ศาลฎีกาพิพากษายืนประหารชีวิตหนุ่มแม่ฮ่องสอนค้าเฮโรอีน อัดแท่งตราสิงโต น้ำหนัก 14 กก. เผยคำเบิกความพยานมีน้ำหนัก หลักฐานมั่นคง อีกทั้งของกลางมีจำนวนมาก หากจำหน่ายออกไปส่งผลเสียหายต่อสังคม
วันนี้ (10 ก.พ.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา คดีที่พนักงานอัยการ ฝ่ายคดียาเสพติด 3 เป็นโจทก์ฟ้องนายพฤหัส เกริกเกรียวสกุล อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 5 ต.ปางมะผ้า อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน เป็นจำเลยในความผิดฐานมีเฮโรอีน อันเป็นยาเสพติดประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ฟ้องโจทก์เมื่อวันที่ 25 พ.ค.42
ระบุความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 42 เวลากลางวัน จำเลยกับพวกอีก 2 คนที่ยังหลบหนี ได้กระทำผิดกฎหมายโดยร่วมกันมีเฮโรอีนอัดแท่งตราสิงโตคู่เหยียบลูกโลกสีแดงอักษรตัวนูน 999 จำนวน 40 แท่ง หนัก 13.6 กก.เศษ ราคา 6 ล้านบาท พร้อมสิ่งห่อหุ้ม และรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ ทะเบียน กน-8682 เชียงใหม่ ก่อนถูก ร.ต.อ.จารึก ช่างศรี (ขณะนั้น) กับพวกเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1.บก.ปส.1บช.ปส.ปลอมตัวล่อซื้อ และจับกุมได้พร้อมของกลาง ที่ จ.เชียงใหม่ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
โดยจำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่รู้เห็นกับการกระทำผิด อ้างว่าขณะเกิดหเตได้ขับรถเดินทางไปเลือกตั้ง อบต.ที่บ้าน แต่ถูกชายฉกรรจ์อ้างเป็นตำรวจเข้ามาจับกุมตรวจค้นรถยนต์แต่ไม่พบยาเสพติดของกลาง
คดีนี้ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่าจำเลยกระทำผิดตาม ฟ้องจริง พิพากษาให้ประหารชีวิตและริบของกลาง ต่อมาจำเลยฎีกาขอให้ศาลพิพากษายกฟ้อง
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่าพยานโจทก์ได้ติดต่อล่อซื้อยาเสพติดจากจำเลย และมีการเจรจากันเรื่อยมา กระทั่งวันส่งมอบยาเสพติด จำเลยไหวตัวทันเตรียมขับรถยนต์หนี ส่วนของกลางอยู่ในรถอีกคันของพวกจำเลยที่ขับรถหนีไปและจอดไว้ข้างทางโดยทิ้งยาเสพติดไว้ในรถ คำเบิกความของโจทก์สอดคล้องเชื่อมโยงกันและไม่มีเหตุระแวงสงสัยว่าจะเป็นการกลั่นแกล้ง หรือปรุงแต่งปรักปรำใส่ร้ายจำเลย คำเบิกความของพยานโจทก์มีน้ำหนัก หลักฐานมั่นคง อีกทั้งของกลางมีจำนวนมาก หากจำเลยสามารถจำหน่ายออกไปได้ จะทำให้สังคมส่วนรวมได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยตามศาลชั้นต้นนั้นจึงเหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ไม่มีเหตุที่จะศาลฎีกาจะแก้ไข ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน
