ตำรวจโรงพักธรรมศาลา รวบขี้เมาก่อเหตุใช้มีดผิดด้านปาดคอแท็กซี่จี้ชิงรถ แม้โชเฟอร์พยายามขับหนี แต่ถูกจ้วงแทงกลางหลัง 1 แผล ด้วยความกลัวถูกฆ่าจึงตัดสินใจเปิดประตูรถกระโจนหนี ทำให้รถเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ แล้วคนร้ายได้ขับหนีจนมาเจอด่านตำรวจสกัดจับควบคุมตัวดำเนินคดี
วันนี้ (15 ม.ค.) เมื่อเวลา 04.45 น. ขณะที่ ร.ต.ท.นิคม มโนสุข รองสวป.สน.ธรรมศาลา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.ธรรมศาลา กำลังตั้งด่านตรวจอยู่ที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลธนบุรี 2 ถนนบรมราชชนนี ฝั่งขาออก แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา ได้รับแจ้งทางวิทยุให้สกัดจับรถแท็กซี่โตโยต้า อัลติส สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทร-4918 กทม.ที่ถูกคนร้ายจี้ชิงทรัพย์มา
จากนั้นเจ้าหน้าที่พบรถแท็กซี่คันดังกล่าวคล้ายถูกเฉี่ยวชนมา พร้อมกับขับส่ายไปส่ายมาจึงเรียกให้หยุดเพื่อทำการตรวจค้น แต่คนขับพยายามขับรถฝ่าด่านทำให้เจ้าหน้าที่สายตรวจกว่า 10 นายต้องรีบเข้าสกัดทันที เมื่อรถจอดสนิท พบนายเกียรติศักดิ์ ศรีลาดเลา อายุ 21 ปี ชาว จ.ยโสธร อยู่ในสภาพมึนเมาสุราอย่างหนักพูดจาไม่รู้เรื่อง จึงควบคุมตัวนายเกียรติศักดิ์มาสอบปากคำที่โรงพักแต่เจ้าตัวยังให้การไม่รู้เรื่อง
ทั้งนี้ จากการตรวจค้นภายในรถพบอาวุธมีดปลายแหลมขนาด 30 ซม.วางอยู่บนเบาะข้างคนขับ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ยังพบรอยเลือดติดอยู่ที่เบาะคนขับอีกเป็นจำนวนมาก และเมื่อทำการตรวจสอบรถคันดังกล่าวพบว่าเป็นของนายบันเทิง ฟองทา อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวมาชี้ตัวคนร้ายที่โรงพัก
จากการสอบสวนนายบันเทิงให้การว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังขับรถตระเวนหาผู้โดยสารอยู่ เมื่อมาถึงสามแยกไฟฉาย นายเกียรติศักดิ์ซึ่งอยู่ในสภาพมึนเมาสุราได้โบกรถขึ้นมานั่งเบาะหลัง พร้อมทั้งบอกให้ไปส่งที่ซอยจรัญสนิทวงศ์ 35 แต่เมื่อขับมาถึงบริเวณแยกแก้วแหวนเงินทอง คนร้ายก็ชักมีดขึ้นมาจี้ชิงรถก่อนจะปาดคอตนทันที แต่โชคดีที่คนร้ายใช้มีดผิดด้านเลยทำให้บาดเจ็บเล็กน้อย
นายบันเทิงให้การต่อว่า ตนพยายามขับรถหนี แต่คนร้ายใช้มีดจ้วงแทงเข้าที่กลางหลังตนอีก 1 ครั้ง ซึ่งตนกลัวว่าจะถูกกระหน่ำแทงอีกเลยตัดสินใจเปิดประตูรถก่อนกระโดดลงข้างทางทันที ทำให้รถพุ่งไปเฉี่ยวกับต้นไม้ จากนั้นคนร้ายรีบขับรถแท็กซี่หนีไป ตนจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้สกัดจับ จนกระทั่งจับกุมได้ดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธ หลบหนีการจับกุม และขับรถในขณะมึนเมาสุรา ก่อนควบคุมตัวนายเกียรติศักดิ์ส่งพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน ท้องที่เกิดเหตุดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป