“สมยศ” เรียกทีมพนักงานสอบสวนคดีพันธมิตรฯ ยึดสนามบินประชุม เพื่อพิจารณาข้อมูลหลักฐานให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ก่อนสรุปให้คณะกรรมการชุดใหญ่ลงความเห็น ส่งให้ “ปทีป” ดำเนินการต่อไป ปฏิเสธให้รายละเอียดเชิงลึก เกรงจะคลาดเคลื่อน ย้ำทำตามพยานหลักฐานตามกฎหมาย
วันนี้ (2 ก.พ.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.30 น. พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ช่วยผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีพันธมิตรฯ บุกรุกท่าอากาศยาน พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบช.ก. ในฐานะรองหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ได้เรียกประชุมพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าว เพื่อร่วมพิจารณาสรุปผลการสอบสวน โดยที่ประชุมได้นำผลการตรวจหลักฐาน ซึ่งมีทั้งภาพจากแผ่นซีดี, ภาพถ่าย และข้อมูลหลักฐานจากสื่อมวลชน บันทึกการสอบปากคำพยาน บันทึกของพนักงานสอบสวน พยานเอกสาร พยานวัตถุ มาร่วมตรวจสอบกับข้อกฏหมายต่างๆ เพื่อดูความสมบูรณ์ของสำนวนทั้งหมด ซึ่งคดีนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปลายเดือน ก.พ.นี้
พล.ต.ท.สมยศ กล่าวก่อนเข้าประชุมว่า ได้เรียกพนักงานสอบสวนมาประชุมสรุปข้อมูลหลักฐาน และพยานที่ได้มาว่ายังมีข้อบกพร่องตรงจุดไหนบ้าง มีอะไรที่ขาดเหลือ ซึ่งต้องทำสำนวนให้สมบูรณ์ที่สุด หากสมบูรณ์แล้วจะสรุปสำนวนให้คณะพนักงานสอบสวนระดับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกครั้ง หลังจากนั้นจะขึ้นอยู่ที่คณะกรรมการชุดใหญ่ว่ามีความเห็นอย่างไร โดยจะมีการส่งสำนวนให้ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทน ผบ.ตร.พิจารณาอีกครั้งว่ามีความเห็นอย่างไร จะสั่งฟ้องใครหรือไม่
“ที่ผ่านมาเราพยายามดำเนินการให้เร็วที่สุด ไม่มีการดึง ไม่มีการถ่วง แต่เราก็ทำอย่างรอบคอบที่สุด เพราะเป็นคดีที่ประชาชนชาวไทยและต่างชาติให้ความสนใจ เฝ้ารอว่าผลสรุปคดีจะออกมาเป็นอย่างไร แม้พนักงานสอบสวนจะมีเวลาทำงานน้อย แต่ก็พยายามทำให้เสร็จ ตามกำหนด และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ถูกผิดว่ากันไปตามหลักฐาน เพราะตำรวจอยู่ตรงกลาง แม้จะถูกมองว่าอยู่ทางซ้ายหรือขวาก็ตาม” ผู้ช่วยผบ.ตร.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการดำเนินคดีต่อใครเพิ่มเติมบ้าง พล.ต.ท.สมยศ กล่าวว่า ตอบไม่ได้ ต้องให้คณะพนักงานสอบสวนระดับ ตร.เป็นผู้พิจารณาเสนอ หากตนพูดไปอาจคลาดเคลื่อนได้
พล.ต.ท.สมยศ ยังกล่าวถึงคำถามว่าคดีนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงข้อกล่าวหาหรือไม่ว่า ทุกอย่างเราทำไปตามพยานหลักฐานและข้อกฎหมายทุกอย่าง ซึ่งคงไม่สามารถที่จะไปเปลี่ยนแปลง ข้อเท็จจริงอะไรได้
