รวบแก๊งรถกระบะอัดแน่นชาวกัมพูชา 21 คน ใส่ท้ายรถใช้ตาข่ายพลาสติกกรองแสงสีดำคลุมพรางตาตำรวจ แต่ไม่รอด รับสารภาพได้ค่าจ้างครั้งละ 2 พัน เคยพาแรงงานลักเข้ามาต่อเที่ยวมากถึง 28 คน
วันนี้ (1 ก.พ.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) เมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.อ.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผกก.2 บก.ปคม. พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชูศักดิ์ เคทอง รองผกก.ช่วยราชการ บก.ปคม. แถลงข่าวจับกุม นายจงรักษ์ วงษ์พวง อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 2 ต.ชัยนารายณ์ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี และ นายอดิศักดิ์ จะตุเทน อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133 หมู่ 3 ต.ผักขะ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว และ แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา รวม 21 ราย ได้ที่สามแยกทางเข้าวัดโสธร ถนนสุวินทวงศ์ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา พร้อมของกลางรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ถฎ 6557 กทม. และรถแท็กซี่โตโยต้าโคโรล่า สีเขียวเหลือง ทะเบียน มจ 1344 กทม.
พ.ต.อ.วรพงษ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สืบทราบว่ามีรถกระบะลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองด้านชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว วันละประมาณ 5-10 เที่ยว จึงวางแผนเข้าสกัดจับ โดยเจ้าหน้าที่พบรถกระบะต้องสงสัย รวม 5 คัน ขับผ่านบริเวณสามแยกทางเข้าวัดหลวงพ่อโสธร แต่สามารถสกัดจับไว้ได้ 1 คัน เป็นรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ถฎ 6557 กทม. โดยมีนายจงรักษ์ และนายอดิศักดิ์ เป็นคนขับรถ จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นที่กระบะหลังพบแรงงานต่างด้าว 21 คน ซึ่งมีการนำสะแลน (ตาข่ายพลาสติกกรองแสงสีดำ) มาคลุมปิดบังไว้ เบื้องต้นแรงงานต่างด้าวทั้งหมดรับว่า ได้หลบหนีเข้ามาเพื่อทำงานก่อสร้างและรับจ้างทั่วไป โดยต้องเสียเงินค่ารถคนละ 1,500-3,000 บาท
พ.ต.อ.วรพงษ์ กล่าวต่อไปว่า ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาพร้อมกับแรงงานต่างด้าวได้มีรถแท็กซี่โตโยต้าโคโรล่า สีเขียวเหลือง ทะเบียน มจ 1344 กทม. ขับผ่านมา เพื่อรอรับแรงงานต่างด้าว แต่คนขับซึ่งทราบชื่อภายหลัง คือ นายทองพูน เพ่งพิศ เกิดไหวตัวทันทิ้งรถแล้วหลบหนีไปได้
สอบสวนนายจงรักษ์ และนายอดิศักดิ์รับสารภาพว่า ได้รับว่าจ้างจากนายหนอง ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุล ว่าจ้างให้ขับรถกระบะขนแรงงานต่างด้าวไปส่งตามจุดนัดหมาย ซึ่งมีนายทองพูน ขับรถแท็กซี่มารับอีกทอดหนึ่ง โดยทำมาแล้วหลายครั้ง และเคยรับแรงงานมากสุดต่อเที่ยวรวม 28 คน ซึ่งแต่ละครั้งจะได้ค่าจ้างเป็นเงิน 2,000 บาท
ทั้งนี้ ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคม.ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันนำหรือพาบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และเตรียมขยายผลติดตามจับกุมนายทองพูน รวมทั้งตรวจสอบข้อมูลชื่อสกุลและสเกตช์ภาพของนายหนอง ก่อนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับและติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (1 ก.พ.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) เมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.อ.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผกก.2 บก.ปคม. พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชูศักดิ์ เคทอง รองผกก.ช่วยราชการ บก.ปคม. แถลงข่าวจับกุม นายจงรักษ์ วงษ์พวง อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 2 ต.ชัยนารายณ์ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี และ นายอดิศักดิ์ จะตุเทน อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133 หมู่ 3 ต.ผักขะ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว และ แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา รวม 21 ราย ได้ที่สามแยกทางเข้าวัดโสธร ถนนสุวินทวงศ์ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา พร้อมของกลางรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ถฎ 6557 กทม. และรถแท็กซี่โตโยต้าโคโรล่า สีเขียวเหลือง ทะเบียน มจ 1344 กทม.
พ.ต.อ.วรพงษ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สืบทราบว่ามีรถกระบะลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองด้านชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว วันละประมาณ 5-10 เที่ยว จึงวางแผนเข้าสกัดจับ โดยเจ้าหน้าที่พบรถกระบะต้องสงสัย รวม 5 คัน ขับผ่านบริเวณสามแยกทางเข้าวัดหลวงพ่อโสธร แต่สามารถสกัดจับไว้ได้ 1 คัน เป็นรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ถฎ 6557 กทม. โดยมีนายจงรักษ์ และนายอดิศักดิ์ เป็นคนขับรถ จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นที่กระบะหลังพบแรงงานต่างด้าว 21 คน ซึ่งมีการนำสะแลน (ตาข่ายพลาสติกกรองแสงสีดำ) มาคลุมปิดบังไว้ เบื้องต้นแรงงานต่างด้าวทั้งหมดรับว่า ได้หลบหนีเข้ามาเพื่อทำงานก่อสร้างและรับจ้างทั่วไป โดยต้องเสียเงินค่ารถคนละ 1,500-3,000 บาท
พ.ต.อ.วรพงษ์ กล่าวต่อไปว่า ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาพร้อมกับแรงงานต่างด้าวได้มีรถแท็กซี่โตโยต้าโคโรล่า สีเขียวเหลือง ทะเบียน มจ 1344 กทม. ขับผ่านมา เพื่อรอรับแรงงานต่างด้าว แต่คนขับซึ่งทราบชื่อภายหลัง คือ นายทองพูน เพ่งพิศ เกิดไหวตัวทันทิ้งรถแล้วหลบหนีไปได้
สอบสวนนายจงรักษ์ และนายอดิศักดิ์รับสารภาพว่า ได้รับว่าจ้างจากนายหนอง ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุล ว่าจ้างให้ขับรถกระบะขนแรงงานต่างด้าวไปส่งตามจุดนัดหมาย ซึ่งมีนายทองพูน ขับรถแท็กซี่มารับอีกทอดหนึ่ง โดยทำมาแล้วหลายครั้ง และเคยรับแรงงานมากสุดต่อเที่ยวรวม 28 คน ซึ่งแต่ละครั้งจะได้ค่าจ้างเป็นเงิน 2,000 บาท
ทั้งนี้ ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคม.ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันนำหรือพาบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และเตรียมขยายผลติดตามจับกุมนายทองพูน รวมทั้งตรวจสอบข้อมูลชื่อสกุลและสเกตช์ภาพของนายหนอง ก่อนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับและติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป