ดีเจผับชื่อดังย่านอาร์ซีเอ เมายาคลุ้มคลั่งถือมีดอาละวาดเข้าบ้านเรือนประชาชนในซอยอินทามระ 41 ถูกสายตรวจคุมตัวมาสติอารมณ์ในห้องขัง ไม่วายอาละวาดทำลายข้าวของ ก่อนล้มหมดสติแน่นิ่งอยู่กับพื้นและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตร.คาดเสพยาเกินขนาดจนช็อก
วันนี้ (8 ก.พ.) เมื่อเวลา 15.30 น. ขณะที่ ร.ต.ท.รักเกียรติ์ ปทุมวัลย์ส พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.สุทธิสาร กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ก็มี ด.ต.สำเริง ขำบ้านกรวย สิบเวรควบคุมผู้ต้องหา สน.สุทธิสาร เข้ามาแจ้งว่ามีผู้ต้องหาที่เพิ่งถูกจับกุมมาเกิดอาการคลุ้มคลั่งอาละวาดขึ้นมาอีกครั้งภายในห้องขัง ก่อนจะนอนแน่นิ่งหมดสติอยู่กับพื้น จึงรีบแจ้งหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลราชวิถี เข้ามาปฐมพยาบาลทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงก็พบนายชัชพงศ์ จันทร์เกตุ อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 105 หมู่7 ต.ต้นผึ้ง อ.พังโคน จ.สกลนคร ที่เพิ่งถูกเจ้าหน้าที่สายตรวจจับกุมตัวมา เนื่องจากก่อเหตุคลุ้มคลั่งถือมีดอาละวาด อยู่ภายในซอยอินทามระ 41 แขวงและเขตดินแดง กทม. เมื่อเวลา 12.10 น.ที่ผ่านมา ได้เสียชีวิตแล้วในสภาพนอนหงาย สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ กางเกงยีนส์ขายาวถูกถลกลงไปกองอยู่ที่ข้อเท้า เหลือเพียงกางเกงในบ็อกเซอร์ตัวเดียว และสวมรองเท้าผ้าใบ ใกล้กันยังพบถังขยะใบใหญ่ล้มระเนระนาดมีเศษขยะกระจัดกระจายเต็มพื้น จึงรีบแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
ต่อมาเวลา 17.00 น. พ.ต.อ.พัลลภ สุวรรณบัตร รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผกก.สน.สุทธิสาร พ.ต.ท.มานะ เผาะช่วย รอง ผกก.สส.สน.สุทธิสาร พร้อมด้วยแพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลตำรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน อัยการ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบที่หน้าผากด้านซ้ายผู้เสียชีวิตมีรอยเขียวช้ำและบวม ข้อมือทั้งสองข้างมีรอยถูกรัดและบาดแผล และข้อศอกขวามีบาดแผลเป็นรอยยาว
ด้าน พ.ต.อ.พัลลภ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ตายเป็นดีเจอยู่ที่ร้าน “สลิม” ผับชื่อดังย่านอาร์ซีเอ เพิ่งถูกเจ้าหน้าที่สายตรวจจับมาคุมขังไว้หลังก่อเหตุอาละวาดและมีอาการคล้ายคนเมายาถือมีดวิ่งเข้าไปในบ้านเรือนประชาชน ภายในซอยอินทามระ 41 หลายหลัง และเมื่อถูกคุมขังก็ยังไม่เลิกอาละวาด ปีนป่ายอยู่ในห้องขังและทำลายถังขยะตลอดเวลา กระทั่งล้มลงหมดสติและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
พ.ต.อ.พัลลภ กล่าวต่อว่า สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตนั้น คาดว่าน่าจะเกิดจากการช็อกเพราะเสพยาเกินขนาด แต่ก็ต้องรอผลตรวจยืนยันจากแพทย์อีกครั้ง สำหรับบาดแผลที่ข้อมือทั้งสองข้างนั้น คาดว่าน่าจะเกิดจากการต่อสู้ขัดขืนระหว่างถูกใส่กุญแจมือ ที่หน้าผากน่าจะเกิดจากการอาละวาดแล้วไปกระแทก เพราะในห้องควบคุมผู้ต้องหาไม่มีผู้ต้องหาคนอื่นอยู่ มีเพียงนายชัชพงศ์เพียงคนเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ได้ให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำ ด.ต.สำเริง เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมประสานญาติผู้ตาย และผู้เสียหายที่ถูกนายชัชพงศ์บุกเข้าไปภายในบ้านมาให้ปากคำเพิ่มเติมแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายชัชพงศ์ยังเป็นแชมป์การแข่งขันดีเจในรายการ “ไพโอเนียร์โปรดีเจไทยแลนด์” ที่จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ เมื่อปี 2005 และเป็นอาจารย์สอนเปิดเพลงอยู่ที่ร้านสลิม มีลูกศิษย์จำนวนมากอีกด้วย