อธิบดีราชทัณฑ์เผยเหตุผู้ต้องขังใช้อาวุธดัดแปลงรุมแทงกันที่เรือนจำกาญจนบุรีจนเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 4 ราย เชื่อน่าเกิดจากผู้ต้องขังทั้งสองกลุ่มเป็นอริเก่ามาก่อน เมื่อเจอจึงเขม่นทำร้ายกัน ย้ำเห็นใจผู้คุมเพราะสุดวิสัยอันตรายเข้าห้ามไม่ได้ พร้อมพิจารณาคำร้องขอของญาติให้ย้ายผู้ต้องขังกลับเรือนจำเดิม ตามเงื่อนไขที่เหมาะสม
วันนี้ (2 ก.พ.) นายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงกรณีผู้ต้องขังเรือนจำ จ.กาญจนบุรี ก่อเหตุวิวาทแทง นช.สราวุธ ถวายนาค อายุ 29 ปี ผู้ต้องขังคดียาเสพติด ด้วยของมีคมดัดแปลงเป็นอาวุธจนเสียชีวิต นอกจากนี้มีผู้ต้องขังรายอื่นได้รับบาดเจ็บอีก 4 ราย เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ผู้ต้องขังที่ถูกทำร้ายดังกล่าวเพิ่งย้ายมาจากเรือนจำจ.สมุทรสงคราม มาควบคุมที่เรือนจำ จ.กาญจนบุรี เพื่อระบายความแออัดของเรือนจำสมุทรสงคราม โดยขณะเกิดเหตุผู้คุมกำลังพาผู้ต้องขังที่ย้ายมาใหม่ไปตัดผม ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนแรกรับผู้ต้องขัง ระหว่างนั้นมีผู้ต้องขังประมาณ 6-7 คนเข้ามารุมทำร้ายด้วยอาวุธดัดแปลงต่างๆ เช่น เหล็กเส้นเหลาปลายให้แหลม ช้อนสังกะสี จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต 1 ราย ระหว่างนั้นมีผู้คุมอยู่ แต่เหตุการณ์ค่อนข้างอันตรายต้องเห็นใจผู้คุมว่านักโทษมีจำนวนมาก ไม่สามารถเข้าไปห้ามได้ เพราะอาจถูกผู้ต้องขังแทงได้ เหมือนเหตุการณ์ที่นักโทษทำร้ายผู้คุมที่เรือนจำสมุทรสาคร เมื่อหลายปีที่ผ่านมา
“นักโทษ 400-500 คน มีผู้คุมไม่เกิน 10 คน ผู้คุมทำหน้าที่เรียกให้ผู้ต้องขังเดินเข้าแถวตามคำสั่ง แต่หากเกิดความวุ่นวายผู้คุมก็เอาไม่อยู่ ดังนั้นปัญหาของเราคือพยายามให้ทุกเรือนจำดำเนินการตรวจหาอาวุธ ตามล็อคเกอร์ ตู้เก็บของและโรงฝึกงานวิชาชีพ อยู่เป็นประจำเดือนละ 2 ครั้ง ซึ่งอาวุธจริงๆ นั้นไม่มี แต่ผู้ต้องขังก็ใช้วิธีดัดแปลงวัสดุสิ่งต่างๆ ให้เป็นอาวุธแล้วเตรียมเอาไว้ เมื่อยกพวกทำร้ายกันจึงนำมาใช้” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าว
นายชาติชายกล่าวอีกว่า การก่อเหตุทะเลาะวิวาทรุมทำร้ายกัน เชื่อว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากผู้ต้องขังทั้งสองกลุ่มเป็นอริเก่า เมื่อมาเจอจึงทำร้ายกัน เพราะพิจารณาแล้วไม่น่าจะมีสาเหตุอื่น อย่างไรก็ตามระหว่างนี้ทางเรือนจำจะดูแลผู้บาดเจ็บทั้ง 4 รายให้ดีที่สุด
ส่วนกรณีที่ญาติร้องขอให้ย้ายผู้บาดเจ็บทั้งหมดกลับไปยังเรือนจำ จ.สมุทรสงคราม เหมือนเดิมนั้น ทางกรมราชทัณฑ์จะพิจารณาให้อย่างดีที่สุด โดยคำนึงถึงความสะดวก ใกล้ภูมิลำเนาที่ญาติสามารถเดินทางมาเยี่ยมผู้ต้องขังได้ แต่ทั้งนี้ผู้ต้องขังเองต้องไม่มีพฤติกรรมก่อเหตุทะเลาะวิวาทขณะอยู่ภายในเรือนจำ หรือกรณีศาลพิพากษาแล้วผู้ต้องขังได้รับโทษสูงเกินกว่าเงื่อนไขของเรือนจำแห่งนั้น ซึ่งผู้ต้องขังจะต้องถูกส่งไปยังเรือนจำอื่น เช่น เรือนจำกลางบางขวาง ตามระเบียบของเรือนจำเป็นต้น
