ง พร้อมชุดสืบสวนเฝ้าระวังในจุดพื้นที่สูงข่ม พื้นที่จุดยิงวิถีโค้ง และวิถีตรง ซึ่งมีหลายจุดด้วยกันในรอบบริเวณนั้น เราดำเนินการวางกำลังไว้หมดเพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นทุกอย่างอยู่ในแผนรักษาความปลอดภัยของตำรวจนครบาลแล้ว เชื่อว่ากำลังที่มีอยู่จะสามารถดูแลความสงบเรียบร้อยไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงได้

“ช่วงระยะนี้ก่อนจะถึงวันพิพากษาตัดสินคดี เรามีการจัดกำลังตำรวจทำหน้าที่ใน 3 ส่วน คือ ก่อนวันพิพากษา 2.วันอ่านคำพิพากษา และ 3.หลังจากตัดสินคดีเรียบร้อยแล้ว เกรงว่าหลังตัดสินแล้วจะมีบางกลุ่มหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งแสดงความไม่พอใจสร้างสถานการณ์ จึงต้องมีการเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกไว้ส่วนหนึ่ง นอกเหลือจากที่กล่าวมาข้างต้น โดยมีการสนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารด้วย ส่วนในวันตัดสินคดียึดทรัพย์นั้น อยากประชาชนสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนว่า หากไม่จำเป็นก็ให้ฟังรายงานข่าวอยู่ทางบ้านจะดีกว่า เพราะคาดว่าจะมีผู้ที่สนใจเข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก ขณะที่ห้องพิจารณาคดีนั้น สามารถรองรับได้แค่ 200 ที่นั่งเท่านั้น และจะมีเจ้าหน้าที่คอยคัดกรองบุคคลก่อนเข้าไปฟังการพิจารณาได้ โดยผู้เข้าฟังจะต้องมีบัตรประชาชน นับเป็นมาตรการดูแลความปลอดภัยวิธีการหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีจัดเตรียมพนักงานสอบสวนจำนวน 20 นาย คอยรับเรื่องแจ้งความบริเวณศาลด้วยหากมีความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นหรือพบสิ่งพิรุธต้องสงสัยสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลา” พล.ต.ต.วิชัยกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น