รวบเจ้าของโอเกะลวงสาวลาววัย 14 บังคับให้ค้าประเวณีโดยไม่ได้ค่าตอบแทน แถมยังขายเหยื่อให้ร้านอื่นไปบังคับให้ค้าประเวณีซ้ำอีก
วันนี้ (22 ก.พ.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.สุวิชญ์พล อิ่มใจรัชต์ พ.ต.อ.นิพนธ์ เจริญผล รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ผกก.3 บก.ปคม.ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายอภิศักดิ์ หรือแป๊ะ บุญสุข อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/1 หมู่ 2 ต.ห้วยถั่วเหนือ อ.หนองบัว จ.พิจิตร และ นางราตรี หรือแอ็ด มณีโชติ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/4 หมู่ 2 ต.เนินมะกอก อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 422 และ 423/2553 ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2553 ข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี และเพื่อสนองความใคร่ผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี จับกุมได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหาทั้งสอง
พ.ต.อ.สุวิชญ์พล กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ประสานให้ตำรวจ บก.ปคม.ช่วยเหลือ ด.ญ.น้อย (นามสมมติ) อายุ 14 ปี สัญชาติลาว ซึ่งถูกหลอกลวงมาทำงานที่ร้านคาราโอเกะในพื้นที่ จ.พิจิตร เป็นเวลานานนับปี ต่อมา ชุดสืบสวน กก.3 บก.ปคม.พบว่าผู้เสียหายได้ทำงานที่ร้าน “แอ๊ดคาราโอเกะ” ของนางราตรี โดยถูกบังคับให้ค้าบริการทางเพศกับลูกค้าโดยไม่ได้ค่าจ้างแต่อย่างใด จากนั้น ด.ญ.น้อยถูกขายต่อให้ร้าน “บอยคาราโอเกะ” ของนายอภิศักดิ์ ในราคา 5,000 บาท และถูกบังคับให้ค้าประเวณีอีก ต่อมาผู้เสียหายหลบหนีมาขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กระทั่งชุดสืบสวน กก.3 บก.ปคม.ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองมาดำเนินคดีได้
สอบสวนนางราตรีให้การว่า ไม่ได้บังคับผู้เสียหายให้ค้าประเวณีและนั่งดริงก์กับลูกค้าแต่อย่างใด โดยตนให้ทำงานเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มเหมือนๆ กับลูกจ้างคนอื่น นอกจากนี้ผู้เสียหายเป็นฝ่ายมาขอทำงานที่ร้านตนเองก่อนจะหลบหนีไปโดยตนก็ไม่ทราบว่าเด็กได้ไปทำงานอยู่ที่ร้านของนายอภิศักดิ์ ซึ่งตนก็ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน
ด้าน นายอภิศักดิ์กล่าวปฏิเสธว่า ร้านตนไม่ได้มีการค้าบริการทางเพศและไม่เคยบังคับให้ผู้เสียหายค้าประเวณีแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ชุดสืบสวนยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การโดยเชื่อว่ายังมีผู้ร่วมกระทำความผิดอีกซึ่งอยู่ระหว่างขยายผลการจับกุมต่อไป ส่วนผู้ต้องหาทั้งสองได้ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคม.ดำเนินคดีต่อไป


วันนี้ (22 ก.พ.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.สุวิชญ์พล อิ่มใจรัชต์ พ.ต.อ.นิพนธ์ เจริญผล รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ผกก.3 บก.ปคม.ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายอภิศักดิ์ หรือแป๊ะ บุญสุข อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/1 หมู่ 2 ต.ห้วยถั่วเหนือ อ.หนองบัว จ.พิจิตร และ นางราตรี หรือแอ็ด มณีโชติ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/4 หมู่ 2 ต.เนินมะกอก อ.บางมูลนาก จ.พิจิตร ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 422 และ 423/2553 ลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2553 ข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี และเพื่อสนองความใคร่ผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี จับกุมได้ที่บ้านพักของผู้ต้องหาทั้งสอง
พ.ต.อ.สุวิชญ์พล กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ประสานให้ตำรวจ บก.ปคม.ช่วยเหลือ ด.ญ.น้อย (นามสมมติ) อายุ 14 ปี สัญชาติลาว ซึ่งถูกหลอกลวงมาทำงานที่ร้านคาราโอเกะในพื้นที่ จ.พิจิตร เป็นเวลานานนับปี ต่อมา ชุดสืบสวน กก.3 บก.ปคม.พบว่าผู้เสียหายได้ทำงานที่ร้าน “แอ๊ดคาราโอเกะ” ของนางราตรี โดยถูกบังคับให้ค้าบริการทางเพศกับลูกค้าโดยไม่ได้ค่าจ้างแต่อย่างใด จากนั้น ด.ญ.น้อยถูกขายต่อให้ร้าน “บอยคาราโอเกะ” ของนายอภิศักดิ์ ในราคา 5,000 บาท และถูกบังคับให้ค้าประเวณีอีก ต่อมาผู้เสียหายหลบหนีมาขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กระทั่งชุดสืบสวน กก.3 บก.ปคม.ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองมาดำเนินคดีได้
สอบสวนนางราตรีให้การว่า ไม่ได้บังคับผู้เสียหายให้ค้าประเวณีและนั่งดริงก์กับลูกค้าแต่อย่างใด โดยตนให้ทำงานเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มเหมือนๆ กับลูกจ้างคนอื่น นอกจากนี้ผู้เสียหายเป็นฝ่ายมาขอทำงานที่ร้านตนเองก่อนจะหลบหนีไปโดยตนก็ไม่ทราบว่าเด็กได้ไปทำงานอยู่ที่ร้านของนายอภิศักดิ์ ซึ่งตนก็ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน
ด้าน นายอภิศักดิ์กล่าวปฏิเสธว่า ร้านตนไม่ได้มีการค้าบริการทางเพศและไม่เคยบังคับให้ผู้เสียหายค้าประเวณีแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ชุดสืบสวนยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การโดยเชื่อว่ายังมีผู้ร่วมกระทำความผิดอีกซึ่งอยู่ระหว่างขยายผลการจับกุมต่อไป ส่วนผู้ต้องหาทั้งสองได้ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคม.ดำเนินคดีต่อไป