เสี่ยเจ้าของร้านนาฬิกา แจ้งความจับเมีย สวป.พื้นที่ บก.น.9 หลอกตุ๋นเงินไปร่วมลงทุนปล่อยกู้ สูญกว่า 10 ล้าน แถมถูกข่มขู่จะเอาชีวิตทั้งครอบครัว เผยมีผู้ตกเป็นเหยื่อบานเบอะ ทั้งอาจารย์ รวมทั้งดาราด้วย
วันนี้ (5 ก.พ.) เมื่อเวลา 15.00 น. นายนพดล เรขาชินบุตร อายุ 43 ปี เจ้าของร้านขายนาฬิกา พร้อมผู้เสียหายอีก 3-4 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภรรยาข้าราชการระดับสูง เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.พัฒน์วิทย์ แสงมุกดา พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ธรรมศาลา เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อนางพิราวรรณ อุดมชัยนิธิยศ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/121 หมู่ 7 แขวงศาลาธรรมสพน์ แขตทวีวัฒนา ภรรยานายตำรวจ ตำแหน่ง สวป.สน.แห่งหนึ่งในท้องที่ บก.น.9 ในข้อหาฉ้อโกงเงินไปจำนวนกว่า 10 ล้านบาท อีกทั้งยังถูกข่มขู่เอาชีวิต
นายนพดลเปิดเผยว่า ได้รู้จักกับนางพิราวรรณก็เพราะลูกเรียนอยู่ที่โรงเรียนเดียวกัน โดยนางพิราวรรณได้เข้ามาตีสนิทพูดจาหว่านล้อมให้เอาเงินมาร่วมลงทุนปล่อยเงินกู้ ซึ่งก็เห็นว่าลูกหนี้ที่มากู้เงินนั้นส่วนใหญ่เชื่อถือได้เพราะเป็นอาจารย์ หรือภรรยาข้าราชการระดับสูง ซึ่งภายหลังก็มีการนัดเจอทำความรู้จักกันระหว่างตนกับบรรดาลูกหนี้ที่จะมากู้เงิน จนเดือน ต.ค.ที่ผ่านมาก็ให้เงินนางพิราวรรณไป 400,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 5
นายนพดลกล่าวต่อว่า ช่วง 2 เดือนแรกได้เงินพร้อมดอกเบี้ยกลับคืนมา 50,000 บาท แต่หลังจากนั้นนางพิราวรรณก็พูดจาหว่านล้อมให้ร่วมลงทุนเพิ่มอีก จนหลงเชื่อเนื่องจากเห็นว่าลูกหนี้ที่มากู้เงินส่วนใหญ่เชื่อถือได้ จึงให้เงินจำนวนดังกล่าวไป ซึ่งหลังจากนั้นก็ม่ได้เงินกลับคืนมาอีกเลย เมื่อโทรศัพท์ไปทวงก็ไม่ยอมรับสาย แถมบางครั้งยังโทร.กลับมาข่มขู่ด้วยว่าให้ระวังลูกเมีย หรือครอบครัวเอาไว้ให้ดี
นายนพดลกล่าวต่อว่า จากนั้นก็ถามลูกหนี้โดยตรง จึงทำให้รู้ว่าถูกนางพิราวรรณหลอกลวงแน่นอน เพราะฝ่ายลูกหนี้ก็ถูกพูดชักชวนให้เอาเงินมาร่วมกันลงทุนปล่อยเงินกู้ โดยมีตนเป็นลูกหนี้ที่จะมากู้เงิน จึงทำให้ทราบว่าความจริงว่า ต่างฝ่ายต่างถูกนางพิราวรรณหลอก อีกทั้งทุกครั้งที่นัดเจอกันสามีของนางพิราวรรณที่เป็นตำรวจ ก็จะมาด้วยทุกครั้ง จึงน่าจะรู้เรื่องด้วยแน่นอน จึงได้พากันมาแจ้งความในวันนี้
“ผมถูกหลอกน้อยที่สุดแล้ว เพราะบางคนถูกหลอกเป็นล้าน ทุกวันนี้ชีวิตอยู่ไม่เป็นสุข เพราะเขาถือปืน เราถือกระดาษ กิจการก็เปิดไม่ได้ ต้องย้ายบ้านหนี ลูกก็ไม่ได้ไปโรงเรียน แต่คนชั่วกลับอยู่สุขสบาย” นายนพดลกล่าว
ด้านผู้เสียหายรายหนึ่งกล่าวว่า เริ่มแรกก็เข้ามาพูดจาหว่านล้อม รวมทั้งวนัดเจอกันกับลูกหนี้ที่จะมากู้เงิน ซึ่งมีทั้งอาจารย์ ดารา หรือคนที่มีชื่อเสียง ซึ่งนางพิราวรรณอ้างว่าจะเป็นคนมากู้เงินตน แต่ก็มารู้ภายหลังว่าถูกหลอกเช่นกัน โดยตนถูกนางพิราวรรณหลอกลวงไปล้านกว่าบาท 2 เดือนแรกก็จะใช้เงินคืนพร้อมดอกเบี้ย แต่หลังจากนั้นเดือนที่ 3-4 ก็ไม่ยอมใช้เงินคืนเลย อีกทั้งยังตามข่มขู่ ทำให้พวกตนเกิดความกลัวเพราะนางพิราวรรณ มีสามีเป็นตำรวจ มีลูกน้องมากมาย
ด้าน ร.ต.อ.พัฒน์วิทย์ พนักงานสอบสวน เจ้าของคดีกล่าวว่า เบื้องต้นจะรับแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน โดยคดีนี้เข้าข่ายความผิดคดีแพ่ง ส่วนเรื่องข่มขู่นั้นจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง พร้อมทั้งแจ้งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาทราบอีกครั้ง