xs
xsm
sm
md
lg

ปคบ.จับร้านเสริมสวยปลอม อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.ต.จาตุรงค์ ภูมรินทร์ ผบก.ปคบ.แถลงข่าว จับยาย้อมผมปลอม เครื่องสำอางค์ปลอม
อย.ควง ปคบ.จับกุมร้านเสริมสวยย่านปิ่นเกล้า จำหน่ายผลิตภัณฑ์ราคาแพง-อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง ลูกค้าร้องเรียนใช้แล้วมีอการแพ้-หน้าบวม ด้านเจ้าของร้านอ้างจับกุมไม่เป็นธรรม-ธุรกิจได้รับความเสียหาย อีกคดีจับกุมลักลอบจำหน่าย “แชมพูย้อมผมปลอม” ให้ลูกค้าในราคาต่ำกว่าท้องตลาด

วานนี้ (17 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.30 น. พล.ต.ต.จตุรงค์ ภุมรินทร์ ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ และผู้แทนบริษัท ไดอารี่กรุ๊ป (2007) จำกัด แถลงข่าวจับกุม นายปิยะ ลั่นทมทอง อายุ 28 ปี พร้อมของกลางแชมพูย้อมผมปลอมยี่ห้อพาแคร์ เบซซี่ จำนวน 1,920 ซอง มูลค่า 133,032 บาท จับกุมได้ที่ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าคาร์ฟูร์ สาขาพระราม 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. โดยแจ้งข้อหาขายเครื่องสำอางปลอม และปลอมเครื่องหมายการค้าของผู้อื่น

พล.ต.ต.จตุรงค์ กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหาเนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าของผลิตภัณฑ์แชมพูย้อมผมยี่ห้อดังกล่าวได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.ว่ามีผู้ลักลอบปลอมแปลงผลิตภัณฑ์ของตนนำออกวางจำหน่ายตามท้องตลาดในราคาที่ต่ำกว่าของแท้ ในราคาซองละ 35 บาท จากราคาเต็มซองละ 69 บาท เพื่อล่อใจผู้บริโภค ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแชมพูย้อมผมปลอมชนิดนี้มีแหล่งผลิตมาจากบริษัทแห่งหนึ่งย่าน ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และผู้ผลิตก็เป็นเพื่อนในแวดวงธุรกิจเดียวกันกับผู้เสียหาย กระทั่งพบว่าจะมีการนำสินค้ามาส่งกันที่ห้างสรรพสินค้าคาร์ฟูร์ สาขาพระราม 2 เจ้าหน้าที่จึงวางแผนเข้าจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ สอบสวนเบื้องต้นพบว่าผู้ต้องหาเป็นเพียงคนงานของบริษัทดังกล่าวมีหน้าที่เพียงขนส่งสินค้า ทั้งนี้ ตำรวจได้นำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคบ.ดำเนินคดีต่อไป

ขณะที่ เภสัชกรวัฒนา อัครเอกฒาลิน ผอ.สำนักควบคุมเครื่องสำอางและวัตถุอันตราย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แถลงข่าวกรณีจับกุม น.ส.ภักคนัน ลิขิตดำรงชัย เจ้าของสถานเสริมความงาม “ร้อยมาลี” สาขาพาต้าปิ่นเกล้า ตั้งอยู่เลขที่ 41 ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กทม.พร้อมของกลางเครื่องสำอางประเภทต่างๆ เช่น ร้อยมาลีซุปเปอร์ดีเฟรนส์ มอยส์เจอไรเซอร์, ร้อยมาลีแฮร์มาร์ค ทรีทเม้นท์เซรัม, ร้อยมาลีสเปรย์เซรัม, ร้อยมาลีอายส์เจล และอุปกรณ์ที่ใช้บริการลูกค้า

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากทาง อย.ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคว่าเข้ารับบริการเข้าคอร์สเสริมความงามจากสถานเสริมความงามแห่งนี้ ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง แต่กลับไม่ได้ผลตามที่มีการกล่าวอ้างสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ต่างๆ นอกจากนี้ยังเกิดอาการแพ้จนหน้าบวมและเป็นสิว ซึ่งการตรวจสอบยังพบว่ามีการโฆษณาชวนเชื่อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ผ่านทางเคเบิลทีวี ต่อมา อย.จึงประสานตำรวจ บก.ปคบ.นำหมายศาลจังหวัดตลิ่งชัน เข้าตรวจค้นร้านดังกล่าว พร้อมกับจับกุมผู้ต้องหาและยึดของกลางดังกล่าว

จากการตรวจสอบชนิดของเครื่องสำอางของกลางพบว่ามีการแสดงฉลากภาษาไทยไม่ถูกต้องครบถ้วน และพบว่าบางรายการเคยถูก อย.เก็บตัวอย่างส่งตรวจวิเคราะห์สารที่ใช้มาแล้วซึ่งพบว่าผลิตภัณฑ์ไม่ได้มาตรฐานตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด จึงได้ห้ามผลิตและนำออกจำหน่ายไปแล้วแต่ทางสถานเสริมความงามแห่งนี้กลับยังนำมาใช้กับลูกค้า จึงแจ้งข้อหาผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางที่มีสารที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้เจือปนอยู่, ข้อหาผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง และโฆษณาแสดงสรรพคุณเครื่องสำอางโอ้อวดเกินจริง ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค

สอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่นำมาใช้กับลูกค้าทุกตัวสกัดมาจากสมุนไพรบริสุทธิ์ 100% ส่วนผลิตภัณฑ์ที่เคยถูก อย.สุ่มตรวจมีเพียงรายการเดียว คือ ร้อยมาลีสเปร์ยเซรั่ม ตามที่มีการกล่าวอ้างว่าผู้ใช้เกิดอาการข้างเคียง ซึ่งจุดนี้ต้องเข้าใจว่าเครื่องสำอางชนิดนี้ไม่มีการใส่สารกันเสีย หากเก็บไว้อย่างไม่ถูกต้องก็อาจมีผลกับผู้ใช้ได้จริง แต่ภายหลังก็ได้มีการปรับปรุงตัวผลิตภัณฑ์แล้ว การดำเนินการของ อย.เหมารวมผลิตภัณฑ์ทั้งหมดตนถือว่าไม่เป็นธรรมและทำให้ธุรกิจของตนเสียหาย

นอกจากนี้ วันเดียวกันที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พ.ต.อ.ณพวัฒน์ อารยางกูร ผกก.1 บก.ปคม.พร้อมกำลัง จับกุม น.ส.จำลอง ทองประสพ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121/42 หมู่ 13 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม.ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2662/2552 ลงวันที่ 14 กันยายน 2552 ข้อหาร่วมกันนำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่คนต่างด้าวให้เข้ามาในราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 จับกุมได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 70/3 หมู่ 1 ต.บ้านสระ อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากผู้ต้องหาได้ร่วมกับนายพรประสิทธิ์ บุญยเรศ ร่วมกันนำนายบัวลัก ชะทา คนต่างด้าวเข้ามาทำงานในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี ต่อมาเจ้าหน้าที่พบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.บ้านสระ อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี จึงวางแผนเข้าจับกุมตัวไว้ได้ สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคม.ดำเนินคดีต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น