4 ผู้ต้องหาปาบึ้มตลาดคลองเตย พร้อมทนายเข้ามอบตัวรับทราบข้อกล่าวหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โต้มีหลักฐานภาพวงจรปิดยืนยันไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ พร้อมยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 2 คนจ่อเข้ามอบตัว ด้าน ตร.ขอสอบปากคำก่อนพิจารณาว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่
วันนี้ (17 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ สน.ท่าเรือ นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน ได้นำผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับคดีปาระเบิดถล่มตลาดคลองเตย ช่วงกลางดึกวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา จำนวน 4 คน ประกอบด้วย นางมะณี หรือเจ๊น้อย กระตือหน อายุ 45 ปี เจ้าของแผงขายปลาดุก ตลาดคลองเตย 4 น.ส.สุภัทรา หรือติ๊ก กระตือหน อายุ 24 ปี สองแม่ลูกผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ 74/2553 และ 75/2553 ลงวันที่ 9 ก.พ.53 ตามลำดับ ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยเป็นผู้จ้างวานใช้ หรือยุยงส่งเสริม หรือด้วยวิธีอื่นใด, นายวิวัฒน์ หรือซี เทพสุภา อายุ 26 ปี แฟนหนุ่มของ น.ส.สุภัทรา และ นายเอก หรือใหม่ กลิ่นแก้ว อายุ 27 ปี เพื่อนของนายวิวัฒน์ สองผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ 73/2553 และ 72/2553 ลงวันที่ 9 ก.พ.53 ตามลำดับ ในข้อหาร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิดจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันพกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และร่วมกันมีและใช้ลูกระเบิดอันเป็นเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ เดินทางเข้ามอบตัวต่อ พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง ผบก.น.5 โดยมี พ.ต.อ.ธนิต เหรียญเจริญ ผกก.สน.ท่าเรือ และทีมพนักงานสอบสวนรอสอบปากคำอยู่ที่ห้องประชุม ชั้น 2 สน.ท่าเรือ
นายนิติธรเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตนได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไปพิจารณาแล้ว ส่วนวันนี้ตนได้พาตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ซึ่งถูกออกหมายจับมามอบตัวกับพนักงานสอบสวน โดยทุกคนยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น และขอให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากทางฝ่ายตนก็มีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดและพยานบุคคลที่สามารถยืนยันได้ว่า ผู้ต้องหาทุกคนได้ออกจากพื้นที่ที่เกิดเหตุไปแล้ว ก่อนหน้าที่จะมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นเสียอีก
นายนิติธรกล่าวต่อว่า ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 2 คน คือ นายปรมี หรือ ปอ เทพมณี อายุ 26 ปี และนายจิระศักดิ์ หรือปุ้ย แพบรรยง อายุ 29 ปี ที่ถูกออกหมายจับข้อหาเดียวกับนายวิวัฒน์ และนายเอกนั้น ยังไม่ได้เข้ามามอบตัวด้วย โดยครั้งสุดท้ายที่ตนสามารถติดต่อได้นั้น ทั้งสองคนก็ยืนยันว่าจะเข้ามามอบตัวอย่างแน่นอนและขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาด้วย แต่ขณะนี้ทั้งคู่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกดดันอยู่จึงยังไม่สามารถเดินทางมามอบตัวได้ อย่างไรก็ตามวันนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ได้เตรียมหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินขนาด 3 ไร่ 2 งาน 69 ตารางวา ย่านบางพลี จ.สมุทรปราการ มูลค่าประมาณ 4,000,000 บาท มายื่นประกันตัวแล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าทางพนักงานสอบสวนจะค้านการให้ประกันตัวหรือไม่
ด้าน นางมะณีเปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ตนกับครอบครัวไม่ได้ทำ และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพราะต้องทำมาหากิน แต่หลังเกิดเหตุระเบิดในช่วงเช้ามืดวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น วันรุ่งขึ้นก็มีคนร้ายเอาน้ำกรดมาราดที่ล้อรถจักรยานยนต์ของตนจนได้รับความเสียหายถึงในบ้านพัก หลังจากนั้นก็มีผู้ชายใช้โทรศัพท์สาธารณะโทร.มาข่มขู่ตนกับลูกสาวว่า ให้ครอบครัวตนระวังตัวให้ดี ถ้าไม่อยากตายให้ย้ายไปหาที่อยู่ใหม่ และยังมีกลุ่มชายฉกรรจ์นำลวดหนามมาล้อมแผงตนอีกด้วย ทั้งที่ศาลได้มีคำสั่งให้ความคุ้มครองไว้แล้ว ซึ่งตนก็ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร เนื่องจากอาศัยอยู่ที่บ้านและค้าขายในตลาดแห่งนี้มานาน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือด้วย
ด้าน พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง ผบก.น.5 กล่าวว่า ขอเรียนให้ทราบว่าตนไม่ได้อยากมีเรื่องกับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ที่ผ่านมาก็ทำตามหน้าที่ในฐานะผู้รักษากฎหมาย เพราะจะปล่อยให้ใครมาตีกันหรือนำระเบิดมาเขวี้ยงใส่กันไม่ได้ ส่วนในกรณีนี้ตำรวจก็รวบรวมพยานหลักฐานไปตามระบบจนสามารถออกหมายจับได้ หากฝ่ายผู้ต้องหามีหลักฐานโต้แย้งก็ขอให้ชี้แจงมา
พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวต่อว่า หลังจากผู้ต้องหาทั้ง 4 คนมอบตัวแล้ว ตำรวจก็จะทำการสอบสวนไปตามอำนาจหน้าที่ ส่วนจะพิจารณาให้ประกันตัวหรือไม่นั้นจะหารือกับทีมพนักงานสอบสวนอีกครั้ง เพื่อดูข้อกฎหมายตามหลัก ป.วิอาญา และข้อกฎหมายอื่นๆ ว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหรือหลักฐานหรือไม่ ส่วนเรื่องที่นางมะณีถูกทำลายทรัพย์สินหรือโดนชายลึกลับโทรศัพท์มาข่มขู่นั้นตนจะเร่งรัดทำการตรวจสอบให้โดยด่วน
